หุ้นวิชั่น-ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน ตลาดหุ้นไทย เช้านี้ยังคงปรับตัวลงไปกว่า 10 จุด โดยทำระดับต่ำสุดที่ 1,160.99 จุด และระดับสูงสุดที่ 1,172.69 จุด มูลค่าซื้อขายราว 14,909.73 ล้านบาท จากความกังวลต่อมาตรการของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ จะกดดันให้เศรษฐกิจถดถอย บวกกับมีแรงขายในหุ้นขนาดใหญ่ อย่าง PTT, CPALL, ADVANC, GULF, DELTA เป็นต้น
ทั้งนี้หากนับตั้งแต่ต้นปีจรถึงปัจจุบัน (YTD) ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงไปมาแล้ว 237 จุด หรือ -16.9% ต่ำสุดในรอบ 5 ปี ซึ่งส่วนมากจะเป็นหุ้นในกลุ่มไฟฟ้า โรงกลั่น ปิโตรเคมี อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ ที่ฉุดตลาด ขณะที่หุ้นขนาดใหญ่ อย่าง PTT, SCC พบว่ามาปรับตัวลงในช่วงเดือนที่ผ่านมา
SET ยากที่จะปรับตัวขึ้น!
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พาย กล่าวว่า แม้จะมีข่าวดีจากทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการเตรียมเสนอให้นักลงทุนรายย่อยเข้าลงทุนหุ้นรายตัวเพื่อลดหย่อนภาษีได้ แต่สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่หดหาย ประกอบกับทิศทางการเติบโตข้างหน้าของกำไรบริษัทจดทะเบียนและเศรษฐกิจยังไม่ชัดเจน ขณะที่วานนี้รัฐบาล มีโครงการแจกเงินหมื่นเฟส 3 ในกลุ่มอายุ 16 – 20 ปี (คาดว่าจะแจกในช่วงปลาย 2Q68) โดยประชากรข้างต้นมีจำนวนรวมกัน 2.7 ล้านคน แต่อย่างไรก็ตามหลายๆ บทวิเคราะห์ต่างก็ยืนยันว่าการแจกเงินมีผลต่อเศรษฐกิจไม่มากนัก (การแจกในรอบที่ผ่านมา) ทำให้รอบนี้ก็เชื่อว่าผลบวกต่อเศรษฐกิจจะจำกัดและเมื่อประกอบกับเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน ทำให้ตลาดหุ้นไทยยังยากที่จะปรับขึ้นแม้ระดับ Valuation จะถูกก็ตาม
วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1,150 – 1,180 จุด
เชิงกลยุทธ์การลงทุนท่ามกลางปัจจัยกดดัน นักลงทุนควรระมัดระวังต่อการลงทุน แม้หุ้นไทยไม่แพงแต่การที่ยังปรับลงต่อเนื่อง สะท้อนถึงความเปราะบาง ความไม่มั่นใจของนักลงทุน ทั้งนี้นักลงทุนระยะกลาง – ยาว อาจใช้จังหวะนี้เป็นโอกาสสะสมหุ้นที่พื้นฐานดี ปันผลสูง เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม เพื่อการลงทุนระยะยาว อาทิ ส่งออก (ITC TU) โรงแรม (CENTEL MINT) โรงพยาบาล (BDMS) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB)