หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล.กรุงศรี ระบุ BJC มีแรงหนุนจากการปรับตัวดีขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้น
ในประมาณการ 1Q25 ฝ่ายวิจัยคาดการณ์กำไรหลักเติบโต 14% YoY สู่ระดับ 1.14 พันล้านบาท โดยมีปัจจัยหนุนจากยอดขายสาขาเดิมของบิ๊กซีเติบโต 2% (สัดส่วนรายได้ 65%) และอัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมปรับตัวดีขึ้น 0.3% YoY (สู่ระดับ 20.3%) ซึ่งเป็นผลมาจากราคาวัตถุดิบที่ลดลง YoY โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจบรรจุภัณฑ์ (สัดส่วนรายได้ 14%) มองว่าแนวโน้มเชิงบวกของยอดขายสาขาเดิมเป็นปัจจัยกระตุ้นเชิงบวกต่อราคาหุ้น เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมาย 30 บาท กำหนดการประกาศผลประกอบการ 1Q25 คือวันที่ 15 พฤษภาคม 2568
คาดการณ์กำไรหลัก 1Q25 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง 14% YoY สู่ระดับ 1.14 พันล้านบาท
เราประมาณการกำไรหลักเติบโต 14% YoY สู่ระดับ 1.14 พันล้านบาท โดยคาดการณ์ว่าบิ๊กซี (สัดส่วนรายได้ 65%) จะมียอดขายสาขาเดิมเติบโต 2% โดยมีปัจจัยหนุนจากการปรับตัวดีขึ้นของธุรกิจอาหารสด อย่างไรก็ตาม ยอดขายบรรจุภัณฑ์ (สัดส่วนรายได้ 14%) อาจปรับตัวลดลง 10% YoY (สู่ระดับ 5.6 พันล้านบาท) เนื่องจากการจำหน่ายกระป๋องกาแฟลดลงภายหลังข้อพิพาทระหว่างแบรนด์กาแฟรายใหญ่และผู้ผลิต OEM ในประเทศไทย เราคาดการณ์ว่าอุปสงค์บรรจุภัณฑ์จะกลับสู่ภาวะปกติในเดือนพฤษภาคม 2568 เนื่องจากแบรนด์กาแฟดังกล่าวได้รับสิทธิ์ในการเริ่มผลิตกาแฟภายใต้แบรนด์ของตนเองในเดือนเมษายน และจะกลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้งในช่วงปลายเดือนเมษายน ยอดขายกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคคาดว่าจะเติบโต 2% YoY (สู่ระดับ 5.5 พันล้านบาท) จากยอดขายสบู่ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสบู่เหลว Parrot ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูง ยอดขายกลุ่มสินค้าสุขภาพทรงตัว YoY (ที่ระดับ 2.3 พันล้านบาท) เนื่องจากอุปสงค์ผลิตภัณฑ์สุขภาพชะลอตัวลงภายหลังงบประมาณภาครัฐที่ล่าช้ากลับสู่ภาวะปกติ อัตรากำไรขั้นต้นขยายตัว 0.3% YoY (สู่ระดับ 20.3%) โดยมีปัจจัยหนุนจากราคาวัตถุดิบที่ลดลง YoY เช่น โซดาแอช (สำหรับการผลิตแก้ว) และมันฝรั่ง (สำหรับมันฝรั่งทอด) สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายทรงตัว YoY ที่ระดับ 20.2% เนื่องจากสัดส่วนผลิตภัณฑ์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก และบริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี
คาดการณ์กำไรหลัก 2Q25 เติบโตต่อเนื่อง YoY
เราคาดการณ์ว่ายอดขายสาขาเดิมจะยังคงอยู่ในแดนบวก ซึ่งอาจเป็นปัจจัยกระตุ้นเชิงบวกต่อราคาหุ้น ท่ามกลางภาวะการบริโภคที่อ่อนแอในประเทศไทย
ความเสี่ยงหลักคือความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก
เราประเมินราคาเป้าหมายที่ PER ปี 2568 ที่ 24.1 เท่า ปัจจุบัน BJC ซื้อขายที่ PER ปี 2568 ที่ 18.9 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว -1.5SD ความเสี่ยงหลักคือความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการบริโภคในประเทศไทย