หุ้นวิชั่น – บล. ดาโอระบุว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้า (tariff) สินค้าจากประเทศคู่ค้าหลัก คือ แคนาดา เม็กซิโกและจีน โดยประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศเก็บ tariff 10% และ 25% จากผลิตภัณฑ์พลังงานที่นำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก ตามลำดับ เทียบกับ 25% ของผลิตภัณฑ์ทั่วไปที่นำเข้าจากสองประเทศ ทั้งนี้สหรัฐอเมริกา (US) มีการนำเข้าน้ำมันดิบจากแคนาดาและเม็กซิโกประมาณ 3.8 และ 0.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน (mbd) ตามลำดับ นอกจากนี้ US จะเรียกเก็บ tafiff บนสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 10% โดยการประกาศขึ้น tariff ครั้งนี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.2025 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ในภายหลัง แคนาดาประกาศจะตอบโต้โดยการเก็บ tariff 25% บนผลิตภัณฑ์นำเข้าจาก US ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ USD155bn ขณะที่ เม็กซิโกเตรียมที่จะเก็บ tariff ตอบโต้เช่นกัน ซึ่งอาจอยู่ในช่วง 5%-20% นอกจากนี้ แคนาดาและจีนเตรียมที่จะฟ้ององค์การการค้าโลก (WTO) เกี่ยวกับมาตรการรีดภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ (ที่มา: Reuters, Bloomberg)
มุมมองเป็นบวกต่อข่าวดังกล่าวต่อแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นจากผลกระทบต่อกระแสการค้าน้ำมันโลก ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ Brent ปิดทรงตัว DoD ที่ USD76.8/bbl
ทั้งนี้ ยังคงสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยปี 2025E ที่ USD73.0/bbl ลดลงจาก USD79.8/bbl ในปี 2024 และคงน้ำหนักการลงทุน “เท่ากับตลาด” ทั้งนี้ ตอนนี้เราเชื่อว่าหุ้นกลุ่มน้ำมันต้นน้ำกลับมาน่าสนจาก valuation ที่ไม่แพงและเงินปันผลที่สูง
โดยแนะนำ PTTEP (ซื้อ/เป้า 160.00 บาท) ซึ่งเงินปันผล 2H24 คิดเป็นอัตราตอบแทนที่ 4.0% โดยจะขึ้น XD ในวันที่ 25 ก.พ.2025