หุ้นโลกสั่นคลอน! สงครามภาษีเดือด ดาวโจนส์รูดกว่า 2.5%

                 หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ: นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีระหว่างจีนกับสหรัฐฯ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะระงับการเก็บภาษี Reciprocal Tax กับประเทศต่างๆ ออกไป 90 วัน แต่ภาษีในระดับพื้นฐาน (Baseline) ที่ 10% ยังคงมีผลอยู่ ขณะที่การตอบโต้ทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ทวีความรุนแรงขึ้น โดยภาษีที่เรียกเก็บระหว่างกันพุ่งสูงถึง 125% สำหรับสินค้าจีนที่ส่งออกไปยังสหรัฐ และ 84% สำหรับสินค้าสหรัฐที่ส่งออกไปจีน ส่งผลให้ความเสี่ยงจากสงครามการค้ากระทบต่อภาคเศรษฐกิจต่างๆ ยังคงมีอยู่ กดดันให้นักลงทุนกลับมาเทขายหุ้น ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลง -2.5% d-d, S&P500 -3.46% d-d และ Nasdaq -4.31% d-d โดยหุ้นในดัชนี S&P500 ปรับลงทุกเซกเตอร์ นำโดยกลุ่มพลังงาน เทคโนโลยี และสินค้าอุปโภคบริโภค หุ้นที่ถูกเทขายหนักได้แก่ Tesla (-7.27%), Meta (-6.74%), Nvidia (-5.91%), Amazon (-5.17%), Apple (-4.24%), Google (-3.71%) และ Microsoft (-2.34%)

                 ขณะที่สงครามการค้า สหรัฐฯ vs สหภาพยุโรป (EU): ด้านความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปมีสัญญาณผ่อนคลาย เมื่อ EU ชะลอการบังคับใช้มาตรการภาษีตอบโต้ชุดแรก (มูลค่า 23,250 ล้านดอลลาร์) ต่อสหรัฐฯ ออกไป 90 วัน หลังจากที่ทรัมป์ประกาศระงับการจัดเก็บ Reciprocal Tax ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งสะท้อนถึงโอกาสในการเจรจาที่เปิดกว้างขึ้น และมีแนวโน้มว่าผลกระทบจากภาษีจะลดลงเมื่อเทียบกับระดับเดิม ถือเป็นสัญญาณว่าความตึงเครียดผ่านจุดเลวร้ายไปแล้ว

                 เศรษฐกิจสหรัฐฯ: ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ลดลงในทุกรายการ โดย Headline CPI เดือนมีนาคมอยู่ที่ 2.4% y-y (จากเดิม 2.8% และคาดการณ์ 2.6%) และลดลง -0.1% m-m (จากเดิม +0.2% และคาดการณ์ +0.1%) ขณะที่ Core CPI อยู่ที่ 2.8% y-y (จากเดิม 3.1% และคาดการณ์ 3.0%) โดยเมื่อเทียบ m-m เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% อย่างไรก็ตาม ตลาดไม่ได้ให้น้ำหนักกับข้อมูลนี้มากนัก เนื่องจากยังไม่สะท้อนผลของมาตรการภาษีใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดันราคาสินค้าและเงินเฟ้อในอนาคต

                 เศรษฐกิจจีน: จีนยังคงอยู่ในภาวะเงินฝืด โดยประกาศตัวเลข CPI เดือนมีนาคมที่ -0.1% แม้ดีขึ้นจาก -0.7% ในเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลงต่อเนื่องที่ -2.5% จาก -2.2% ในเดือนก่อนหน้า ตัวเลข CPI และ PPI ที่ยังเป็นลบ สะท้อนว่าเศรษฐกิจจีนยังคงอยู่ในภาวะเงินฝืด ซึ่งถือเป็นสัญญาณลบต่อกลุ่มธุรกิจที่เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจจีน เช่น SCC และ SCGP อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอดังกล่าวอาจผลักดันให้รัฐบาลจีนเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งอาจส่งผลบวกต่อจิตวิทยาการลงทุนในระยะถัดไป