หุ้นวิชั่น – ตลาดหุ้นไทยปิดบวกแรง! เด้ง 4.21% หรือ เพิ่มขึ้น 45.77 จุด ยืนที่ 1,133.95 จุด ขานรับข่าวยืดภาษีนำเข้าสหรัฐฯ 90 วัน แนะนักลงทุนติดตามปัจจัยเงินเฟ้อสหรัฐฯ โบรกคาด SET วันนี้ พักฐานก่อนหยุดยาวสงกรานต์ มองแนวรับสำคัญ 1,121 จุด แนะนำกลยุทธ์ Wait & See จับตา WHA หุ้นที่รับผลกระทบหนักก่อนหน้าจาก Trump เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว เคาะพื้นฐาน 5.30 บาท ล่าสุด PTT รุกซื้อหุ้นคืนไม่หยุด รวมมูลค่า 5.13 พันล้านแล้ว
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับทีมข่าวหุ้นวิชั่นว่า ตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายวันนี้ (10 เม.ย. 68) ที่ 1,133.95 จุด เพิ่มขึ้น 45.77 จุด หรือ 4.21% โดยได้รับแรงหนุนจากข่าวการระงับการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากการประกาศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะมีผลในระยะเวลา 90 วัน แม้ตอนนี้ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาเสริมในตลาด แต่ดัชนีฯ สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ตลอดทั้งวัน
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (11 เม.ย. 68) คาดว่า มีการพักตัว เนื่องจากดัชนีปรับตัวขึ้นค่อนข้างมาก และยังคงต้องติดตามปัจจัยใหม่ๆ ที่อาจมีผลต่อตลาดหุ้น โดยเฉพาะปัจจัยเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ซึ่งนักวิเคราะห์หลายคนคาดว่าจะอยู่ที่ 2.5% ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก
สำหรับแนวรับและแนวต้านของดัชนีในวันนี้ คาดว่าแนวรับจะอยู่ที่ 1,115 จุด และแนวต้านอยู่ที่ 1,150 จุด ตามลำดับ ส่วนกลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้ถือหุ้นในกลุ่ม Domestic play ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเศรษฐกิจโลก เช่น CPALL, CPN, ICHI
ขณะที่ WHA (ราคาเป้าหมาย 5.30 บาท) เป็นหุ้นที่รับผลกระทบหนักก่อนหน้าจาก Trump ส่วนภาพรวมในช่วง 1Q25 ในส่วนของธุรกิจที่ดินล่าสุดทาง WHA มีการให้ข้อมูลเพิ่มว่ายอดขายที่ดินจะไม่ต่ำกว่า 4Q24 ที่ทำได้ 773 ไร่ (ส่วน 1Q24 ทำได้ 630 ไร่) เนื่องจากนิคมใหม่ที่ ESSIE 5 มีการเซ็นสัญญา LOI แล้วประมาณ 400 ไร่ และมีการเจรจาอีกกว่า 600 ไร่ นอกจากนี้ยังมีลูกค้าที่คาดว่าจะเซ็นสัญญาเพิ่มเติมจากปี 24 อีกกว่า 400 ไร่ ส่วนธุรกิจให้เช่ารถ EV มีการเจรจากับลูกค้าอยู่กว่า 1,000 คัน จากเป้าที่ตั้งไว้ทั้งปีที่ 1,700 คัน
ด้าน นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยกับทีมข่าวหุ้นวิชั่นว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (11 เม.ย. 68) คาดว่าจะยังคงอยู่ในแดนบวก แต่อาจจะไม่ปรับตัวขึ้นรุนแรง เนื่องจากเป็นช่วงเปิดทำการของตลาดหุ้นไทยก่อนวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ (12-15 เม.ย. 68)
อย่างไรก็ตาม สำหรับการเคลื่อนไหวของดัชนี SET ฝ่ายวิเคราะห์มองว่า SET ต้องยืนสร้างฐานเหนือ 1,121 จุด เพื่อให้แนวโน้มการรีบาวน์ยังคงมีความน่าเชื่อถือ ส่วนแนวต้านที่คาดว่าจะเป็นระดับสำคัญในระยะสั้นอยู่ที่ 1,160 จุด
สำหรับการเปิดทำการซื้อขายในช่วงวันหยุดหลังสงกรานต์ (16 เม.ย. 68) ต้องติดตามการประกาศดัชนี CPI หรือดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้สำคัญสำหรับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการปรับอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ยังต้องจับตาตัวเลขการว่างงานของสหรัฐฯ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อทิศทางเศรษฐกิจและตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า
ขณะเดียวกัน วันที่ 16 เมษายนนี้ ตลาดทุนจะยกเลิกมาตรการที่ใช้รองรับความผันผวนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET), ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) และ บริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TFEX ซึ่งได้บังคับใช้ชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา โดยมาตรการที่ใช้จะเป็นการกำหนดราคาสูงสุด (Ceiling) และต่ำสุด (Floor) สำหรับหุ้นแต่ละตัว โดยลดการขยายตัวของการเคลื่อนไหวราคา เช่น หุ้นสามัญจากบวกหรือลบ 30% เหลือบวกหรือลบ 15% และจะกลับไปที่ 30% ตามเดิมนั้น ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงแนะนำให้รอดูภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกเป็นหลัก เนื่องจากในเดือนเมษายนมีวันหยุดจำนวนมาก ทำให้การซื้อขายในตลาดหุ้นไทยอาจยังคงอยู่ในภาวะซบเซา
ดังนั้นจึงแนะนำกลยุทธ์ Wait & See เพื่อประเมินความเสี่ยง โดยเฉพาะการประกาศงบการเงินของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ (กลุ่มแบงก์) หลังช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งหากผลประกอบการออกมาดี คาดว่าจะช่วยพยุงตลาดหุ้นไทยให้อยู่ในทิศทางที่ดีขึ้นได้
PTT รุกซื้อหุ้นคืนไม่หยุด
ขณะที่ PTT แจ้งตลท.ว่า ผลการซื้อหุ้นคืนกรณีเพื่อการบริหารทางการเงิน วันที่รายงานผล : 10 เม.ย. 2568 วิธีการซื้อหุ้นคืน : ซื้อหุ้นคืนผ่านตลาดหลักทรัพย์ วันที่ครบกำหนดโครงการ : 23 ก.ย. 2568 โครงการซื้อหุ้นคืน วันที่คณะกรรมการมีมติ : 20 มี.ค. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดตามโครงการ (หุ้น) : 470,000,000 %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนสูงสุดต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 1.65
- ผลการซื้อหุ้นคืน
วันที่ซื้อหุ้นคืน : 10 เม.ย. 2568 จำนวนหุ้นซื้อคืน(หุ้น) : 17,200,000 ราคาที่ซื้อต่อหุ้นหรือราคาสูงสุด(บาท/หุ้น) : 31.50 ราคาต่ำสุด(บาท/หุ้น) : 30.75 มูลค่ารวม(บาท) : 537,575,000.00
- จำนวนหุ้นซื้อคืนทั้งสิ้น จำนวนรวมของหุ้นซื้อคืนในโครงการจนถึงปัจจุบัน : 161,960,000 (รวมผลการซื้อคืน) (หุ้น) %ของจำนวนหุ้นซื้อคืนต่อจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว : 0.57 มูลค่ารวมที่ซื้อคืน(บาท) : 5,139,895,000.00