IVL ชู ESG แกนหลักธุรกิจ มุ่งเพื่อความยั่งยืนระดับโลก  

          บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL มุ่งมั่นเป็นผู้ผลิตเคมีภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนชั้นนำระดับโลก ด้วยการนำหลักการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (ESG) มาเป็นแกนหลักของธุรกิจ เพื่อส่งมอบการเติบโตอย่างมีความรับผิดชอบ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมได้

          ดร. แอนโทนี วาตานาเบ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความยั่งยืน บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL เล่าให้ฟังว่า บริษัทฯ มีแผนงานชัดเจนในการบรรลุเป้าหมาย ESG เพื่อมุ่งสู่การเป็นบริษัทที่มีความยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยมุ่งมั่นลดและดักจับคาร์บอนจากการดำเนินงานให้ได้มากยิ่งขึ้น เพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียน และทยอยเลิกการใช้ถ่านหิน

          สำหรับด้านสิ่งแวดล้อม (E) มุ่งเน้นบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน ได้แก่ ลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวม (Scope 1 และ 2) ลง 30% ภายในปี 2573 เพิ่มการใช้ไฟฟ้าการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเป็น25% ภายในปี 2573 และบรรลุเป้าหมายในการรีไซเคิลขวด PET หลังการบริโภค 1.5 ล้านตันต่อปี ภายในปี 2573 โดยตั้งแต่ปี 2554 ได้รีไซเคิลขวด PET หลังการบริโภคมากกว่า 134,000 ล้านขวด ซึ่งช่วยลดการพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างมาก และลดปริมาณขยะฝังกลบ ความก้าวหน้าและเป้าหมายสำคัญเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างโซลูชันขยายการดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรมเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

          ส่วนด้านสังคม (S) มุ่งมั่นสร้างผลกระทบทางสังคมเชิงบวกที่มีความหมายต่อชุมชนที่บริษัทฯ ดำเนินงานอยู่ โดยนำศักยภาพและความเชี่ยวชาญระดับโลกของบริษัทฯ มาสร้างมูลค่าร่วมกันในระยะยาวเพื่อสังคม โครงการริเริ่มที่สำคัญ ได้แก่ การให้ความรู้เกี่ยวกับการรีไซเคิล ในปี 2566 มีผู้เข้าร่วมโครงการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการรีไซเคิลกว่า 400,000 คนทั่วโลก โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มเยาวชน เพื่อส่งเสริมการปฎิบัติตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน ตลอดจนมีส่วนร่วมของชุมชนอย่างการร่วมมือกับองค์กรในท้องถิ่นเพื่อปรับปรุงการเข้าถึงบริการที่จำเป็น อาทิ การศึกษา การดูแลสุขภาพ และการสุขาภิบาล ซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนหลายพันคน อีกทั้งโครงการอาสาสมัครเชิญชวนพนักงานเพื่ออุทิศเวลาเป็นอาสาสมัครมากกว่า 15,000 ชั่วโมงในปี 2566 ในโครงการพัฒนาชุมชนต่างๆ ด้วยการตอบสนองความต้องการของชุมชนและส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน ทำให้เราสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยั่งยืนซึ่งสอดคล้องกับค่านิยมหลักและกลยุทธ์ ESG ของเรา

          ขณะที่ด้านการกำกับดูแล (G) มุ่งเน้นดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสและยึดมั่นในความซื่อสัตย์ ปฏิบัติตามมาตรฐานการกำกับดูแลกิจการที่เข้มงวดและกรอบการจัดการความเสี่ยงระดับสากล ทั้งแนวทางปฏิบัติทางธุรกิจที่ถูกต้องตามจริยธรรม ยึดมั่นในมาตรฐานการปฏิบัติตามกฎหมายที่เข้มงวด ลดความเสี่ยง และเสริมสร้างความมุ่งมั่นของเราในการดำเนินงานที่ถูกต้องตามจริยธรรมทั่วโลก รวมถึงการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล: นำซอฟต์แวร์เฉพาะด้าน ESG มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบข้อมูลและรายงานด้านความยั่งยืน เพื่อยกระดับความโปร่งใสและความรับผิดชอบมากขึ้น

          “เราไม่ได้เป็นเพียงกรอบการดำเนินงานเท่านั้น แต่เป็นรากฐานในการสร้างโอกาสผ่านนวัตกรรมและการลงทุนด้านเทคโนโลยี การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และขับเคลื่อนอนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น ในการสร้างโลกที่ดีขึ้นและยั่งยืนมากขึ้น เราเป็นผู้นำด้านเคมีภัณฑ์ตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ เราจัดหาวัตถุดิบที่ยั่งยืน ออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อความแข็งแกร่งและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และรีไซเคิลเพื่อให้ผลิตภัณฑ์กลับมามีชีวิตใหม่ เราผลิตเคมีภัณฑ์ที่ขาดไม่ได้ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้คนหลายพันล้านคนและโลกของเราทุกวัน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความยั่งยืน อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าว

          อย่างไรก็ดี ความยั่งยืนถือเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างคุณค่า และก้าวข้ามความท้าทายในภูมิทัศน์โลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ด้วยความยืดหยุ่นและนวัตกรรมจึงส่งมอบ “เคมีภัณฑ์ที่ขาดไม่ได้” ตอบสนองความต้องการทั่วโลก พร้อมเป็นผู้นำในการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืน เคมีภัณฑ์ของบริษัทฯ ถูกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น บรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์สุขอนามัยส่วนบุคคล อุปกรณ์ทางการแพทย์ ชิ้นส่วนยานยนต์ สิ่งทอ และอื่นๆ อีกมากมาย

          ทั้งนี้ การนำความยั่งยืนมาผนวกเข้ากับธุรกิจช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน ได้นำแนวปฎิบัติด้านการหมุนเวียนมาใช้ในทุกขั้นตอนการดำเนินงาน ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบไปจนถึงโซลูชันการจัดการผลิตภัณฑ์เมื่อสิ้นอายุการใช้งาน แนวทางนี้เกี่ยวข้องกับการลดของเสียให้เหลือน้อยที่สุดเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยบริษัทฯ เผชิญความเสี่ยงด้านการดำเนินงานที่สำคัญทั่วโลก เนื่องมาจากภัยธรรมชาติตลอดหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงพายุทอร์นาโด พายุเฮอริเคน น้ำท่วม ภาวะขาดแคลนน้ำ และไฟป่า เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่

          บริษัทฯ ได้พัฒนา “แผนการปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศ” เพื่อช่วยบรรเทาความเสี่ยงในการดำเนินงานทั่วโลก และเพื่อสร้างความมั่นใจว่า เตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แผนการปรับตัวของอินโดรามา เวนเจอร์ส อยู่ภายใต้การตรวจสอบโดยคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงด้านความยั่งยืน (SRMC) และได้มีการนำไปปฏิบัติในทุกฐานการผลิตของอินโดรามา เวนเจอร์ส ทั่วโลก

          นอกจากนี้ การพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ถือเป็นหัวใจสำคัญในเส้นทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน จึงจัดให้ฝึกอบรมเชิงกลยุทธ์ผ่าน Sustainability Academy ในทุกระดับขององค์กร ซึ่งช่วยให้ความรู้แก่พนักงานเกี่ยวกับเครื่องมือสำหรับประเมินความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศ ปรับตัวให้เข้ากับความท้าทายที่เปลี่ยนแปลงไป และตอบสนองความต้องการของลูกค้า การมุ่งเน้นนี้ช่วยให้พนักงานมีความยืดหยุ่นและประสบความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของเรา

