หุ้นวิชั่น – บล.ดาโอระบุว่า หลังจากการประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้า (tariff) ของสหรัฐอเมริกา (US) บนสินค้านำเข้าจากจีนมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 4 ก.พ.2025 กระทรวงการคลังของจีนกล่าวว่าจะเรียกเก็บ tariff 15% สำหรับถ่านหินและก๊าซ LNG ที่นำเข้าจาก US และ 10% สำหรับน้ำมันดิบ อุปกรณ์การเกษตร และรถยนต์บางประเภท
ทั้งนี้ อัตราภาษีใหม่สำหรับการส่งออกจาก US จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.2025 นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์และสำนักงานศุลกากรของจีน ระบุว่า กำลังกำหนดการควบคุมการส่งออกทังสเตน เทลลูเรียม รูทีเนียม โมลิบดีนัม และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับรูทีเนียม เพื่อ “ปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของชาติ” ทั้งนี้ จีนควบคุมปริมาณแร่หายากในโลกส่วนใหญ่ซึ่งมีความสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงไปสู่พลังงานสะอาด
อย่างไรก็ดี วานนี้ ก่อนการพบปะกับนายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงของประธานาธิบดีซึ่งกำหนดนโยบายที่เข้มงวดต่ออิหร่านซึ่งรวมถึงความพยายามในการผลักดันการส่งออกน้ำมันให้เหลือศูนย์เพื่อหยุดยั้งอิหร่านจากการได้รับอาวุธนิวเคลียร์ (ที่มา: Reuters, Bloomberg)
มีมุมมองเป็นกลางจากข่าวข้างต้นต่อแนวโน้มราคาน้ำมันดิบ ซึ่งน่าจะมีความผันผวนสูงในระยะสั้นจากความเสี่ยงด้านสงครามการค้า (trade war) ที่สูงขึ้นซึ่งอาจส่งผลต่ออุปสงค์การใช้พลังงาน ในขณะที่ ความกดดันต่ออิหร่านอาจส่งผลให้ตลาดน้ำมันโลกตึงตัวมากขึ้น เนื่องจากในปัจจุบัน อิหร่านมีการส่งออกน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน (mbd) (คิดเป็นประมาณ 2% ของอุปทานน้ำมันโลก)
อย่างไรก็ดี การลดลงที่เป็นไปได้ของการส่งออกน้ำมันของอิหร่านอาจถูกชดเชยได้ด้วยปริมาณการผลิตน้ำมันที่สูงขึ้นของกลุ่ม OPEC+ และสหรัฐอเมริกา (US) ทั้งนี้ วานนี้ ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ Brent ปิดบวกเล็กน้อย 0.3% เป็น USD76.2/bbl เรายังคงสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยปี 2025E ที่ USD73.0/bbl ลดลงจาก USD79.8/bbl ในปี 2024 และคงน้ำหนักการลงทุน “เท่ากับตลาด”
โดยเชื่อว่าหุ้นกลุ่มน้ำมันต้นน้ำมีความน่าสนใจ แม้อาจจะได้รับผลกระทบเชิงลบจากความผันผวนสูงของราคาน้ำมันดิบในระยะสั้น แต่เรามองว่า PTTEP (ซื้อ/เป้า 160.00 บาท) มี valuation ที่ไม่แพงและมีอัตราตอบแทนเงินปันผลที่สูง (ประมาณ 4.1%) โดยจะขึ้น XD ในวันที่ 25 ก.พ.2025