จีนขึ้นภาษีสหรัฐฯ แต่ยังไร้สัญญาเจรจาทรัมป์ มองหุ้นขนาดใหญ่น่าสะสม

         หุ้นวิชั่น – บล.พาย เผยจีนขึ้นภาษีสหรัฐฯ ทรัมป์ยังไม่มีท่าทีอะไร แต่ล่าสุดมีรายงานว่าทั้ง 2 ประเทศจะคุยกัน โดยแรงงานสหรัฐฯเริ่มมีสัญญาณชะลอ ในประเทศตัวเลขนักท่องเที่ยว YoY ยังโต หุ้นไทยไม่แพงยังมองเป็นโอกาสสะสม

         ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 134 จุด (+0.3%) นักลงทุนคาดหวังว่าสหรัฐฯ กับจีนจะบรรลุข้อตกลงกันได้เช่นเดียวกับที่สหรัฐฯ สามารถเจรจากับแคนาดาและเม็กซิโกได้ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.3% กังวลอุปสงค์จะถูกกระทบจากสงครามการค้า

         เมื่อวานที่ผ่านมาช่วงบ่ายตามเวลาประเทศไทย จีนได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเพิ่ม 15% ในสินค้าบางชนิดจากสหรัฐฯประกอบไปด้วย แก๊สธรรมชาติ ถ่านหิน และน้ำมันดิบ อุปกรณ์การเกษตร รวมถึงรถยนต์บางประเภทในอัตรา 10% มีผลบังคับใช้วันที่ 10 ก.พ. แต่อย่างไรก็ตามรายงานล่าสุดระบุว่าทั้ง 2 ประเทศเตรียมจะเจรจากันเร็วๆ นี้ หากมีสัญญาณคืบหน้าจะเป็นบวกกับตลาดหุ้น

         ส่วนเมื่อคืนสหรัฐฯ ได้รายงานตัวเลขตำแหน่งเปิดรับสมัครงาน (Job Opening) ที่ 7.6 ล้านตำแหน่งแย่กว่าที่ Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 8 ล้านตำแหน่ง ซึ่งเป็นสัญญาณชี้ถึงตลาดแรงงานเริ่มชะลอตัว ทำให้เมื่อคืนที่ผ่านมา US Bond Yield กลับมาปรับตัวลง พร้อมกับการอ่อนค่าของ Dollar Index หนุนให้บาทกลับมาแข็งค่า

         ระยะสั้นเป็นปัจจัยสนับสนุนตลาดหุ้นฝั่งเอเชีย ข้อมูลล่าสุดจาก CME FED Watch ให้น้ำหนักที่ FED จะลดดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. จากนี้รอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯโดยเฉพาะตลาดแรงงาน คืนนี้จะมีการรายงานการจ้างงานภาคเอกชน (ADP) Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.48 แสนรายและดัชนี PMI จาก ISM Bloomberg ประเมินไว้ที่ 54.2 หากแย่กว่าคาดการณ์จะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นทั่วโลก

         ด้านปัจจัยในประเทศวานนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาออกมารายงานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยในช่วง 27 ม.ค.- 2 ก.พ. พบว่าอยู่ที่ 9.46 แสนราย (+7.5%WoW) โดยนักท่องเที่ยวจีนอยู่ที่ 1.77 แสนราย (-0.5%WoW) มาเลเซีย 1.7 แสนราย (+79%WoW) รัสเซีย 5.5 หมื่นราย (+2.9%WoW) และทำให้ YTD มีนักท่องเที่ยวสะสมราว 3.96 ล้านคน (+21%YoY) หรือ คิดเป็นต่อวันเฉลี่ยที่ 1.35 แสนราย และสร้างรายได้ต่อประเทศ 1.95 แสนล้านบาท

         ในขณะเดียวกันเมื่อวานที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติมาตรการดึงดูดผู้ประกอบการธุรกิจการเงินจากต่างประเทศให้มาประกอบธุรกิจในไทยเพื่อหนุนการส่งเสริม Financial Hub เป็นปัจจัยบวกเชิงจิตวิทยาเล็กน้อยต่อการลงทุนในหุ้นไทย

         วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,295 – 1,315 จุด ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนยังแนะสะสมเช่นเดิมในหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นผู้นำอุตสาหกรรม อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ศูนย์การค้า (CPN) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) การเงิน (MTC SAWAD) โรงพยาบาล (BDMS) ส่งออก (ITC TU) ธนาคารพาณิชย์ (BBL CREDIT)

  • CREDIT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 24.00 บาท)
    คาดกำไรสุทธิจะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 7.4% ในปี 2568 และ Valuation ที่ไม่แพงซื้อขายที่ 0.9x PBV’25E และ 6.1x PE’25E บนสมมติฐาน ROE สูงที่ 15.6% อย่างไรก็ดี CREDIT อาจไม่เหมาะกับการลงทุนเพื่อรับเงินปันผล เพราะคาดว่าจะให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลเพียง 0.8% ในปี 2568 เพราะ CREDIT ต้องรักษาเงินกองทุนระดับสูงเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของสินเชื่อ สำหรับผลกำไรสุทธิในไตรมาส 4/2567 แข็งแกร่งที่ 1.2 พันล้านบาท (+65.8% YoY, +2.6% QoQ) ด้านคุณภาพสินเชื่อ NPL ratio ลดลงที่ 4.4% และ Coverage ratio เพิ่มขึ้นเป็น 148.6%
  • CPN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 87.00 บาท)
    ไตรมาส 4/2567 ยังมีมุมมองเดิมที่คาดว่ารายได้จะกลับมาเติบโตจากไตรมาส 3/2567 เพราะเป็นช่วง High Seasons ของภาคการท่องเที่ยว รวมถึงยอดการโอนอสังหาริมทรัพย์ที่จะกลับมาขยายตัวได้อีกครั้งหลังมี Backlog รอโอนกว่า 5,700 ล้านบาท ซึ่งประมาณ 1,100 ล้านบาทจะรับรู้เข้ามาได้ในช่วงไตรมาส 4/2567 นี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ERW ผู้พัฒนาลงทุนในธรุกิจโรงแรมชั้นนำ [HoonVision x FynnCorp]

ERW ผู้พัฒนาลงทุนในธรุกิจโรงแรมชั้นนำ [HoonVision x FynnCorp]

ADVANC ปี67 กำไรพุ่ง3.5หมื่นล้าน อนุมัติปันผลที่5.74 บ.ต่อหุ้น XD 20 ก.พ.68

ADVANC ปี67 กำไรพุ่ง3.5หมื่นล้าน อนุมัติปันผลที่5.74 บ.ต่อหุ้น XD 20 ก.พ.68

THCOM ปี67 ขาดทุน 23ล้านบาท จากเงินบาทแข็งค่า แต่กำไรหลักธุรกิจดาวเทียมแข็งแกร่ง

THCOM ปี67 ขาดทุน 23ล้านบาท จากเงินบาทแข็งค่า แต่กำไรหลักธุรกิจดาวเทียมแข็งแกร่ง

BGRIM ราคาหุ้นมีอัพไซด์ คาดกำไรไตรมาส1/68 ที่ 400ล.

BGRIM ราคาหุ้นมีอัพไซด์ คาดกำไรไตรมาส1/68 ที่ 400ล.

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด