JMT ไตรมาส3/67 กำไร 430ล้าน คาดไตรมาส 4/67 เก็บหนี้ดีขึ้น

           JMT กำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 430 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 7.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมกำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 อยู่ที่ 1,215 ล้านบาท ลดลง 17.4% จากปีก่อน โดยบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าตั้งเป้าไตรมาส 4/67 เป็นช่วงเก็บหนี้สูงสุด สถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง

           บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT บริษัทฯ มีรายได้รวมสำหรับงวด 9 เดือน เท่ากับ 3,947.6 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 6.5 โดยรายได้ในส่วนบริหารหนี้ด้อยคุณภาพยังคงมีการเติบโต และจะเติบโตไปพร้อมกับการจัดเก็บกระแสเงินสด ทั้งนี้ สัดส่วนของรายได้ในธุรกิจบริหารหนี้ เท่ากับร้อยละ 89.4 ของรายได้รวมของบริษัท

           บริษัทฯ มียอดกระแสเงินสดจากการจัดเก็บหนี้ (Cash Collection) ในไตรมาส 3/2567 กรณีรวมกระแสเงินสดที่จัดเก็บโดยบริษัทสินทรัพย์ JK เท่ากับ 2,263 ล้านบาท และสำหรับส่วนของบริษัท จะมีการจัดเก็บในไตรมาส 3/2567 ที่ผ่านมาเท่ากับ 1,396 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2567 ร้อยละ 7 และสำหรับงวด 9 เดือน กรณีกระแสเงินสดที่จัดเก็บรวมบริษัทสินทรัพย์ JK เท่ากับ 6,479 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ สำหรับการจัดเก็บกระแสเงินสดในส่วนของบริษัท ในรอบ 9 เดือน เท่ากับ 4,154 ล้านบาท

           กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้น สำหรับไตรมาส 3/2567 เท่ากับ 430 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 7.8 สำหรับงวด 9 เดือน เท่ากับ 1,215 ล้านบาท ลดลงเท่ากับ 255.3 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 17.4 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และอัตรากำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทฯ เท่ากับร้อยละ 30.8

           “บริษัทยังคงตั้งเป้าหมายในการจัดเก็บกระแสเงินสดให้เพิ่มขึ้น ด้วยการติดตามลูกค้าอย่างใกล้ชิด โดยคาดการณ์ว่าไตรมาส 4/2567 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ในด้านการจัดเก็บหนี้ด้อยคุณภาพ”

สภาพคล่องและความเพียงพอของเงินทุน

           บริษัทฯ มีกระแสเงินสดเพียงพอต่อการดำเนินกิจการและชำระเงินกู้ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้สำรองกระแสเงินสดที่จะต้องชำระเงินกู้ให้กับหุ้นกู้ที่ครบกำหนดจ่ายคืน ที่มีกำหนดไถ่ถอนภายในปี 2567 ไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีมูลค่ารวมเพียง 1,012.5 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีกระแสเงินสดและเงินสดในบริษัทเพียงพอต่อการจ่ายคืนหุ้นกู้ดังกล่าว

           นอกจากนี้ สำหรับหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนภายใน 1 ปี บริษัทฯ และบริษัทย่อย ได้จัดทำประมาณการทางการเงินสำหรับการชำระหนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีแหล่งเงินมาจากกระแสเงินสดภายในบริษัท เงินปันผลรับที่จะได้รับจากบริษัทย่อยและกิจการร่วมค้า เงินกู้ยืมที่จะได้รับคืนจากกิจการร่วมค้า และการรีไฟแนนซ์ (Refinance) โดยการออกหุ้นกู้ ซึ่งในช่วงปลายไตรมาส 3/2567 ที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จในการปิดการขายหุ้นกู้ 2 ชุดใหม่ อายุ 2 ปี และ 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.90% และ 5.50% ต่อปีตามลำดับ มูลค่ารวมทั้งสองชุด 1,800 ล้านบาท นักลงทุนให้การตอบรับเป็นอย่างดีครบตามจำนวน

           บริษัทฯ ยังคงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และยังคงดำรงอัตราส่วนทางการเงินตามข้อกำหนดสิทธิหุ้นกู้เสมอมา

มุมมองของอุตสาหกรรมในอนาคต

           ในอนาคต อุตสาหกรรมบริหารหนี้ด้อยคุณภาพคาดว่าจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอนและแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของหนี้เสียในระบบการเงิน การเติบโตนี้ยังได้รับแรงผลักดันจากการพัฒนาของเทคโนโลยีที่ช่วยให้กระบวนการบริหารหนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น การใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อช่วยในการวิเคราะห์และปรับโครงสร้างหนี้ นอกจากนี้ แนวโน้มการปรับปรุงกฎระเบียบด้านการบริหารหนี้ของรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนธุรกิจในภาคนี้ให้มีความยั่งยืนและเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น

แชร์:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ADVANC ปี67 กำไรพุ่ง3.5หมื่นล้าน อนุมัติปันผลที่5.74 บ.ต่อหุ้น XD 20 ก.พ.68

ADVANC ปี67 กำไรพุ่ง3.5หมื่นล้าน อนุมัติปันผลที่5.74 บ.ต่อหุ้น XD 20 ก.พ.68

THCOM ปี67 ขาดทุน 23ล้านบาท จากเงินบาทแข็งค่า แต่กำไรหลักธุรกิจดาวเทียมแข็งแกร่ง

THCOM ปี67 ขาดทุน 23ล้านบาท จากเงินบาทแข็งค่า แต่กำไรหลักธุรกิจดาวเทียมแข็งแกร่ง

BGRIM ราคาหุ้นมีอัพไซด์ คาดกำไรไตรมาส1/68 ที่ 400ล.

BGRIM ราคาหุ้นมีอัพไซด์ คาดกำไรไตรมาส1/68 ที่ 400ล.

SUSCO ร่วมเปิด สตาร์บัคส์ SUSCO SQUARE ลำลูกกา

SUSCO ร่วมเปิด สตาร์บัคส์ SUSCO SQUARE ลำลูกกา

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด