หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล.ดาโอ ประเมินว่า OR จะรายงานกำไรสุทธิ 4Q67E ที่ 2.6 พันล้านบาท (สูงกว่าที่คาดก่อนหน้านี้) เทียบกับ กำไร 193 ล้านบาทใน 4Q66 และ ขาดทุน 1.6 พันล้านบาทใน 3Q67 โดยสูงขึ้น YoY, QoQ หลัก ๆ ตามปริมาณขายน้ำมันในประเทศและกำไรขั้นต้นต่อลิตร (GP/litre) ที่สูงขึ้น
ในขณะเดียวกัน เชื่อว่ารายได้ของธุรกิจ Lifestyle จะสูงขึ้นตาม จำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้นและยอดขายที่ดีขึ้น อย่างไรก็ดี เชื่อว่าบริษัทจะต้องมีการบันทึกการตั้งสำรองด้อยค่าของสินทรัพย์ (loss on impairment of assets) ที่เป็นไปได้เพิ่มเติมจากการออกจากธุรกิจที่ไม่สร้างกำไร หลังจากรับรู้ผลขาดทุนจาก Texas Chicken และ Kouen Sushi ไปแล้วใน 3Q67
คงประมาณการ กำไรสุทธิปี 2567E/2568E ที่ 6.0/9.1 พันล้านบาท เทียบกับ 1.11 หมื่นล้านบาทในปี 2566 โดยมีสมมติฐานที่สำคัญ ดังนี้:
- GP/litre จะลดลงอยู่ในช่วง Bt0.84/litre – Bt0.90/litre จาก Bt1.00/litre ในปี 2566 จากผลกระทบของ stock loss
- EBITDA margin ของธุรกิจ Lifestyle อยู่ที่ 25.3%-26.8% เทียบกับ 26.7% ในปี 2566 สะท้อนผลกระทบจากการตั้ง loss on impairment of assets
- ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม (equity income) ลดลงอยู่ในช่วง 8-117 ล้านบาท เทียบกับ 539 ล้านบาทในปี 2566 เนื่องจาก FX loss สำหรับธุรกิจในเมียนมาร์
ราคาหุ้นปรับตัวลง 28% และ Underperform SET -27% ในช่วง 6 เดือน
ราคาหุ้นสะท้อน ความกังวลต่อ regulatory risk ที่เป็นไปได้ จากการที่กระทรวงพลังงานเตรียมร่าง พ.ร.บ. ฉบับใหม่ เพื่อควบคุมเพดานภาษีน้ำมันและการใช้ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (oil fuel fund)
แม้ว่าราคาปัจจุบันจะสะท้อน 2568E PER ที่ 14.9x (-3.0SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PER 5 ปีของกลุ่มค้าปลีก) แต่ยังมองว่า regulatory risk อาจเป็น overhang ต่อราคาหุ้นในระยะสั้นถึงกลาง
Event: 4Q67E Earnings Preview
❑ คาดกลับมารายงานกำไรสุทธิใน 4Q67E
ประเมินว่า OR จะรายงานกำไรสุทธิ 4Q67E ที่ 2.6 พันล้านบาท เทียบกับ
- กำไร 193 ล้านบาทใน 4Q66
- ขาดทุน 1.6 พันล้านบาทใน 3Q67
โดยมีสมมติฐานที่สำคัญ ดังนี้
- ธุรกิจ Mobility:
- คาด ปริมาณขายน้ำมันในประเทศที่ 7.1 พันล้านลิตร (+1% YoY, +9% QoQ)
- QoQ เติบโตแรงตาม อุปสงค์การเดินทางที่สูงขึ้นในช่วงวันหยุด
- คาด GP/litre ที่ Bt0.90/litre (+20% YoY, +77% QoQ) หนุนจาก stock loss ที่ลดลง
- ธุรกิจ Lifestyle:
- คาด รายได้ที่ 6.0 พันล้านบาท (+7% YoY, +8% QoQ)
- เติบโตตาม จำนวนสาขาของ Café Amazon และร้านสะดวกซื้อที่เพิ่มขึ้น
- คาด ปริมาณขายเครื่องดื่ม Café Amazon ที่ 103 ล้านแก้ว (+8% YoY, +5% QoQ)
- คาด EBITDA margin ที่ 22.1% เทียบกับ 25.6% ใน 4Q66 และ 20.2% ใน 3Q67 โดยสูงขึ้น QoQ ตาม loss on impairment of assets ที่ลดลง
- ธุรกิจ Global:
- คาด ปริมาณยอดขายน้ำมันในต่างประเทศที่ 512 ล้านลิตร (+38% YoY, -1% QoQ)
- เติบโต YoY จาก ยอดขายที่ดีขึ้นในฟิลิปปินส์
- รายการอื่น ๆ:
- คาดบริษัทจะมีกำไรจาก รายการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน (เช่น FX gain และเครื่องมือทางการเงิน) ที่ 214 ล้านบาท เทียบกับ
- ขาดทุน 625 ล้านบาทใน 4Q66
- ขาดทุน 1.8 พันล้านบาทใน 3Q67
- ดีขึ้นหลัก ๆ จาก การรับรู้ FX gain ในไตรมาสนี้
- คาดบริษัทจะมีกำไรจาก รายการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน (เช่น FX gain และเครื่องมือทางการเงิน) ที่ 214 ล้านบาท เทียบกับ
❑ Regulatory Risk ยังคงเป็น Overhang ในปี 2568E
เชื่อว่าบริษัทจะยังคงเผชิญกับ regulatory risk ในปี 2568E จาก
- กระทรวงพลังงานมีแผนปรับ โครงสร้างราคาน้ำมันใหม่ ซึ่งอาจกระทบต่อ marketing margin
- แผนการใช้ ระบบน้ำมันสำรองยุทธศาสตร์ (SPR) แทนการใช้ oil fuel fund อาจทำให้ผู้ค้าน้ำมันมี ต้นทุนที่สูงขึ้น
Implication
คงประมาณการ กำไรสุทธิปี 2567E/2568E ที่ 6.0/9.1 พันล้านบาท เทียบกับ 1.11 หมื่นล้านบาทในปี 2566 โดยมีสมมติฐานที่สำคัญ:
- GP/litre จะลดลงอยู่ในช่วง Bt0.84/litre – Bt0.90/litre จาก Bt1.00/litre ในปี 2566 จาก stock loss
- EBITDA margin ของธุรกิจ Lifestyle ที่ 25.3%-26.8% เทียบกับ 26.7% ในปี 2566
- Equity income ที่ลดลงอยู่ในช่วง 8-117 ล้านบาท เทียบกับ 539 ล้านบาทในปี 2566 จาก FX loss สำหรับธุรกิจในเมียนมาร์
Valuation / Catalyst / Risk
คง ราคาเป้าหมายปี 2568E ที่ 16.00 บาท อิง PER เป้าหมายที่ 21.1x (-2.1SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PER 5 ปีของกลุ่มค้าปลีก)
แม้ว่า ผลประกอบการของบริษัทน่าจะผ่านจุดต่ำสุดของปีแล้ว แต่มองว่า regulatory risk ที่ยังไม่ชัดเจน อาจเป็น overhang ต่อราคาหุ้นในระยะสั้นถึงกลาง