หุ้นวิชั่น – ปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ฯ มีบริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนอยู่จำนวนมาก โดยมีบริษัทที่อยู่ในช่วงดำเนินการให้มีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขาย (Resume Stage) ด้วยกัน 5 บริษัท และบริษัทที่อยู่ในช่วงดำเนินการแก้ไขเหตุเพิกถอน (Remedy Stage) ทั้งหมด 5 บริษัท โดยความน่าสนใจของบริษัทเหล่านี้ นักวิเคราะห์ฯ มองว่า หากบริษัทมีผลประกอบการไม่ดีและขาดทุนอย่างต่อเนื่อง การกลับมาซื้อขายอาจไม่ได้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับการลงทุน ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
Resume Trading คือ บริษัทจดทะเบียนที่ถูกขึ้นเครื่องหมาย C (Caution) และไม่ได้มีการแก้ไขเหตุที่ถูกขึ้นเครื่องหมาย C ดังกล่าวให้หมดไป หรือบริษัทจดทะเบียน มีคุณสมบัติหรือปฏิบัติไม่เป็นไปตามเกณฑ์ ก็อาจมีโอกาสเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนได้ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ จะขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) และ NC (Non-Compliance) โดยแบ่งระยะเวลาให้บริษัทจดทะเบียนดำเนินการเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 ดำเนินการให้เหตุเพิกถอนหมดไป และ ช่วงที่ 2 ดำเนินการให้หลักทรัพย์กลับมาซื้อขายได้ตามปกติ หรือที่เรียกว่า Resume Trading
เมื่อวันที่ 1 ม.ค.2568 ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เริ่มบังคับใช้เกณฑ์สำหรับบริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนและจะขอย้ายกลับมาซื้อขาย (Resume Trading) ต้องมีฐานะการเงินและผลประกอบการที่แข็งแรงสอดคล้องกับเกณฑ์ New Listing ใหม่ โดยต้องมีกำไรสุทธิ 1 ปี / 4 ไตรมาส ล่าสุด สำหรับ SET ปรับจาก 30 ล้านบาท เป็น 75 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้น ปรับจาก 300 ล้านบาท เป็น 800 ล้านบาท ขณะที่ mai ปรับจาก 10 ล้านบาท เป็น 25 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น ปรับจาก 50 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท
ปัจจุบันมีบริษัทจดทะเบียนที่เข้าขายอาจถูกเพิกถอน ได้แก่
1. บริษัทที่อยู่ในช่วงดำเนินการให้มีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขาย (Resume Stage) มีด้วยกัน 5 บริษัท
– บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) (BLISS)
– บริษัท จี สตีล จำกัด (มหาชน) (GSTEEL)
– บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) (GL)
– บริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) (SAFARI) มีระยะเวลาดำเนินการถึง 31 มี.ค.2568
– บริษัท เวล แมเนจเม้นท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (WELL) มีระยะเวลาดำเนินการถึง 15 พ.ค.2569
BLISS และ GSTEEL ได้ยื่นคำขอเพื่อกลับมาซื้อขายแล้ว โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างพิจารณาคำขอ
GL ขอเลื่อนการนำส่งงบการเงินของบริษัท สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2567
SAFARI เป็นบริษัทในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด (Non-Performing Group: NPG)
2. บริษัทที่อยู่ในช่วงดำเนินการแก้ไขเหตุเพิกถอน (Remedy Stage) มีทั้งหมด 5 บริษัท
– บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI)
– บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (ACAP)
– บริษัท กุลธรเคอร์บี จำกัด (มหาชน) (KKC)
– บริษัท ทาพาโก้ จำกัด (มหาชน) (TAPAC)
– บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (JKN)
THAI ครบกำหนดแก้ไขเหตุเพิกถอนวันที่ 7 มี.ค.2568
ACAP เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนกรณีผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงิน 3 ปีติดต่อกัน ตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่องการเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ. 2564
KKC เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนกรณีบริษัทมีส่วนผู้ถือหุ้นน้อยกว่าศูนย์ ตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่องการเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ. 2564
หุ้น Resume Trading ดีเฉพาะบางตัว!
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปกติหุ้นที่ถูกพักการซื้อขายมักจะมีผลการดำเนินงานไม่ดี เช่น ขาดทุนจนส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ ไม่นำส่งงบการเงิน ซึ่งในอดีตเคยเกิดขึ้นมาแล้วกับหุ้นหลายๆ ตัว อย่างไรก็ตามบางตัวก็อาจมีผลการดำเนินงานไม่ได้แย่ แต่เผชิญภาวะชั่วคราวจนมีปัญหา เช่น THAI ประสบปัญหาโรคระบาด จนส่งผลต่อการดำเนินงาน หากเป็นกรณีแบบนี้หลังจากเข้าซื้อขายใหม่อาจมีความน่าสนใจ แต่หากบริษัทขาดทุนกันติดต่อมายาวนานและกลับมาซื้อ หากผลประกอบการไม่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะ ก็ไม่ควรเข้าไปลงทุน อย่าง WELL ผลประกอบการไม่ค่อยดี ส่วนใหญ่แล้วขาดทุนต่อเนื่อง จึงควรระมัดระวังต่อการลงทุน หากกลับมาซื้อขาย
ล่าสุด WELL ได้แจ้งความคืบหน้าต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการให้มีคุณสมบัติเพื่อกลับมา ซื้อขาย (Resume Stage) โดยระบุถึงผลการดำเนินงานตามงบการเงินรวม สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2567 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 6.10 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนซึ่งมีผลขาดทุนสุทธิจำนวน 14.69 ล้านบาท โดยมีผลต่างจำนวน 20.79 ล้านบาท คิดเป็น 141.53%
พร้อมกันนี้บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะให้ระบบควบคุมภายในของบริษัทมีความเพียงพอ และเหมาะสม โดยมีการว่าจ้างผู้ตรวจ สอบภายในเพื่อตรวจสอบระบบควบคุมภายในของบริษัทฯ ครอบคลุมไปถึงบริษัทฯ และบริษัทย่อยหรือธุรกิจที่บริษัทฯ มี แผนการลงทุนในอนาคต เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าระบบบริหารจัดการของบริษัทมีประสิทธิภาพและโปร่งใส สามารถรองรับและ สนับสนุนแผนการดำเนินงานของบริษัท เพื่อสร้างความยั่งยืนต่อไปในระยะยาว