เช็ก!หุ้นดีราคาไม่แพง

          หุ้นวิชั่น -หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศเลื่อนการเก็บภาษีเท่าเทียม (Reciprocal Tax) กับประเทศที่ไม่ตอบโต้ภาษีออกไปอีก 90 วัน โดยเก็บภาษีเพียง 10% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าคาด ส่งผลดีต่อกลุ่ม Reopening Trade เช่น เทคโนโลยี, ส่งออก, ขนส่ง และพลังงาน  ส่งสัญญาณความคลี่คลายของความกังวลในตลาด

          ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ได้ปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนเป็น 124% จากเดิม 104% หลังจีนตอบโต้ในระดับ 84% อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อเศรษฐกิจอาจจำกัด เพราะภาษีระดับ 54% เดิมได้ส่งผลให้การค้าระหว่างสองประเทศลดลงไปแล้วถึง 85% ของมูลค่าทั้งหมด

          ตลาดหุ้นไทยเริ่มตั้งฐาน ซึ่งถือเป็นโซน Deep Value ที่มีความน่าสนใจในการลงทุน ทั้งนี้ระยะสั้นแนะนำเน้นกลุ่ม Reopening Trade ได้แก่ หุ้นเทคโนโลยี (DELTA, HANA, GULF, GPSC) กลุ่มส่งออก (AAI, ITC, SAPPE, SCGP) กลุ่มขนส่ง (AOT, BA) กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP) และกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม (AMATA, WHA)

          ขณะที่พอร์ตระยะกลางยังเน้น 10 หุ้นพื้นฐานดี ราคาน่าสะสมอย่าง CPALL, BDMS, MINT, BH, GPSC, SCGP, HMPRO, KBANK, BBL และ AOT  (ที่มา KSS)

          บล. ดาโอ มองประเด็น “ทรัมป์” ประกาศระงับการบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (reciprocal tariff)  ชี้ว่า เป็นบวกระยะสั้น ได้คัดเลือกหุ้นที่คาดว่าจะมีโอกาส outperform SET ระยะสั้น โดยเลือกจากหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และราคาหุ้นปรับลงแรง นับจากวันที่ 2 เมษายน 2025 (วันที่ทรัมป์ประกาศภาษี reciprocal tariffs) หุ้นที่เลือกประกอบด้วย  AMATA, WHA, AAI, EPG, SPRC, SJWD, AAV, PTTEP, MASTER, MEDEZE, GULF, COCOCO, KTB,

          วกมาที่ บล.พาย ระบุว่า หุ้น SET100 ที่ราคาปรับลงมาแรงนับตั้งแต่ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีทั่วโลกได้แก่ AMATA WHA- SJWD- MINT- CENTEL  มองกลุ่มนิคมน่าสนใจสุดจากก่อนหน้าด้วยความกังวลย้ายฐานผลิต แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่เรากังวลคือในช่วง 3 เดือนจากนี้ผู้ประกอบการทั่วโลกก็จะไม่เร่งร้อนลงทุนเพื่อรอดูผลภาษีทำให้ความเสี่ยงขาลงเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียน และหากไปดูสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำพบว่ายังคงทรงตัวในด้านบนมิได้ปรับลงมาอย่างมีนัยยะสำคัญสะท้อนว่านักลงทุนยังคงมีความกังวลอยู่เช่นเดิม

          ดังนั้น การลงทุนอาจจะเป็นลักษณะสะสมบางส่วนจาก Valuation ที่ไม่แพงประกอบกับเก็งกำไรระยะสั้นๆในหุ้นที่ได้รับผลกระทบก่อนหน้า อาทิ ส่งออก (TU- ITC) นิคมอุตสาหกรรม (AMATA -WHA)

          ทั้งนี้ เชิงกลยุทธ์การลงทุนแนะสะสมได้บางส่วนเพราะสิ่งที่กังวลคือตลาดหุ้นไทยอาจจะเปิดกระโดดและทำให้เสียจังหวะแต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่แพงมาก (Valuation) ในส่วนของหุ้นที่แนะสะสมได้แก่ศูนย์การค้า (CPN) ค้าปลีก (BJC- CRC -CPALL) ธนาคารพาณิชย์ (BBL- KBANK -KTB- SCB) นิคมอุตสาหกรรม (AMATA -WHA) ส่งออก (ITC -TU) โรงแรม (CENTEL- MINT)

          AMATA ( ราคาเป้าหมาย 33.50 บาท) ระยะสั้นได้แรงหนุนจาก Trump นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจากแนวโน้มผลประกอบการปี 25 ยังคงเห็นการเติบโตได้ดี แม้ว่าบริษัทจะตั้งเป้ายอดขายไว้เพียง 2,000 ไร่ ต่ำกว่าปี 24 ที่ทำได้ถึง 3,018 ไร่ เนื่องจากยังมี Backlog ที่รอรับรู้รายได้อีกกว่า 21,000 ล้านบาท ผู้บริหารตั้งเป้าโอนในส่วนของประเทศไทยที่มีกว่า 19,000 บล้านบาท ไม่ต่ำกว่า 50% ภายในปี 25 นี้ โดยยอดขายในช่วง 2M25 ทำได้แล้ว 230 ไร่

          WHA (ราคาเป้าหมาย 5.30 บาท) เป็นหุ้นที่รับผลกระทบหนักก่อนหน้าจาก Trump ส่วนภาพรวมในช่วง 1Q25 ในส่วนของธุรกิจที่ดินล่าสุดทาง WHA มีการให้ข้อมูลเพิ่มว่ายอดขายที่ดินจะไม่ต่ำกว่า 4Q24 ที่ทำได้ 773 ไร่ (ส่วน 1Q24 ทำได้ 630 ไร่) เนื่องจากนิคมใหม่ที่ ESSIE 5 มีการเซ็นสัญญา LOI แล้วประมาณ 400 ไร่ และมีการเจรจาอีกกว่า 600 ไร่ นอกจากนี้ยังมีลูกค้าที่คาดว่าจะเซ็นสัญญาเพิ่มเติมจากปี 24 อีกกว่า 400 ไร่ ส่วนธุรกิจให้เช่ารถ EV มีการเจรจากับลูกค้าอยู่กว่า 1,000 คัน จากเป้าที่ตั้งไว้ทั้งปีที่ 1,700 คัน

การลงทุน มีความเสี่ยง ผู้ลงทุน ควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจ ลงทุน

ข่าวหัวม่วง และทีมงานหุ้นวิชั่น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตลท. รับจดทะเบียน 5 DR ใหม่ อ้างอิงหุ้นเทคของจีน

ตลท. รับจดทะเบียน 5 DR ใหม่ อ้างอิงหุ้นเทคของจีน

TRUE เสิร์ฟหุ้นกู้ ดอกเบี้ย 3-3.85%  คาดเปิดจอง 2 และ 6 - 7 พ.ค.นี้

TRUE เสิร์ฟหุ้นกู้ ดอกเบี้ย 3-3.85% คาดเปิดจอง 2 และ 6 - 7 พ.ค.นี้

บล.หยวนต้า แนะเก็งกำไร INDIAESG19 รับเจรจาการค้าสหรัฐ บรรลุข้อตกลงร่วมกัน

บล.หยวนต้า แนะเก็งกำไร INDIAESG19 รับเจรจาการค้าสหรัฐ บรรลุข้อตกลงร่วมกัน

บล.กรุงไทยฯ แนะเก็งกำไร NFLX80X รับงบ Q1/68 ดีกว่าคาด

บล.กรุงไทยฯ แนะเก็งกำไร NFLX80X รับงบ Q1/68 ดีกว่าคาด

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด