หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัท บลิส อินเทลลิเจนซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ BLISS แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1/2568 ต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท มีผลขาดทุนสุทธิ จำนวน 5.68 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ จำนวน 0.35 ล้านบาท ผลการดำเนินงานกำไรลดลงจำนวน 6.03 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1,718 บริษัทขอชี้แจงผลการดำเนินงาน ดังต่อไปนี้
1. รายได้รวม
บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 122.76 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ จำนวน 66.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.33 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 85 มีสาระสำคัญ ดังนี้
1.1 รายได้จากการขายและให้บริการจำนวน 116.76 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 46.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70.45 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 152 ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่มาจากรายได้งานบริการของโครงการจัดให้มีบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล (Zone C) กลุ่ม 2 ภาคเหนือ 2 และโครงการก่อสร้างบ่อพัก ซึ่งได้ส่งมอบเป็นไปตามแผนที่วางไว้ และร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินบางกรวย–ไทรน้อย ของการไฟฟ้านครหลวง ดำเนินงานโดยกิจการร่วมค้า บลิส–ซีดับเบิ้ลยู ในระหว่างงวดได้ส่งมอบงานได้มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจุบันงานมีความคืบหน้าและเป็นไปตามแผนที่วางไว้
1.2 รายได้อื่น จำนวน 6.00 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจำนวน 20.12 ล้านบาท ลดลง 14.12 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 70 เนื่องจากในไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัทได้รับชำระจากลูกหนี้การค้าคงค้างนานที่ได้ตั้งสำรองไปแล้ว จึงกลับรายการสำรองหนี้สงสัยจะสูญเป็นรายได้อื่น
2. ต้นทุนขายและให้บริการรวม
บริษัทมีต้นทุนขายและให้บริการรวม จำนวน 113.97 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 43.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70.81 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 164 สอดคล้องกับรายได้จากการขายและให้บริการที่เพิ่มขึ้น
3.กำไรขั้นต้น
ในไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัทมีกำไรขั้นต้น 2.79 ล้านบาท เปลี่ยนแปลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทมีกำไรขั้นต้น 3.15 ล้านบาท เนื่องมาจากในระหว่างงวดปี 2568 มีบางโครงการมีต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการซ่อมแซมบำรุงรักษาเพื่อให้โครงการอยู่ในสภาพเตรียมส่งมอบงาน จากสาเหตุหลักข้างต้นนี้ส่งผลให้บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ร้อยละ 2.39 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ร้อยละ 6.81
4. ค่าใช้จ่ายรวม
บริษัทมีค่าใช้จ่ายรวม จำนวน 14.47 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจำนวน 23.18 ล้านบาท ลดลง 8.71 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 38 ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของลูกหนี้การค้าลดลงจำนวน 9.28 ล้านบาท
