หุ้นวิชั่น – บล.เอเอสแอล ตลาดยังติดตามสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าระหว่างจีน–สหรัฐฯ โดยก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ได้ส่งสัญญาณถึงความพร้อมที่จะคลี่คลายข้อพิพาทการค้าระหว่างสองประเทศ ด้วยการกล่าวว่าเขาอาจจะปรับลดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนลงจากระดับ 145% อย่างไรก็ดี สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า ปธน.ทรัมป์ไม่มีแผนที่จะเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อนในการลดภาษีศุลกากร พร้อมกับกล่าวว่า สหรัฐฯ และจีนยังไม่ได้เริ่มต้นการเจรจาการค้าอย่างเป็นทางการร่วมกัน
แต่ทั้งนี้ ทางการจีนได้ออกมายืนยันว่า ยังไม่มีการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ อีกทั้งปฏิเสธข่าวลือเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสองประเทศ และเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการภาษีทั้งหมดที่เรียกเก็บจากสินค้าจีน
ขณะที่เข้าสู่ช่วง Earnings season โดยกลุ่ม Mag7 ปรับตัวขึ้นเด่น หลังจากบริษัท ServiceNow ซึ่งเป็นผู้ผลิตซอฟต์แวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เปิดเผยกำไรที่สูงเกินคาด
ด้านรายงานจาก LSEG ระบุว่ามีบริษัท 157 แห่งในดัชนี S&P500 ที่รายงานผลประกอบการแล้ว ซึ่งในจำนวนนี้มี 74% ที่รายงานผลประกอบการสูงกว่าการคาดการณ์
ข้อมูลเศรษฐกิจ :
-
ผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 6,000 ราย สู่ระดับ 222,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ตามคาด
-
ยอดขายบ้านมือสอง ลดลง 5.9% MoM สู่ระดับ 4.02 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค. ต่ำกว่าที่ตลาดคาด
-
ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน พุ่งขึ้น 9.2% ในเดือนมี.ค. สูงกว่าที่คาด
วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2568
ปัจจัยในประเทศ :
(0) ส่งออกไทย มี.ค. +17.8% YoY
ภาวะการค้าของไทย มี.ค. และ 1Q25
-
ส่งออก +17.8% YoY จากที่ตลาดคาด 10–13% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 และขยายตัวสูงสุดในรอบ 36 เดือน
ส่งผลให้ในงวด 1Q25 อยู่ที่ +15.2% YoY -
นำเข้า +10.2% YoY คิดเป็น 1Q25 ที่ +7.4% YoY
-
ดุลการค้าใน 1Q25 เกินดุล 1,081 ล้านดอลลาร์
แนวโน้มการส่งออกเดือนเม.ย. ยังมีแนวโน้มที่ดีแม้มีผลกระทบจากนโยบายภาษีสหรัฐฯ เพียงแต่อาจไม่ขยายตัวได้สูงถึงระดับ 2-digit และคาดว่าภาพรวมทั้งปีอาจสูงกว่เป้าหมายที่ 2–3%
แนวโน้มการเจรจากับสหรัฐฯ ในเดือนพ.ค. คาดว่าจะได้สัญญาณที่ดี
เชิงกลยุทธ์เรามองเป็นกลาง เนื่องจากในระยะถัดไปอาจเห็นการชะลอตัวลงของตัวเลขส่งออก จากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่ยังไม่แน่นอน รวมถึงแนวโน้มสินค้าราคาถูกจากจีนที่ไหลเข้ามา กระทบต่อผู้ประกอบการในไทย
แนะนำเก็งกำไรหุ้นที่โมเมนตัมการส่งออกยังดี เช่น:
1. สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร
-
ยางพารา (+19.5% YoY)
-
ผลไม้กระป๋อง และแปรรูป (+16.0% YoY)
-
อาหารสัตว์ (+12.5% YoY)
-
ไก่สด–แช่แข็ง–แปรรูป (+5.1% YoY)
เราชอบ AAI, ITC, TU, CPF, TFG, CH, MALEE
2. สินค้าอุตสาหกรรม
-
เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+80.2% YoY)
-
ผลิตภัณฑ์ยาง (+17.7% YoY)
-
แผงวงจรไฟฟ้า (+41.5% YoY)
-
หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ (+22% YoY)
เราชอบ CCET, KCE, DELTA
สัปดาห์หน้าติดตาม:
-
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่น GDP 1Q25, PCE, ตัวเลขภาคแรงงาน
-
ตัวเลขเศรษฐกิจยุโรป เช่น GDP 1Q25, เงินเฟ้อ
-
PMI ภาคการผลิตของจีน
-
การประชุม BoJ คาดคงดอกเบี้ย
-
การประชุม กนง. คาดลดดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 1.75%
ประเมิน SET Index แกว่งตัว Sideway Up ในกรอบ 1,140–1,160 จุด
Stock pick: KBANK เป้าปีนี้ยังท้าทาย แต่ “ชอบที่สุดในกลุ่มแบงก์” เป้าเชิงกลยุทธ์ที่ 160 บาท