หุ้นวิชั่น – แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเดือนกุมภาพันธ์: แรงกดดันจากสงครามการค้า แต่ยังมีแรงหนุนจากหุ้น Domestic Play
• คาดว่า SET Index มีโอกาสปรับตัวลงในช่วงแรก หลังจากที่ ปธน.ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ลงนามใน Executive Order เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจาก แคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% และ จีนในอัตรา 10% ตามที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้
• ปัจจัยดังกล่าวทำให้ไม่กี่ชั่วโมงให้หลัง ได้พัฒนาเป็นสงครามการค้าย่อม ๆ จากการตอบโต้ของประเทศเหล่านี้ โดย แคนาดาและเม็กซิโกเตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ ในอัตรา 25% ขณะที่ จีนเตรียมยื่นคำร้องต่อ WTO
• ปัจจัยนี้ส่งผลทางอ้อมให้ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจาก แคนาดาและเม็กซิโก เป็นแหล่งนำเข้าเชื้อเพลิงสำคัญของสหรัฐฯ
มุมมองต่อตลาดหุ้นไทย
• การปรับตัวลงของ SET Index ในช่วงแรกของเดือน อาจได้รับการประคับประคองจาก กลุ่ม Oil & Gas ที่ได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น
• นอกจากนี้ กลุ่ม Domestic Play มีโอกาสรีบาวด์ หลังจากราคาหุ้นกลุ่มนำตลาด เช่น CPALL ปรับตัวลงแรงในช่วงปลายเดือนก่อน
• ด้วยเหตุนี้ ตลาดหุ้นไทยอาจแข็งแกร่งกว่าตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสงครามการค้า
กลยุทธ์การลงทุน (Strategy)
• ประเมินแนวรับแรกของ SET Index ที่ 1,300 จุด
• แนวรับสำคัญที่ไม่น่าหลุดอยู่ที่ 1,270 – 1,280 จุด
• แนะนำ ถือหุ้นเดิม และทยอยสะสมหุ้นใหม่ที่บริเวณแนวรับ โดยเน้น Domestic Play เป็นหลัก เนื่องจากความผันผวนจากประเด็นสงครามการค้าอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม (Risks)
1. ความเสี่ยงจากสงครามการค้าที่ลากยาว อาจทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการกลับมาของเงินเฟ้อ (Revival of Inflation) ซึ่งอาจส่งผลให้ Bond Yield ทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น และลดโอกาสที่ ธปท. จะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนนี้
2. ผลประกอบการไตรมาส 4 ของบริษัทจดทะเบียน หากออกมาแย่กว่าคาด อาจนำไปสู่ การปรับลดประมาณการตลาด ทำให้ Valuation ของดัชนีแพงขึ้นโดยอัตโนมัติ
3. แรงขายจากนักลงทุนสถาบันในประเทศ หากมีความชัดเจนว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ (ตลท.) จะเปลี่ยนวิธีคำนวณดัชนีหุ้นไทยเป็น Free-float Adjusted Market Cap Weighted ซึ่งอาจส่งผลให้ หุ้นขนาดใหญ่ 10 อันดับแรกถูกลดน้ำหนัก และมีผลลบต่อดัชนีในช่วงแรก
ที่มา : บล.ทรีนิตี้