หุ้นวิชั่น – บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) หรือ SMPC แจ้งมายังตลาดหลักทรัพย์ว่า ผลประกอบการปี 2567 มีกำไรทั้งสิ้น 597.55 ล้านบาท หรือ 1.12 บาทต่อหุ้น จากปีก่อนมีกำไรทั้งสิ้น 371.23 ล้านบาท หรือ 0.69 บาทต่อหุ้น เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 61% พร้อมจ่ายปันผล 0.27 บาทต่อหุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 4 เม.ย. 2568
สาเหตุกำไรโต
1. รายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 766.06 ล้านบาท (20.1%) จาก 3,810.87 ล้านบาท เป็น 4,576.93 ล้านบาท จากความต้องการต่อเนื่องเพื่อใช้ถังเป็นบรรจุภัณฑ์ในการขายแก๊สและทดแทนถังเดิมบางส่วน ต้นทุนวัตถุดิบ (เหล็ก) ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 15% แต่ราคาขายใกล้เคียงกับปีก่อน เนื่องจากยอดขายถังสามส่วนที่ราคาขายสูงกว่าถังสองส่วนเพิ่มขึ้น และค่าเงินบาทอ่อนลงเล็กน้อย
2. ต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 406.35 ล้านบาท (12.9%) จาก 3,139.59 ล้านบาท เป็น 3,545.94 ล้านบาท สอดคล้องกับยอดขายที่เพิ่มขึ้น ส่วนต้นทุนวัตถุดิบ (เหล็ก) ลดลงจากปีก่อน 15% และปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น 20% ทำให้ต้นทุนผลิตต่อหน่วยลดลง
3. กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 359.71 ล้านบาท (53.6%) จาก 671.28 ล้านบาท เป็น 1,030.99 ล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 17.6% เป็น 22.5% เป็นผลจากปีก่อนสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังคงถดถอยส่งผลให้เกิดการแข่งขันด้านราคาอย่างรุนแรง ในขณะที่ปีนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้น บริษัทได้รับคำสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก การแข่งขันด้านราคาจึงลดลง ต้นทุนต่อหน่วยลดลง ทำให้อัตราการทำกำไรดีขึ้น
4. รายได้อื่นเพิ่มขึ้น 43.62 ล้านบาท (20.7%) จาก 211.00 ล้านบาท เป็น 254.62 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ค่าขายเศษเหล็กเพิ่มขึ้นตามปริมาณผลิตที่เพิ่มขึ้น และจากกำไรจากเงินลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินหมุนเวียนอื่น สุทธิกับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลง
5. ค่าใช้จ่ายในการขายและการจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น 146.75 ล้านบาท (75.7%) จาก 193.86 ล้านบาท เป็น 340.61 ล้านบาท สอดคล้องกับยอดขายที่เพิ่มขึ้นและอัตราค่าระวางเรือปรับขึ้นจากสถานการณ์ความขัดแย้งในหลายภูมิภาค
6. ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 77.55 ล้านบาท (37.1%) จาก 209.09 ล้านบาท เป็น 286.64 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากค่าบริจาคการกุศลตามโครงการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ด้านการสนับสนุนองค์กรท้องถิ่นด้านสาธารณสุข ซึ่งบริษัทมีสิทธิหักภาษีได้สัดส่วนร้อยละ 200 ของเงินลงทุนดังกล่าว นอกจากนี้ยังเกิดจากค่าส่งเสริมการขายที่เพิ่มขึ้นตามยอดขาย และจากโบนัสจ่ายพนักงานเพิ่มขึ้นตามผลประกอบการที่ดีขึ้น
7. ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 11.56 ล้านบาท (59.8%) จาก 19.33 ล้านบาท เป็น 30.89 ล้านบาท สอดคล้องกับภาระหนี้จากการซื้อวัตถุดิบเพิ่มขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นตามอัตราตลาด
8. ภาษีเงินได้ลดลง 58.84 ล้านบาท (66.3%) จาก 88.76 ล้านบาท เหลือ 29.92 ล้านบาท ในขณะที่ผลประกอบการดีขึ้น เนื่องจากการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากโครงการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ด้านการสนับสนุนองค์กรท้องถิ่นด้านสาธารณสุข โดยมีอัตราภาษีคงเดิมที่ 20%
9. กำไรสำหรับงวดเพิ่มขึ้น 226.31 ล้านบาท (61.0%) จาก 371.24 ล้านบาท เป็น 597.55 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น อัตราการทำกำไรเพิ่มขึ้น และภาษีลดลง