หุ้นวิชั่น – PTTEP รายงานกำไรสุทธิ 1Q25 ที่ 1.66 หมื่นล้านบาท (-11% YoY, -10% QoQ) สอดคล้องกับประมาณการของนักวิเคราะห์บล.ดาโอ และ คงประมาณกำไรปี 2025E ที่ 6.32 หมื่นล้านบาท เทียบกับ 7.88 หมื่นล้านบาทในปี 2024 ตามสมมติฐาน ASP ที่ปรับสู่ระดับปกติมากขึ้น แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 130 บาท
PTTEP มีรายละเอียดที่สำคัญ ไตรมาส1 ดังนี้
1) ปริมาณยอดขายรวมอยู่ที่ 484 พันบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน (kboed) (+2% YoY, -3% QoQ) โดยลดลง QoQ ตามแผนการปิดซ่อมบำรุงโครงการ G2/61 (บงกช) ที่ต่อเนื่องมาจาก 4Q24 และรอบโหลดน้ำมันที่ลดลงของของโครงการในแอฟริกาและตะวันออกกลาง
2) ราคาขายเฉลี่ย (blended ASP) อยู่ที่ USD45.7/boe (-3% YoY, ทรงตัว QoQ) โดยลดลง YoY ตามแนวโน้มราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัว
3) ต้นทุนต่อหน่วย (unit cost) อยู่ที่ USD30.8/boe (+6% YoY, +5% QoQ) โดยสูงขึ้น YoY หลักๆจากค่าเสื่อมราคา ค่าสูญสิ้นและค่าตัดจำหน่าย (DD&A) ที่สูงขึ้น
4) ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม (equity income) เข้ามาที่ 468 ล้านบาท (+29% YoY, -35% QoQ) โดยลดลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาลของบริษัท Seagreen (ธุรกิจ offshore wind farm)
บล.ดาโอ มีมุมมองเป็นกลางต่อผลการดำเนินงาน 1Q25 ที่สอดคล้องกับที่ตลาดคาด โดยกำไร 1Q25 คิดเป็น 26.2% ของประมาณการกำไรทั้งปี ทั้งนี้ เชื่อว่าบริษัทจะเห็นปริมาณขายฟื้นตัวขึ้น QoQ ใน 2Q25E จากการกลับมาดำเนินงานของโครงการ G2/61 (บงกช) แม้ว่าจะมีการปิดซ่อมบำรุงโครงการ G1/61 (เอราวัณ) บางส่วนก็ตาม
อย่างไรก็ดี คาดว่า blended ASP จะอ่อนแอจากตามการปรับ gas ASP กลางปีของแหล่งก๊าซฯในเมียนมาและราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวจากแผนการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันที่เร็วกว่าคาดของ OPEC+ และผลกระทบจากการขึ้น reciprocal tariffs ของ US ต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ในเบื้องต้น
คงประมาณกำไรปี 2025E ที่ 6.32 หมื่นล้านบาท เทียบกับ 7.88 หมื่นล้านบาทในปี 2024 ตามสมมติฐาน ASP ที่ปรับสู่ระดับปกติมากขึ้น และคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายปี 2025E ที่ 130.00 บาท อิงวิธี DCF (WACC 6.7%, TG 0%) จาก valuation ที่น่าสนใจและอัตราตอบแทนเงินปันผลที่แข็งแกร่ง
เดินหน้ากักเก็บคาร์บอน
นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP กล่าวว่าในไตรมาสที่ 1 ได้ลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติส่วนเพิ่มของแหล่งอาทิตย์ กับ ปตท. ซึ่งเป็นผู้ซื้อ เพื่อเพิ่มปริมาณการขายก๊าซธรรมชาติต่อวันตามสัญญา (Daily Contract Quantity หรือ DCQ) ขึ้นเป็น 330 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน จากเดิมที่ปริมาณ 280 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งจะมีผลตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2568 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ในเดือนเมษายน 2568 ปตท.สผ. ยังได้เข้าซื้อสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มเติมในบริษัท APICO LLC ซึ่งเป็นผู้ร่วมทุนในโครงการสินภูฮ่อม แหล่งปิโตรเลียมบนบกที่สำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ส่งผลให้ ปตท.สผ. ถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมในโครงการสินภูฮ่อมเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 90 จากเดิมร้อยละ 80.487 และได้รับปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนการลงทุนที่เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งในปี 2567 โครงการสินภูฮ่อมมีปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติเฉลี่ย 105 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และคอนเดนเสท 222 บาร์เรลต่อวัน
สำหรับการพัฒนาโครงการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture and Storage หรือ CCS) ที่โครงการอาทิตย์ ได้รับการบรรจุอยู่ในแผนปฏิบัติการด้านการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศปี 2564-2573 (Nationally Determined Contribution Action Plan Mitigation 2021-2030) แล้วในปี 2567 ที่ผ่านมา โดยขณะนี้ บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการทำข้อตกลงต่าง ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่การตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) โดยคาดว่า จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 700,000 – 1,000,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
