หุ้นวิชั่น – PTG วางงบลงทุนรวม ปี2568 ที่ 3,000 – 4,000 ล้านบาท จัดให้กาแฟพันธุ์ไทย 1-1.5 พันล้านบาท ปีนี้เพิ่มอีก 600 สาขา ตั้งเป้ายอดขายกาแฟ โต 40-50% ด้านโบรกเคาะพื้นฐาน 10.50 บาท
นายปรเมษฐ์ สงวนโชควณิชย์ ผู้อำนวยการอาวุโสประจำสำนักกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า บริษัทวางงบลงทุนในปี 2568 ราว 3,000 – 4,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นธุรกิจ Oil ราว 1,000-1,500 ล้านบาท, ธุรกิจร้านกาแฟพันธุ์ไทย ราว 1,000-1,500 ล้านบาท, กลุ่มธุรกิจ Non-Oil อื่น ๆ ในบริษัท ราว 500-1,000 ล้านบาท และลงทุนในธุรกิจใหม่อีกราว 1,000-1,500 ล้านบาท
จากภาพรวมการงบลงทุนในปี 2568 บริษัทเล็งธุรกิจ Oil มากขึ้น ใช้ในการปรับปรุงสาขาเพื่อดึงลูกค้า และตั้งเป้าขยายสาขาราว 50 สถานี รวมทั้งสิ้น 2,279 สถานีในปี 2568 เพื่อสนับสนุนเป้าหมายปริมาณยอดขายปีนี้เติบโตที่ 5-10%
- ดันกาแฟพันธุ์ไทย
ส่วนธุรกิจ Non-Oil นำโดยร้านกาแฟพันธุ์ไทย ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าขยายสาขาอีกราว 600 สาขา และตั้งเป้ายอดขายเติบโต 40-50% (ไม่รวม LPG) โดยคาดหวังอัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจ Non-Oil เพิ่มขึ้นราว 30-35% จากปีที่แล้วอยู่ที่ 25% และตั้งเป้า EBITDA เติบโตที่ 8-12% อีกด้วย
ด้านนายปรเมษฐ์ ยังเปิดเผยต่อว่า จากที่ผ่านมาธุรกิจ Oil ได้เติบโตเพิ่มขึ้น 10 เท่า ส่วนธุรกิจ Non-Oil ได้เติบโตมากกว่า GDP ส่งผลให้ภาพรวมของปีนี้ บริษัทจะเน้นการใช้ Max Card และ Max Card Plus จากกลุ่มลูกค้ามาส่งเสริมให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทุกกลุ่ม พร้อมตั้งเป้าหมายรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจ Non-Oil เพิ่มขึ้น 25-30%
- กำไรปี 2567 โต 7.9%
สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปี 2567 ยังคงเติบโต โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,042 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน ได้แรงหนุนจากรายได้รวม ที่เพิ่มขึ้น 27,002 ล้านบาท รวมทั้งปี 2567 อยู่ที่ 225,813 ล้านบาท มาจากปัจจัยหลักการเติบโตมาจากธุรกิจ Oil ที่ขยายตัว 12.3% ตามการเพิ่มขึ้นของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางที่เติบโตถึง 12.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน หรือคิดเป็นปริมาณรวม 6,708 ล้านลิตร โดยมาจากยอดขายผ่านสถานีบริการของ PT ที่ 6,548 ล้านลิตร ซึ่งสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ คิดเป็นการเติบโต 12.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน สูงกว่าระดับการเติบโตของอุตสาหกรรม เนื่องจากภาพรวมปริมาณการใช้น้ำมันของประเทศผ่านสถานีบริการมีการเติบโตเพียง 0.4%
นอกจากนี้ ธุรกิจ Non-Oil ได้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญที่ 4,270 ล้านบาท หรือ 31.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น จากการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้น รวมถึง SSSG จากกลุ่มลูกค้าสมาชิก การทำการตลาดและแคมเปญส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง
- เคาะเป้า 10.50 บาท
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) มอง slightly negative ต่อข้อมูลในที่ประชุมนักวิเคราะห์ในประเด็นของค่าการตลาดน้ำมันของ PTG ที่ฟื้นตัวช้า โดยช่วง ม.ค. 25 มีแนวโน้มคงที่ Vs. 4Q24 ที่ราว 1.65 บาท/ลิตร และผู้บริหารประเมินว่าสภาวะการแข่งขันในตลาดและนโยบายรัฐอาจทำให้ค่าการตลาดน้ำมันไปเร่งใน 2H68 แทน สะท้อนแนวโน้ม downside ของกำไรปี 2568 หากค่าการตลาดต่ำกว่าคาด (ทุก ๆ ค่าการตลาดต่ำกว่าคาด 0.01 บาท/ลิตร กระทบกำไรราว -51 ล้านบาท หรือ -3.6%)
สำหรับข้อมูลเป้าธุรกิจ Oil และ Non-Oil ไม่ได้เปลี่ยนไปจากข้อมูลที่เปิดเผยก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ จากสภาวะที่ราคาน้ำมันดิบลดลง y-y และภาครัฐลดภาระขาดทุนกองทุนน้ำมันได้ต่อเนื่อง ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ราว 1.4 พันล้านบาท +39% y-y หนุนจากทั้งฝั่ง Oil ที่คาดค่าการตลาดน้ำมัน +5% y-y เป็นราว 1.73 บาท/ลิตร และรายได้ Pun Thai +35% ตามการเร่งขยายสาขา
ฝ่ายวิจัยจึงคงคำแนะนำ ซื้อ ให้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 10.50บาท/หุ้น หากรับความเสี่ยงกฎหมายคุมราคาน้ำมันได้มอง PTG น่าสนใจ บนแนวโน้มการเติบโตทั้งธุรกิจ Oil ที่ค่าการตลาดน้ำมันมีแนวโน้มฟื้นตัวในระยะยาวจากแรงกดดันด้านต้นทุนที่ทยอยลดลง และ Non-Oil ที่ Pun Thai/Max Mart/Autobacs เติบโตต่อเนื่อง