BEM ผู้โดยสารแตะ4.27แสนคน คาดลงนามทางด่วนยกระดับ 3.5หมื่นล.ปีนี้

 


          หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง BEM ว่า ประมาณการ 4Q67F และปี 2567F ผู้โดยสารเฉลี่ยรายวันและรายได้จากการจำหน่ายบัตรโดยสารรถไฟฟ้าในไตรมาส 4 เพิ่มขึ้น 2% QoQ และ 4% QoQ ตามลำดับ ส่งผลให้ตัวเลขปี 2567 อยู่ที่ 4.27 แสนคน (+9.4% YoY) และ 12 ล้านบาท (+13.7%) ตามลำดับ ส่วนปริมาณรถเฉลี่ยต่อวันและรายได้ใน 4Q67 และปี 2567 ยังคงทรงตัว YoY ที่ 1.12 ล้านคนและ 25.5 ล้านบาท โดยปกติแล้วไตรมาส 4 และ 1 ของปีจะเป็นช่วง low season ของธุรกิจเนื่องจากไม่มีเงินปันผลรับ โดยสรุป เราประมาณการกำไร 4Q67F จะลดลง 18% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 2% YoY อยู่ที่ 875 ล้านบาท ดังนั้นกำไรปี 2567 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 3.8 พันล้านบาท (+9% YoY)

          คาดว่าโครงการทางด่วนยกระดับจะมีการลงนามในปีนี้ BEM คาดว่าโครงการทางด่วนยกระดับที่รอคอยมานานมูลค่า 3.5หมื่นล้านบาท จะมีการลงนามพร้อมกับการแก้ไขระยะเวลาสัมปทานและรูปแบบการแบ่งรายได้เพื่อรอง รับแนวคิดของรัฐบาลในการลดค่าผ่านทางเฉลี่ยลงอยู่ที่ 50 บาทต่อเที่ยวสำหรับโครงข่ายวงในโดยรอบ (FES, SES: ส่วน A และ B) แต่อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงดังกล่าวอาจล่าช้ากว่าที่คาดไว้เดิมใน 1Q68 หากสมมติว่าปริมาณรถเฉลี่ยต่อวันยังคงอยู่ที่ 1.12 ล้านคันรายได้รวมอาจลดลง 7% เมื่อการแบ่งรายได้กับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปลี่ยนจาก 40:60 เป็น 50:50

แต่อย่างไรก็ดี มีความเป็นไปได้ที่ปริมาณรถเฉลี่ยต่อวันอาจเพิ่มขึ้นผลจากค่าผ่านทางลดลงน่าจะช่วยชดเชยผลกระทบดังกล่าวได้บ้าง

ค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายอยู่ระหว่างการจัดทำนโยบาย

          รัฐบาลจะใช้กองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม (Joint Ticket System Promotion Fund) ภายใต้พ.ร.บการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมฉบับใหม่เพื่อชดเชยรายได้ที่สูญเสียไปให้กับผู้ประกอบการเอกชนหลายราย
โดยที่ก่อนหน้านี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมประเมินการใช้งบประมาณราว 1.6 หมื่นล้านบาทเพื่ออุดหนุนเส้นทางรถไฟทั้งหมดตั้งแต่เดือนกันยายน 2568 จนถึงสิ้นสุดวาระของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ซึ่งเหลือเวลาอีกประมาณสองปีจากนี้

          ส่วนในระยะยาวกระทรวงฯกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อซื้อคืนสิทธิในการเดินรถจากผู้รับสัมปทานเอกชน ทั้งนี้ ต้นทุนของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินอยู่ที่ 2 แสนล้านบาท คิดเป็น 2เท่าของสินทรัพย์รวมของ BEM และ 3 เท่าของหนี้สินสุทธิ

          หากรัฐบาลซื้อคืนสายสีน้ำเงินและเปลี่ยนสัมปทานจาก net cost เป็น gross cost แล้ว BEM จะมีเงินสดส่วนเกินก้อนใหญ่เข้ามา อย่างไรก็ตาม เรายังไม่เห็นความคืบหน้าในประเด็นนี้ Valuation & action ฝ่ายวิเคราะห์ ยังคง คำแนะนำ ซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมาย SOTP ที่ 11.20 บาท (ใช้ WACC ที่ 6% และ terminal growth ที่ 1%) จากธุรกิจหลัก 9.00 บาท อีก 0.80 บาทจากการลงทุนใน Thai TTW (TTW.BK/TTW TB) และ CK Power (CKP.BK/CKP TB)* บวกกับ 1.40 บาทจากรถไฟฟ้าสายสีส้ม ปัจจุบัน BEM เทรดที่ระดับ -1.5SD ของค่าเฉลี่ย PE (ก่อน COVID) ทั้งนี้ประมาณการของเราอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามการแก้ไขสัมปทานของ BEM ที่กำลังจะเกิดขึ้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ERW ผู้พัฒนาลงทุนในธรุกิจโรงแรมชั้นนำ [HoonVision x FynnCorp]

ERW ผู้พัฒนาลงทุนในธรุกิจโรงแรมชั้นนำ [HoonVision x FynnCorp]

ADVANC ปี67 กำไรพุ่ง3.5หมื่นล้าน อนุมัติปันผลที่5.74 บ.ต่อหุ้น XD 20 ก.พ.68

ADVANC ปี67 กำไรพุ่ง3.5หมื่นล้าน อนุมัติปันผลที่5.74 บ.ต่อหุ้น XD 20 ก.พ.68

THCOM ปี67 ขาดทุน 23ล้านบาท จากเงินบาทแข็งค่า แต่กำไรหลักธุรกิจดาวเทียมแข็งแกร่ง

THCOM ปี67 ขาดทุน 23ล้านบาท จากเงินบาทแข็งค่า แต่กำไรหลักธุรกิจดาวเทียมแข็งแกร่ง

BGRIM ราคาหุ้นมีอัพไซด์ คาดกำไรไตรมาส1/68 ที่ 400ล.

BGRIM ราคาหุ้นมีอัพไซด์ คาดกำไรไตรมาส1/68 ที่ 400ล.

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด