หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล.หยวนต้า ระบุ Prima Marine (PRM) ไม่ได้รับผลกระทบเพียงชั่วคราวจากการซ่อมบำรุงเรือ คาดกำไรปกติลดลงจากการนำเรือเข้าซ่อมบำรุง คาดกำไรสุทธิ 4Q24 ที่ 468 ลบ. หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนราว 60 ลบ. กำไรปกติจะอยู่ที่ 408 ลบ. (-22% QoQ, -4% YoY) ปัจจัยหลักที่กดดันผลประกอบการทั้ง QoQ และ YoY คือการนำเรือเข้าอู่แห้งเพื่อซ่อมบำรุง 3 ลำ (เรือขนส่งน้ำมันขนาดใหญ่ – VLCC, เรือกักเก็บน้ำมันดิบ – FSU, เรือขนส่งและที่พักอาศัยสำหรับพนักงาน – AWB) เป็นเวลา 2 เดือนใน ธ.ค. 2024 ถึง ม.ค. 2025 คาดรายได้รวมที่ 1.9 พันลบ. (-10% QoQ, -5% YoY) ลดลง QoQ แม้เป็น High Season ของกลุ่มธุรกิจขนส่งน้ำมัน คาด GPM รวมใน 4Q24 ที่ 33.5% (-287bps QoQ, +68bps YoY) ลดลง QoQ ในทิศทางเดียวกันกับรายได้ คาด SG&A เพิ่มขึ้นใน 4Q24 อยู่ที่ 170 ลบ. คิดเป็นอัตรา SG&A/Sales ที่ 8.7%
Capacity เริ่มขยายตัวตั้งแต่ 1Q25 เป็นต้นไป แนวโน้มกำไรปกติ 1Q25 กลับมาฟื้นตัว QoQ หลังเรือ 3 ลำเสร็จสิ้นการซ่อมบำรุง
- เรือ AWB ได้กลับมาให้บริการแก่ PTTEP แล้วในวันที่ 26 ม.ค.
- เรือ VLCC คาดกลับมาเดินเรือใน 31 ม.ค.
- เรือ FSU คาดกลับมาให้บริการในเดือน ก.พ.
แผนการขยายกองเรือของ PRM ในปี 2024 จะทำให้บริษัทเริ่มรับรู้ Capacity ที่เพิ่มขึ้นจาก
- เรือ FSU ที่ซื้อมาใน 4Q24 คาดเริ่มรับรู้รายได้ใน มี.ค.
- เรือขนส่งน้ำมันที่นำไปดัดแปลงเป็นเรือกักเก็บและขนถ่ายน้ำมัน (FSO) จะต่ออายุการใช้งานได้อีก 5 ปี คาดลงพื้นที่ให้บริการในต้นเดือน ก.พ.
- PRM ได้ส่ง Hybrid Crew Boat 2 ลำเพื่อให้บริการนอกชายฝั่งแก่ ADNOC (บริษัทพลังงานต้นน้ำที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง) และเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ 6 ม.ค. แล้ว
การเติบโต YoY ของกำไรปกติ 1Q25 อาจท้าทายจากฐานสูง แต่ประเมินผลบวกจากการขยายกองเรือเต็มไตรมาสจะผลักดันการเติบโต YoY ของผลประกอบการตั้งแต่ 2Q25 เป็นต้นไป
แนวโน้มกำไรปี 2025 สดใส เงินปันผลงวด 2H24 อาจมี Upside
คาดกำไรปกติปี 2025 ที่ 2.4 พันลบ. เติบโต 10% YoY แม้ฐานสูงจากแผนขยายกองเรือเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในธุรกิจเรือบริการนอกชายฝั่งที่เป็นธุรกิจ High Margin สำหรับปี 2025 PRM รอรับ Crew Boat ต่อใหม่อีก 2 ลำ และอยู่ระหว่างพิจารณาซื้อเรือสนับสนุนลาก-จูง การจัดการสมอ (Anchor Handling Tug Supply – AHTS) ที่ให้บริการพร้อมกับเรือ AWB ในงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมกลางทะเล และในปี 2026 มีแผนการรับเรือขนส่งน้ำมันอีก 6 ลำ
คาดเงินปันผลงวด 2H24 ที่ 0.16 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield ที่ 2.2% อย่างไรก็ดี คาดการณ์อาจมี Upside จาก Guidance บริษัทที่คาดเงินปันผลไม่ต่ำกว่างวด 2H23 ที่ 0.26 บาท/หุ้น ซึ่งคิดเป็น Dividend Yield ที่ 3.6% ราคาหุ้นที่ปรับตัวลง 16% YTD สะท้อนผลประกอบการ 4Q24 ที่ไม่โดดเด่นไปมากแล้ว แนวโน้มผลประกอบการที่คาดว่าจะกลับมาเร่งตัวตั้งแต่ 1Q25 และเงินปันผลงวด 2H24 ที่อาจมี Upside ทำให้มองเป็นจังหวะสะสม คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2025 ที่ 10.20 บาท/หุ้น
ความเสี่ยงสำคัญ: ลูกค้ายกเลิกสัญญาก่อนกำหนด, ภัยธรรมชาติ, เรือเข้าอู่แห้งนอกแผน, การหยุดชะงักทางธุรกิจของลูกค้า, ต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้น