          “เรายังร่วมมือกับพันธมิตร ลูกค้า และซัพพลายเออร์ เพื่อส่งเสริมแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนและรับผิดชอบต่อสังคมตลอดห่วงโซ่คุณค่า อีกหนึ่งโครงการที่เราได้ดำเนินการคือ “โครงการส่งเสริมความยั่งยืนของซัพพลายเออร์” (Sustainable Supplier Engagement Program) ซึ่งมุ่งเน้นการลดความเสี่ยงด้าน ESG ในห่วงโซ่อุปทานและประเมินความพร้อมของซัพพลายเออร์ในการลดการปล่อยคาร์บอน ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างทีมจัดซื้อและทีมธุรกิจในโครงการนี้ แสดงให้เห็นถึงการผสานรวมแนวคิดความยั่งยืนในองค์กรได้อย่างแท้จริง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความยั่งยืน อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าว

          อีกประเด็นที่น่าสนใจ คือ การใช้ประโยชน์จากโอกาสด้านการความยั่งยืน โดยลงทุนการรีไซเคิลขั้นสูง ด้วยการร่วมมือกับสตาร์ทอัพชั้นนำและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในห่วงโซ่อุปทาน เพื่อขับเคลื่อนเทคโนโลยีรีไซเคิลที่ล้ำสมัยและนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบสนองความต้องการด้านความยั่งยืนในระดับโลก และช่วยให้ลูกค้าของเราบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน ขณะเดียวกันขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน ด้วยการพัฒนาโซลูชันสอดคล้องกับเศรษฐกิจหมุนเวียน และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มองหาทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

          อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือและการลงทุนทั่วทั้งห่วงโซ่คุณค่าช่วยทำให้วัตถุดิบที่ยั่งยืนและเทคโนโลยีล้ำสมัยมีความพร้อมใช้งานมากขึ้น และมีต้นทุนที่เข้าถึงได้ โดยการส่งเสริมนวัตกรรมผ่านการเข้าใจอย่างครบถ้วนถึงอุปสรรคทางด้านเทคนิค เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น ตลอดจนการสร้างคุณค่า และการปกป้องคุณค่า (Value Protection) เป็นการเสริมสร้างความยืดหยุ่นให้กับการดำเนินงานของบริษัทฯ ผ่านการบูรณาการเครื่องมือบริหารความเสี่ยง เช่น แผนการปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศ มาตรการเหล่านี้ปกป้องธุรกิจจากความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม รักษาเสถียรภาพในการดำเนินงาน และสร้างความไว้วางใจของกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

ขณะที่การสร้างคุณค่า (Value Creation) ประสบความสำเร็จผ่านนวัตกรรมที่ยั่งยืน เทคโนโลยีรีไซเคิลขั้นสูง และการขยายสายผลิตภัณฑ์สีเขียวที่มีอัตรากำไรสูง ความพยายามเหล่านี้สอดคล้องกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปทั่วโลก ช่วยผลักดันการเติบโตของรายได้ในขณะที่สร้างมูลค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระยะยาว อินโดรามา เวนเจอร์ส ภูมิใจที่ได้เป็นผู้นำด้านโซลูชันที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ระดับโลก ด้วยพนักงานทั่วโลกประมาณ 26,000 คน เรายังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างคุณค่าที่ยั่งยืน ขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรม และร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำทั่วโลกเพื่อส่งเสริมอนาคตที่ยั่งยืน

แชร์:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

GPSC ปี 67 กำไรสุทธิโต 10% แตะ 4 พันลบ.

GPSC ปี 67 กำไรสุทธิโต 10% แตะ 4 พันลบ.

RT คว้างานแขวงทางหลวงเชียงใหม่-ภูเก็ต รวม 38.35 ล้านบาท

RT คว้างานแขวงทางหลวงเชียงใหม่-ภูเก็ต รวม 38.35 ล้านบาท

TASCO เผยยอดขายยางมะตอยรวมปี 67 ทะลุ 1.1 ล้านตัน

TASCO เผยยอดขายยางมะตอยรวมปี 67 ทะลุ 1.1 ล้านตัน

PTTGC ไตรมาส 4/67 ขาดทุน1.1 หมื่นล.

PTTGC ไตรมาส 4/67 ขาดทุน1.1 หมื่นล.

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด