บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) หรือ RCL แจ้งผลการดำเนินงานของ บจ. ไตรมาสที่ 3 ปี 2567 บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,091 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,943 ล้านบาท หรือร้อยละ 256 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2567 โดยมีรายได้รวมสำหรับไตรมาสนี้อยู่ที่ 11,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,426 ล้านบาท หรือร้อยละ 45 โดยมีสาเหตุหลักมาจากอัตราค่าระวางเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 47 ซึ่งปรับตัวจาก 352 เหรียญต่อตู้ในไตรมาสที่ 2 ปี 2567 มาอยู่ที่ 516 เหรียญต่อตู้ในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 ขณะที่ปริมาณการขนส่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาที่ร้อยละ 4
สำหรับงวด 9 เดือนของปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 5,852 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 182 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากรายได้จากการเดินเรือที่เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 28 ซึ่งส่งผลมาจากปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 และอัตราค่าระวางเฉลี่ยที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 อีกทั้ง บริษัทฯ ได้ขยายเส้นทางการให้บริการไปยังพื้นที่ปลายทางที่มีอัตราค่าระวางสูงและมีศักยภาพเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทำกำไร ขณะที่ต้นทุนการเดินเรือและค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 8 และ 9 ตามลำดับ ถึงแม้ว่าราคาน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งเป็นต้นทุนในการดำเนินงานยังคงอยู่ในระดับสูง
ภาวะอุตสาหกรรมการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางทะเลในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 ยังเผชิญกับความผันผวนจากหลายปัจจัย ได้แก่ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก สถานการณ์ความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงตึงเครียด ความผันผวนของราคาน้ำมันที่สูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลง รวมถึงความผันผวนของอัตราค่าระวาง บริษัทฯ สามารถดำเนินกลยุทธ์ในการบริหารจัดการต้นทุนอย่างเข้มงวดควบคู่ไปกับการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในกระบวนการดำเนินงานมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ขยายกองเรือให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อสอดคล้องกับเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของบริษัทฯ โดยขยายเครือข่ายการให้บริการไปยังพื้นที่และตลาดใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพสูงและเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 เรืออุษมา ภูมิ ขนาด 12,000 TEU ซึ่งเป็นเรือขนาดใหญ่ที่สุดที่บริษัทฯ ใช้ดำเนินงานเอง ได้เข้าสู่กองเรือและสร้างรายได้จากการขนส่งภูมิภาคทางไกล (Long-Haul Service) รวมถึงเรือขนาด 7,000 TEU จำนวน 2 ลำ ได้แก่ เรืออัฐ ภูมิ ซึ่งได้ทำสัญญาเช่าระยะยาวออกไปเรียบร้อยแล้ว และเรือเหมะ ภูมิ ซึ่งบริษัทฯ ได้ใช้ดำเนินงานเองเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในอนาคต การขยายเครือข่ายนี้เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในระยะยาว และจากมาตรการต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้นส่งผลให้ผลประกอบการในไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ในระดับที่ดี
สุดท้ายนี้ บริษัทฯ มีความยินดีที่จะแจ้งให้ทราบว่า ที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 8/2567 เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ได้มีมติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลครั้งที่ 2 ในปี 2567 ในอัตรา 0.50 บาทต่อหุ้น จากผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ปี 2567 ที่เพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทฯ ได้กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 6 ธันวาคม 2567