หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ผลประกอบการของผู้ผลิตเนื้อสัตว์ค่อนข้างแข็งแกร่ง ฝ่ายวิเคราะห์ คาดว่าผลประกอบการรวมของผู้ผลิตเนื้อสัตว์ที่ฝ่ายวิเคราะห์ศึกษาอยู่จะพลิกฟื้นอย่างแข็งแกร่ง YoY เป็นกำไรสุทธิ 7.10 พันล้านบาท (จากขาดทุนสุทธิรวม 986 ล้านบาทใน 4Q66)
จากราคาเนื้อสัตว์ที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศโดยราคาหมูในประเทศที่เพิ่มขึ้นหลังจากถูกกระทบจากปัญหาหมูเถื่อนเมื่อปีที่แล้วเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนให้ GPM เพิ่มขึ้นอย่างมาก YoY และ หนุนให้ผลประกอบการของบริษัทส่วนใหญ่พลิกเป็นกำไรยกเว้น GFPT ซึ่งทำธุรกิจไก่อย่างเดียว
โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะลดลงเล็กน้อย YoY เพราะราคาชิ้นส่วนไก่ลดลง ทั้งนี้ เมื่อเทียบ QoQ เราคาดว่ากำไรสุทธิรวมจะลดลง 30% เพราะเป็นช่วงที่การส่งออกต่ำตามฤดูกาล, ราคาไก่ในประเทศลดลง และ ราคาหมูในต่างประเทศลดลง คาดว่า Betagro (BTG.BK/BTG TB) จะเป็นเพียงบริษัทเดียวในกลุ่มที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ จากการขยายช่องทางการจำหน่ายที่มีอัตรากำไรสูง ซึ่งรวมถึงการส่งออกในไตรมาสนี้ด้วย
ราคาเนื้อสัตว์ที่เพิ่มขึ้นจะช่วยหนุนกำไรใน 1Q68F คาดว่าโมเมนตัมผลประกอบการของกลุ่มผู้ผลิตเนื้อสัตว์มีแนวโน้มจะกลับมาเป็นบวกใน 1Q68F จากราคาเนื้อสัตว์ที่ขยับสูงขึ้น โดยราคาหมู และ ไก่ในประเทศเพิ่มขึ้นมาแล้ว 5% และ 9% QTDตามลำดับ
ในขณะเดียวกันคาดว่าต้นทุนอาหารสัตว์จะยังต่ำต่อเนื่องโดยเฉพาะกากถั่วเหลืองซึ่งอยู่ระดับเกือบต่ำสุดในรอบสี่ปี ฝ่ายวิเคราะห์มองว่าอุปสรรคข้างหน้าจะมาจากฐานการส่งออกไก่ที่สูงใน 2H67 และ อุปสงค์การบริโภคที่อ่อนแอในประเทศจีน ซึ่งจะส่งผลกระทบกับ Charoen Pokphand Foods (CPF.BK/CPF TB) โดยเฉพาะการขยายกำลังการผลิตจะเป็นปัจจัยกระตุ้นหลักในปี2568F
การขยายกำลังการผลิตตลอดปี 2567 จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตในปี 2568F
โดยในปีที่แล้ว BTG ได้ทำการขยายกำลังการผลิตของฟาร์มหมู และ ไก่ในประเทศ ซึ่งจะทำให้ได้ประโยชน์จากราคาเนื้อสัตว์ในประเทศที่กำลังขยับสูงขึ้น ในขณะเดียวกัน Thaifoods Group (TFG.BK/TFG TB) จะได้อานิสงส์จากการที่ราคาหมูในเวียดนามขยับสูงขึ้น
อย่างไรก็ตามโรงงานใหม่ของ GFPT (GFPT.BK/GFPT TB) อาจจะเสร็จช้ากว่ากำหนด จากเดิมคาดเปิดใน 3Q68F Valuation and action ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มที่ “เท่ากับตลาด” โดยคาดว่ากำไรสุทธิรวมในปี 2568F จะลดลงเล็กน้อย ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงเลือก BTG เป็นหุ้นเด่นของในกลุ่มนี้ เพราะโมเมนตัมกำไรที่โดดเด่นทั้งใน 4Q67F และ ในปี 2568F