หุ้นวิชั่น – บล.พาย ระบุคาด GLOBAL มีกำไรสุทธิไตรมาส 4/2567 ที่ 500 ล้านบาท (-11%YoY, +38%QoQ) การฟื้นตัว QoQ เป็นผลจากยอดขายสาขาเดิมที่ -1% YoY ในไตรมาส 4/2567 เทียบกับ -6.5% ในไตรมาส 3/2567 และการลดลง YoY จากต้นทุนการขยายสาขาใหม่ ทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่ม เป็น 20.3% ในไตรมาส 4/2567 เทียบกับ 18.9% ในไตรมาส 4/2566 แม้คาดว่าส่วนแบ่งกำไรจาก ธุรกิจในต่างประเทศที่เพิ่มเป็น 75 ล้านบาท (+118%YoY) จากยอดขาย ในเมียนมา (สัดส่วนราว 60% ของส่วนแบ่งกำไร) เติบโตดีมาก
ประเมินยอดขายช่วงไตรมาส 4/2567 ยังเติบโต YoY ผลจากการขยายสาขา ระหว่างไตรมาส 3 สาขา (สว่างแดนดิน ,สวรรคโลก, ลำปลายมาศ) รวมเป็น 8 สาขาในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ทำให้บริษัทมีสาขาทั้งหมด 92 แห่งในไตรมาส 4/2567 จาก 84 แห่งในไตรมาส 4/2566 (+10%YoY) แบ่งเป็นสาขาใน ประเทศ 90 สาขา และ สาขาในกัมพูชา 2 สาขา
แนวโน้มการเติบโตปี 2568 ท้าทายกว่าคาด การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) พลิกกลับมาติดลบ 3% ใน เดือน ธ.ค.2567 และติดลบมากขึ้นเป็น -7% ถึง -9% ในเดือน ม.ค.2568 เทียบกับ SSSG ที่ทรงตัว YoY ในเดือน ต.ค.-พ.ย. 2567 ผลจากยอดขายกลุ่มงานโครงสร้างที่ปรับตัวลดลง จากการแข่งขันที่สูงขึ้น สวนทางกับการเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐที่ดีขึ้น YoY
อย่างไรก็ตามคาดว่า SSSG จะทยอยปรับตัวดีขึ้นหลังจากปรับกลยุทธ์ ทางบริษัทเตรียมรีวิวสินค้าบางรายการให้สามารถแข่งขันได้ดียิ่งขึ้น ทำให้คาดว่าอัตรากำไรจะลดลงเล็กน้อย YoY ประเมินอัตรากำไร ขั้นต้น (GPM) ทุกๆ 10 bps ที่เปลี่ยนแปลงไปจากสมมติฐานเราที่ 25.6% จะกระทบประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายเรา 1% ในปี 2568 ในแง่การขยายสาขา บริษัทมีแผนเปิด 8-9 สาขาในปี 2568 (+9% ถึง +10% YoY) โดยใช้สมมติฐานการขยายสาขา 8 สาขาในปี 2568 นอกจากนี้ยังมีสาขาในต่างประเทศอื่นๆ อีก 35 สาขา (ในประเทศเมียน มา, ลาว, อินโดนีเซีย) ที่ มีแผนขยายเพิ่ม 1 สาขาในลาว และ 1 สาขาใน เมียนมา ในปี 2568
คำแนะนำ “ถือ” SSSG ยังไม่สดใส มูลค่าพื้นฐาน 10.50 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดกระแส เงินสด (DCF) ด้วย WACC 8.3% และ TG 2% เทียบเท่า 23xPE’25E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มสินค้าซ่อมแซมและตกแต่งบ้านของไทย หลังปรับลด ประมาณการกำไรปี 2567-2568 ลง 1%-22% เพื่อสะท้อน GPM ที่จะลดลง จากการปรับกลยุทธ์เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ดีขึ้นในบางสินค้า แม้ว่า สัดส่วน House brands จะเพิ่มขึ้น YoY (สมมติฐาน GPM ลดลง 25 bps YoY) และ SSSG จาก +2.5% เป็น 0% YoY ในปี 2568
บล.กรุงศรี ระบุ ประเมิน SSS จะลดลง 2% ในไตรมาส 4/2567 เนื่องจากการฟื้นตัวช้าของการบริโภคไทยซึ่งกดดันความต้องการผลิตภัณฑ์ที่ไม่จำเป็น โดยเชื่อว่า SSSG ในเดือนตุลาคม พฤศจิกายน และธันวาคมอยู่ที่ 0%, -2% และ -4% ตามลำดับ สะท้อนถึงอุปสงค์ที่อ่อนตัวจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
อย่างไรก็ตามคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น 10% YoY และ 15% QoQ เป็น 8.3 พันล้านบาท เนื่องจากบริษัทเพิ่มสาขา 9แห่งในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา (เป็น 90 แห่ง) นอกจากนี้ยังคาดการณ์อัตรากำไรขั้นต้นจะลดลง 0.2ppt qoq เป็น 25.7% เนื่องจากราคาเหล็ก (ส่วนแบ่งรายได้ 15%) ลดลงประมาณ 4% QoQ ในไตรมาส 4/2567
ทั้งนี้คาดการณ์ SSSG จะอยู่ที่ 2% ในปี 2568 โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการบริโภคโดยรวม นอกจากนี้ยังคำนึงถึงร้านค้าใหม่ 7 แห่งในปี 2568 (เป็น 97 แห่ง) โดยรวมแล้วคาดว่ารายได้จะเติบโต 8% ในปี 2568 (เป็น 35,582 ล้านบาท) และกำไรหลักจะอยู่ที่ 2,646 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% YoY
อัพเกรด GLOBAL เป็น BUY ขณะที่คงราคาเป้าหมายไว้ที่ 16 บาท ให้ TP ที่ 30.2x FY25F P/E ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในระยะยาว -0.5SD โดยเชื่อว่าปัจจัยลบได้อยู่ในราคาแล้ว และ GLOBAL ก็อยู่บนเส้นทางฟื้นตัวตามแนวโน้มการบริโภคของไทย มองว่าการขยายตัวของ GLOBAL เป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการเติบโตของรายได้และกำไร ความเสี่ยงสำคัญอยู่ที่การบริโภคโดยรวมของไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อยอดขายของ GLOBAL หากเติบโตช้ากว่าคาด