สินเชื่อแบงก์ก.พ.ลด KTB-KBANKโดนแค่ไหน?

            หุ้นวิชั่น- บทวิเคราะห์ บล. ดาโอระบุว่า สินเชื่อเดือน ก.พ. 25 ลดลง -0.2% MoM จากสินเชื่อภาครัฐเป็นหลัก ภาพรวมสินเชื่อเดือน ก.พ. 25 ทั้ง 7 ธนาคารที่cover อยู่ที่ 10.7 ล้านล้านบาท ลดลง -0.2% MoM จากสินเชื่อภาครัฐเป็นหลัก รองลงมาเป็นสินเชื่อเช่าซื้อที่ยังคงลดลงต่อเนื่อง ขณะที่สินเชื่อรายใหญ่ยังเพิ่มขึ้นได้ โดยธนาคารที่มีสินเชื่อลดลงมากที่สุด MoM คือ KTB ลดลง -1.9% MoM จากสินเชื่อภาครัฐเป็นหลัก โดยมีการชำระคืนตามปีงบประมาณ รองลงมาเป็น KBANK ลดลง -0.5% MoM จากสินเชื่อรายใหญ่เป็นหลัก

            ขณะที่ธนาคารที่มีสินเชื่อเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ BBL เพิ่มขึ้น +1.0% MoM จากสินเชื่อรายใหญ่และต่างประเทศเป็นหลัก รองลงมาเป็น TISCO +0.5% MoM จากสินเชื่อรายใหญ่ในส่วนของ Real Estate และโรงไฟฟ้า แต่สินเชื่อเช่าซื้อยังคงหดตัวตามภาวะอุตสาหกรรม ส่วนภาพรวมของเงินฝากเดือน ก.พ. 25 อยู่ที่ 12.5 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย +0.1% MoM โดยธนาคารที่เงินฝากเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ SCB เพิ่มขึ้น +0.7% MoM รองลงมาเป็น KKP เพิ่มขึ้น +0.5% MoM จากเงินฝาก CASA ที่เพิ่มขึ้น ส่วนเงินฝากที่ลดลงมากที่สุดคือ KTB ลดลง -0.7% MoM ตามทิศทางสินเชื่อภาครัฐที่ลดลง และ TTB ลดลง -0.4% MoM จากเงินฝากกระแสรายวันที่ลดลง (ที่มา: ข้อมูลบริษัท)

            มองเป็นลบต่อกลุ่มธนาคาร เรามีมุมมองเป็นลบต่อสินเชื่อในเดือน ก.พ. 25 ที่กลับมาหดตัวที่ -0.2% MoM จากเดือน ม.ค. 24 ที่ลดลง -0.6% MoM โดยการลดลงส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อภาครัฐที่ลดลงจากปีงบประมาณ และสินเชื่อเช่าซื้อที่ยังลดลงตามยอดขายรถยนต์ที่มีการปรับตัวลดลง และจากกำลังซื้อชะลอตัว รวมถึงหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง ทำให้กลุ่มธนาคารมีการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น แต่สินเชื่อรายใหญ่ยังคงเพิ่มขึ้นได้ดี           

ขณะที่คาดว่าสินเชื่อภาครัฐจะมี Momentum ที่เพิ่มขึ้นได้ในปี 2H25E ตามความคาดหวังว่าจะมีโครงการใหญ่ๆของภาครัฐที่จะเพิ่มขึ้นได้ตามปีงบประมาณ

            ทั้งนี้ ยังคงประมาณการการเติบโตของสินเชื่อรวมทั้งปี 2025E ของกลุ่มไว้ที่ +2% YoY (2M24 อยู่ที่ -0.8% YTD) ด้าน NPL เราคาดว่ามีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เราเชื่อว่าจะทยอยเพิ่มขึ้นไม่น่ากังวลมากนัก เพราะแต่ละธนาคารมีการตั้งสำรองฯจำนวนมากมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และมีการทยอยขายหนี้เสียออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยคาด NPL ในปี 2025E จะอยู่ที่ 3.18% จาก 3.05% ในปี 2024

ยังคงน้ำหนักเป็น “มากกว่าตลาด” เลือก KTB, TTB, BBL เป็น Top pick ขณะที่ BBL จะได้รับผลบวกจากสินเชื่อที่เติบโตได้สูงสุดในเดือน ก.พ. 25 ให้น้ำหนักการลงทุนของกลุ่มธนาคารเป็น “มากกว่าตลาด” เพราะแนวโน้มการเติบโตของกำไรปี 2025E จะยังเติบโตได้ต่อเนื่องอีก +4% YoY ขณะที่ valuation ยังถูก โดยเทรดที่ระดับเพียง 0.68x PBV (-1.25SD below 10-yr average PBV)
ขณะที่ยังคงเลือก KTB, TTB, BBL เป็น Top pick ขณะที่ BBL จะได้รับผลบวกจากสินเชื่อที่เติบโตได้ในเดือน ก.พ. 25

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

CPALL ลุยความยั่งยืน

CPALL ลุยความยั่งยืน

SUSCO บอร์ดไฟเขียว รุกสถานีแบตเตอรี่รถ EV

SUSCO บอร์ดไฟเขียว รุกสถานีแบตเตอรี่รถ EV

DELTA ทุ่ม 506 ลบ. ซื้อเครื่องจักร เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

DELTA ทุ่ม 506 ลบ. ซื้อเครื่องจักร เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

DELTA กำไรโค้งแรก 5.4 พันล. - โตแรง 154%

DELTA กำไรโค้งแรก 5.4 พันล. - โตแรง 154%

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด