หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล.กรุงศรี ระบุ CBG จัดประชุมนักวิเคราะห์เพื่ออัปเดตส่วนแบ่งการตลาดล่าสุดในเดือนมกราคม ซึ่งลดลง 0.6ppt MoM (เหลือ 25.4%) เนื่องมาจากการส่งเสริมการขายในกลุ่ม Modern Trade ที่ลดลง เพราะ CBG มองว่าการใช้จ่ายเพื่อส่งเสริมการขายในช่วงโลว์ซีซั่นหลังปีใหม่อาจไม่ทำกำไรมากนัก นอกจากนี้ CBG ยังมั่นใจยอดขายใน 1Q24 โดยคาดการณ์ว่ายอดขายเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศอาจสูงขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นประมาณ 2ppt เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ที่ 26%) ใน 1Q25 (และเนื่องจากฐานที่ต่ำใน 1Q24 จากการที่ CBG พยายามขายเบียร์มากกว่าขายเครื่องดื่มชูกำลัง) เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 97 บาท และประมาณการทั้งหมด
การแข่งขันด้านราคาอาจไม่รุนแรงนักใน 1Q25F
• ก่อนหน้านี้ ฝ่ายบริหารได้คาดการณ์ว่าส่วนแบ่งการตลาดจะเพิ่มขึ้น 3ppt (เป็น 29%) ในปี 2025 และเชื่อว่าเป็นไปตามแผน สำหรับการแข่งขันด้านราคาในกลุ่มราคาขวดละ 10 บาท ใน 1Q25 การแข่งขันยังไม่รุนแรงมากนัก เนื่องจากคู่แข่งอาจต้องใช้เวลาพอสมควรที่จะขยายการจัดจำหน่ายเพราะต้องระบายผลิตภัณฑ์ราคาขวดละ 12 บาทออกก่อนจึงจะสต็อกผลิตภัณฑ์ราคาขวดละ 10 บาท
• ยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศอาจสูงขึ้นประมาณ 40% YoY ใน 1Q25 ยอดขายการจัดจำหน่ายโดยบุคคลภายนอก (ส่วนใหญ่เป็นสุราและเบียร์) ก็ทำได้ดีเช่นกัน และอาจเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
• เฉพาะยอดขายต่างประเทศเท่านั้นที่อาจลดลงประมาณ 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผู้จัดจำหน่ายสต็อกสินค้ามากเกินไปใน 4Q24
• ฝ่ายบริหารยังมองในแง่ดีเกี่ยวกับอัตรากำไรขั้นต้น เนื่องจากราคาวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์หลักลดลงจากปีก่อน โดยเฉพาะน้ำตาล (ประมาณ 5% จากปีก่อน) และโซดาแอช (ประมาณ 10% จากปีก่อน)
• CBG มีแผนจะตั้งโรงงานผลิตเครื่องดื่มชูกำลังในเมียนมาร์ใน 3Q25 ซึ่งน่าจะช่วยลดราคาขายและเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในเมียนมาร์ได้
• CBG ยังวางแผนที่จะลดความหนาของขวดแก้วและกระป๋องอลูมิเนียมใน 2H25 ซึ่งน่าจะช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นได้ CBG เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มเครื่องดื่ม
• CBG เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มเครื่องดื่ม โดยราคาเป้าหมายของเราอยู่ที่ 29 เท่าของ P/E ปี 2025F ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวประมาณ -1SD ปัจจุบัน CBG ซื้อขายที่มูลค่าไม่แพงที่ 17.7 เท่าของ P/E ปี 2025F
• เราคิดว่าตลาดอาจกังวลมากเกินไปเกี่ยวกับการแข่งขันด้านราคาในกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศ เนื่องจากความเป็นผู้นำของ CBG ในกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังราคา 10 บาทนั้นยากที่จะท้าทาย