SCC สรุปผลการดำเนินการด้าน ESG ปี 2567

          หุ้นวิชั่น – บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC สรุปผลการดำเนินการด้าน ESG

  • Net Zero: ในปี 2567 เอสซีจีมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Scope 1+2) อยู่ที่ 26.25 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ ลดลง 23.4% เมื่อเทียบกับ 34.24 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ ในปี 2563 (ปีฐาน)
  • Go Green: ในปี 2567 รายได้จากสินค้า Green Choice อยู่ที่ 275.6 ล้านบาท หรือคิดเป็น 54% ของรายได้รวม อีกทั้งยังสามารถ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 950,000 ตัน CO2
  • ลดเหลื่อมล้ำ: ในปี 2567 เอสซีจีมีส่วนในการ ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมรวม 24,543 คน ผ่านการพัฒนาอาชีพ ส่งเสริมโอกาสทางการศึกษา และยกระดับสุขภาวะ เป็นต้น
  • ย้ำความร่วมมือ: เอสซีจีร่วมกับผู้แทนจาก กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ GCCA และ UNIDO นำเสนอความคืบหน้าและความสำเร็จของโครงการ Saraburi Sandbox ในหัวข้อ “Saraburi Sandbox: Leading Thailand’s Pathway to a Low Carbon City” ในการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติ COP29 ที่กรุงบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน ระหว่างวันที่ 11-13 พฤศจิกายน 2567 สะท้อนถึงบทบาทสำคัญของ โครงการ Saraburi Sandbox ในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น เมืองคาร์บอนต่ำ และเป็นต้นแบบในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ผลการดำเนินการด้าน ESG

Net Zero

          ผลการดำเนินงานในปี 2567 เอสซีจีมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Scope 1+2) อยู่ที่ 26.25 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ ลดลง 23.4% หากเทียบกับ 34.24 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ ในปี 2563 (ปีฐาน) ซึ่งยังสอดคล้องกับเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของเอสซีจีในปี 2573 ตามคำแนะนำของ The Science Based Target Initiatives (SBTi) ที่แนะนำให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ 2.5% ต่อปี

          แต่หากรวมปริมาณก๊าซเรือนกระจกภายใต้กำลังการผลิตในระดับปกติ เอสซีจีจะมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอยู่ที่ประมาณ 29 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์

          เอสซีจีเดินหน้าปรับแผนธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างการเติบโตและคว้าโอกาสใหม่ ๆ จากการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน มุ่งเน้นการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทางเลือก (Alternative Fuel) เช่น พลังงานชีวมวล วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร และเชื้อเพลิงจากขยะ (Refuse Derived Fuel หรือ RDF) รวมถึงการใช้พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) อย่างยั่งยืน

          ในปี 2567 เอสซีจีใช้เชื้อเพลิงทางเลือกคิดเป็น 29% ของพลังงานความร้อนทั้งหมดในทุกธุรกิจ และ 45% สำหรับธุรกิจซีเมนต์ในประเทศไทย

Go Green

          เอสซีจีเดินหน้าพัฒนาสินค้าคาร์บอนต่ำภายใต้ฉลาก Green Choice เน้นความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้เลือกใช้สินค้าที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม สร้างความมั่นใจว่าสินค้าเหล่านี้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และดีต่อคุณภาพชีวิต

          เอสซีจีตั้งเป้ารายได้จากสินค้า Green Choice เป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของรายได้จากการขายทั้งหมดภายในปี 2573

          ในปี 2567 เอสซีจีสามารถสร้างรายได้จากสินค้า Green Choice จำนวน 275.6 ล้านบาท หรือคิดเป็น 54% ของรายได้รวม และสามารถ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 950,000 ตัน CO2

ลดเหลื่อมล้ำ

          เอสซีจีมุ่งพัฒนาอาชีพ ส่งเสริมโอกาสทางการศึกษา และยกระดับสุขภาวะ ตั้งแต่ปี 2565 โดยมีเป้าหมาย 50,000 คนในปี 2573 และมีเป้าหมายอยู่ที่ 5,600 คนในปี 2567

          สำหรับปี 2567 เอสซีจีมีส่วนในการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมรวม 24,543 คน โดย

  • สนับสนุนการพัฒนาสร้างอาชีพ 5,025 คน ผ่านความร่วมมือกับเครือข่ายและหน่วยงานต่าง ๆ ในการพัฒนาทักษะและความสามารถในการประกอบอาชีพ เช่น โครงการพลังชุมชน ที่อบรมวิสาหกิจชุมชน ส่งเสริมการแปรรูปผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เพิ่มมูลค่าสินค้าท้องถิ่น ขยายโอกาสทางเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนในระยะยาว
  • สนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการและ SMEs โดยผ่านแพลตฟอร์มการเงิน Siam Validus Capital ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
  • ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน 15,093 คน ผ่านโครงการ แพทย์ดิจิทัลทางไกล โดยใช้ นวัตกรรม DoCare เชื่อมโยงผู้ป่วยและแพทย์ เพิ่มการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ในพื้นที่ห่างไกล
  • มอบโอกาสทางการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนรวม 4,425 คน

ย้ำความร่วมมือ

โครงการสระบุรีแซนด์บ็อกซ์ (Saraburi Sandbox)

  • เอสซีจีร่วมกับ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ GCCA และ UNIDO นำเสนอความคืบหน้าและความสำเร็จของโครงการ Saraburi Sandbox ในหัวข้อ “Saraburi Sandbox: Leading Thailand’s Pathway to a Low Carbon City” ในการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติ COP29 ที่กรุงบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน ระหว่างวันที่ 11-13 พฤศจิกายน 2567 สะท้อนถึงบทบาทสำคัญของโครงการ Saraburi Sandbox ในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น เมืองคาร์บอนต่ำ

ภาคพลังงาน

  • ปลัดกระทรวงพลังงาน เข้าเยี่ยมชมโครงการฯ และเร่งผลักดัน Solar Floating คลองเพรียว โดยเสนอแนวทางให้ทั้ง กฟผ. และภาคเอกชนดำเนินการ เพื่อเรียนรู้ข้อจำกัดและโอกาสของโครงการ
  • การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สำรวจพื้นที่ คลองเพรียวและบึงบ้านหมอ เพื่อประเมินศักยภาพในการติดตั้ง Solar Floating โดยพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น ระดับน้ำ ข้อมูลสายส่งโดยรอบ และความต้องการใช้ไฟฟ้าในอนาคต

ภาคกระบวนการอุตสาหกรรมและการใช้ผลิตภัณฑ์

  • เสนอให้ยกระดับมาตรฐานปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก (มอก. 2594-2567) เป็น มอก. บังคับ แทนปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ (มอก. 15) ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี

การบริหารจัดการขยะ

  • ร่วมมือกับ กระทรวงศึกษาธิการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดสระบุรี จัดทำโครงการโรงเรียนไร้ขยะ เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกด้าน การจัดการของเสียและการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยนำร่อง 54 โรงเรียนในจังหวัดสระบุรี

ภาคเกษตร

  • ขยายผลการทำนาเปียกสลับแห้ง จากแปลงนำร่องที่อำเภอหนองโดนและเสาไห้ จาก 50 ไร่ในปี 2566 เป็น 1,180 ไร่ในปี 2567 ครอบคลุม 7 อำเภอ ได้แก่ เสาไห้ หนองโดน หนองแซง เมืองสระบุรี บ้านหมอ ดอนพุด และหนองแค

การใช้ประโยชน์ของที่ดินและป่าไม้

  • สร้างความเข้มแข็งเครือข่ายป่าชุมชน 45 แห่ง สำหรับการเขียนแผนจัดการป่าชุมชนและการตั้งคณะกรรมการป่าชุมชน
  • ค้นหา Food Bank เพื่อพัฒนาอัตลักษณ์ของป่าชุมชนและใช้ประโยชน์จากป่าชุมชนอย่างยั่งยืน
  • ฝึกอบรม “อาสาป่าชุมชน” สู้ไฟป่า จังหวัดสระบุรี จำนวน 4 รุ่น

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

SMPC ถังแก๊สกำไรพุ่ง61% จัดเต็มจ่ายปันผล 0.27 บาท 

SMPC ถังแก๊สกำไรพุ่ง61% จัดเต็มจ่ายปันผล 0.27 บาท 

SCGP กำไรปี67 ทรุด 30% กัดฟันปันผลอีก 30 สตางค์ 

SCGP กำไรปี67 ทรุด 30% กัดฟันปันผลอีก 30 สตางค์ 

หุ้นกู้ SENA ผู้เล่นอสังหาฯที่ปรับตัวตาม เมกะเทรนด์ [HoonVision x FynnCorp]

หุ้นกู้ SENA ผู้เล่นอสังหาฯที่ปรับตัวตาม เมกะเทรนด์ [HoonVision x FynnCorp]

SUN คาดปี68 โต 16% ชี้ราคาหุ้นไม่แพง เคาะ “ซื้อ”

SUN คาดปี68 โต 16% ชี้ราคาหุ้นไม่แพง เคาะ “ซื้อ”

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด