หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง BBIK ว่า คาดกำไรปกติ 4Q24 เติบโตเด่น QoQ และ YoY
คาดกำไรปกติ 4Q24 ที่ 101 ล้านบาท (+15% QoQ, +28% YoY) เป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี 2024 และจะเป็นจุดสูงสุดใหม่ของบริษัทฯ อีกครั้ง กำไรปกติที่เติบโตเด่นทั้ง QoQ และ YoY มาจากรายได้ที่เติบโตต่อเนื่องและส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทฯ ร่วมที่แข็งแกร่ง สรุปสาระสำคัญดังนี้ คาดรายได้หลักที่ 409 ล้านบาท (+5% QoQ, +10% YoY) หนุนจากรอบการรับรู้งานใน Backlogs กลุ่มที่ยังเติบโตดียังคงเป็นกลุ่มด้าน Digital Excellence and Delivery
คาดอัตราการทำกำไรขั้นต้นที่ 51.0% (+408 bps QoQ, +577 bps YoY) อัตรากำไรขั้นต้นดีกว่าปกติแต่มีผลของการปรับปรุงรายการทางบัญชี แต่หากไม่รวมผลบวกทางบัญชี คาดว่า GPM ปกติจะยังปรับเพิ่มขึ้นจาก economies of scale SG&A คาดที่ 113 ล้านบาท (+5% QoQ, +20% YoY) ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมคาดที่ 20 ล้านบาท (-14% QoQ, -14% YoY) อัตราภาษีจ่ายคาดที่ 10% BBIK จะรายงานผลประกอบการ 4Q24 ในวันที่ 19 ก.พ. 25
ตั้งเป้าหมายปี 2025 เติบโตในกรอบ 25%-30%
หากกำไรออกมาตามคาด กำไรปกติทั้งปี 2024 จะอยู่ที่ 301 ล้านบาท ดีกว่าคาดการณ์ของเราที่ 287 ล้านบาท ราว 5% และแม้เป็นปีที่ถูกท้าทายจาก 1H24 ที่งานขาดหายไป แต่บริษัทฯ ชดเชยได้ดีใน 2H24 ที่เด่น ขณะที่แนวโน้มปี 2025 BBIK วางเป้าหมายการเติบโตที่ระดับ 25%-30% YoY โดยปัจจัยหนุนสำคัญอยู่ที่การเจาะงานภาครัฐเพิ่มขึ้นจากเดิม 5% ของกลุ่มขึ้นเป็นระดับ 10%-15% ของกลุ่ม และการลงทุนต่อเนื่องของภาคเอกชนโดยเฉพาะในงานด้าน AI, Cybersecurity, และงานด้าน Digital Transformation ปรับลดประมาณการการเติบโตปี 2025 ให้อนุรักษ์นิยมมากขึ้นเพื่อให้สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังท้าทายและความผันผวนที่สูงของเศรษฐกิจโลกจากสงครามการค้า เราปรับสมมติฐานการเติบโตให้อนุรักษ์นิยมมากขึ้น โดยคาดกำไรปกติปี 2025 ที่ 360 ล้านบาท (+26% YoY) อิงสมมติฐาน
รายได้เติบโต 16% YoY GPM รักษาระดับได้ ส่วนแบ่งกำไรจาก Orbit รักษาระดับได้ ปัจจัยหนุนสำคัญที่จะทำให้ประมาณการของเราต่ำเกินไป ได้แก่ BBIK ได้งาน Virtual Bank ขนาดใหญ่ในช่วง 2H25 ขณะที่ความเสี่ยงของประมาณการคือภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอทำให้บริษัทฯ ขนาดใหญ่เลือกชะลอการลงทุนด้านเทคโนโลยี หรือเลือกลงทุนเท่าที่จำเป็น
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2025 ที่ 47.50 บาทต่อหุ้น
เราปรับปรุงสมมติฐานในการประเมินมูลค่าของเราดังนี้ ปรับลด Multiple จาก 32x เหลือ 26.5x หรือที่ระดับ -1.5SD ของค่าเฉลี่ยในอดีตเพื่อให้สะท้อนความเสี่ยงของตลาดทุนที่ผันผวนมากขึ้นและการเติบโตที่ท้าทายขึ้นจากฐานกำไรที่สูงกว่าเดิม และ ปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2025 แทนราคาเหมาะสมกลางปี 2025
ประเมินราคาเหมาะสมใหม่ของ BBIK ที่ 47.50 บาทต่อหุ้น อิง PER 26.5x เชิงพื้นฐานเราคงคำแนะนำ “ซื้อ” กำไรของ BBIK ยังเด่นต่อเนื่องและดีเพียงพอที่จะสนับสนุน PER ที่อยู่ในระดับสูงกว่ากลุ่ม ขณะที่อิงประมาณการที่อนุรักษ์นิยมมากขึ้น ราคาหุ้นปัจจุบันก็ยังซื้อขายบน PER25 ที่เพียง 18.6x เทียบกับศักยภาพการเติบโตระดับ 25%-30% ที่คาดจะยังทำได้ไปอีกระยะ หุ้นไม่แพงเทียบกับการเติบโต