Zero Knowledge Proof เทคโนโลยีใหม่ในการแก้บัญชีม้า [HoonVision x TokenX]

               หุ้นวิชั่น – “บัญชีม้า” ในอดีตเคยหมายถึงบัญชีธนาคารธรรมดาที่อาชญากรใช้รับโอนเงินที่ได้จากการหลอกลวง แต่วันนี้ บัญชีม้าได้พัฒนาจนเข้าสู่โลกของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือ “บัญชีม้าคริปโทฯ” แล้ว โดยในปี 2567 เพียงปีเดียว คนไทยถูกหลอกให้โอนเงินกว่า 37,582 ล้านบาท ซึ่งเฉลี่ยแล้วมากถึงวันละ 103 ล้านบาท ที่สำคัญ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีเดียวกัน มูลค่าเงินที่เคลื่อนย้ายผ่านบัญชีม้าคริปโทฯ สูงถึง 75% ของความเสียหายทั้งหมด

               การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้การตามรอยเงินและจับกุมผู้กระทำผิดเป็นเรื่องยากขึ้นอย่างมหาศาล เพราะเงินถูกแปลงเป็นคริปโทฯ อย่างรวดเร็ว ผ่านแพลตฟอร์มต่างประเทศโดยไม่ผ่านกระบวนการตรวจสอบตัวตนหรือ KYC (Know Your Customer) อย่างถูกต้อง

               บัญชีม้าคริปโทฯ สามารถทำธุรกรรม Peer-to-Peer (P2P) ได้ภายในเวลาไม่ถึง 20 นาที หลังจากเหยื่อโอนเงินเข้าบัญชีม้าธนาคาร เงินถูกแปลงเป็นเงินคริปโต หรือ Stable Coin เช่น USDC, USDT จากนั้นจึงถูกขายออกเป็นเงินบาทหรือสกุลเงินอื่นทันที ซึ่งกระบวนการนี้สามารถจบลงภายในเวลาเพียงวันเดียว

               ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น นาย A ถูกหลอกให้โอนเงิน 500,000 บาท เข้าบัญชีม้าธนาคาร จากนั้นเงินถูกแปลงผ่านแพลตฟอร์มคริปโทฯ ต่างประเทศในทันที ทำให้แม้จะตรวจสอบธุรกรรมบนบล็อกเชนได้ แต่จะพบเพียงเลขที่กระเป๋า (Wallet Address) เท่านั้น ไม่สามารถระบุเจ้าของกระเป๋าต้นทางหรือปลายทางได้จริง เพราะข้อมูลส่วนตัวถูกซ่อนอยู่หลังการซื้อขายแบบไร้ตัวตน

Zero Knowledge Proof (ZKP): เทคโนโลยีใหม่ ทางเลือกสำหรับทางออก

               ZKP (Zero Knowledge Proof) คือเทคโนโลยีที่ช่วยให้เราสามารถยืนยันกับอีกฝ่ายได้ว่าเรามีข้อมูลหรือความลับบางอย่างจริงๆ โดยไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลหรือความลับนั้นโดยตรง ลองนึกถึงการพิสูจน์ว่าคุณมีรหัสผ่านที่ถูกต้อง แต่คุณไม่ต้องบอกรหัสผ่านให้ใครรู้ เทคโนโลยีนี้จึงเหมาะกับการนำไปใช้ในเรื่องที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง แต่ก็ยังตรวจสอบความถูกต้องได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย

               ลองนึกภาพว่าคุณต้องการยืนยันว่าคุณมีอายุถึงเกณฑ์โดยไม่ต้องโชว์บัตรประชาชนที่มีข้อมูลส่วนตัวของคุณทั้งหมด ZKP จะช่วยยืนยันเพียงแค่ว่า “คุณมีอายุถึงเกณฑ์จริง” โดยไม่ต้องเปิดเผยชื่อ วันเกิด หรือข้อมูลอื่นใด

               เมื่อประยุกต์ใช้กับบัญชีม้าคริปโทฯ เทคโนโลยี ZKP จะช่วยให้หน่วยงานรัฐสามารถตรวจสอบได้ว่าผู้ใช้งานผ่านการยืนยันตัวตนอย่างถูกต้องจริงจากสถาบันที่เชื่อถือได้ แต่ไม่ต้องเปิดเผยตัวตนของผู้ใช้งานแก่บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งสอดคล้องกับ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ที่เน้นย้ำเรื่องการปกป้องความเป็นส่วนตัวของประชาชน

               การผสาน ZKP กับ PDPA จะช่วยเพิ่มระดับความเชื่อถือและความปลอดภัยให้แก่แพลตฟอร์มคริปโทฯ และช่วยลดโอกาสที่มิจฉาชีพจะนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นไปใช้เปิดบัญชีม้าคริปโทฯ เพราะแพลตฟอร์มสามารถตรวจสอบได้ว่า เจ้าของบัญชีผ่าน KYC มาแล้วจริง โดยไม่ต้องเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนให้แพลตฟอร์มต่างประเทศหรือบุคคลทั่วไปเห็น ทำให้บัญชีม้ามีโอกาสถูกสกัดกั้นตั้งแต่แรกเริ่มมากขึ้น

               โดยZKP สามารถเข้ามาช่วยแก้ปัญหาการโอนเงินผ่านบัญชีม้าได้ด้วยการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับบัญชีผู้ใช้งาน โดยที่เจ้าของบัญชีสามารถพิสูจน์กับแพลตฟอร์มหรือหน่วยงานกำกับดูแลได้ว่าตนเองผ่านการยืนยันตัวตนมาอย่างถูกต้องตามกฎหมายจริง โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวโดยตรง เมื่อผู้ใช้งานทุกคนจำเป็นต้องแสดงหลักฐานยืนยันแบบนี้ก่อนใช้งานบัญชีหรือโอนเงิน ระบบจะสามารถกรองบัญชีที่ไม่ได้รับการตรวจสอบตัวตนออกไปได้ทันที จึงช่วยลดช่องทางที่มิจฉาชีพจะนำบัญชีที่ไม่ถูกต้องมาฟอกเงินหรือหลอกลวงผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวและสอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) อีกด้วย

               แต่อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยี ZKP ยังเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่และซับซ้อน ต้องการความร่วมมือจากหลายฝ่าย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และแพลตฟอร์มต่างประเทศ ต้นทุนของการประยุกต์ใช้งานจริงยังคงสูง และยังต้องได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานกำกับดูแลอย่างเข้มข้น จึงอาจไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาทั้งหมดได้ทันที แต่จะช่วยเพิ่มระดับการป้องกันได้อีกขั้น

โดยการใช้งานจริงของเทคโนโลยีนี้ เริ่มมีบริษัทได้ทดลองทำแล้วในต่างประเทศ เช่น

1) Zcash คือเหรียญคริปโทฯ ประเภท Privacy Coin ซึ่งออกแบบมาเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานอย่างสูงสุด ผ่านการใช้เทคโนโลยี ZKP แบบเฉพาะที่เรียกว่า zk-SNARKs (Zero-Knowledge Succinct Non-Interactive Argument of Knowledge)

เทคโนโลยี zk-SNARKs ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมทางการเงินโดยไม่จำเป็นต้องเปิดเผยรายละเอียดสำคัญ เช่น จำนวนเงินที่โอน ที่อยู่กระเป๋าเงินของผู้ส่ง หรือผู้รับธุรกรรม ให้บุคคลภายนอกเห็น แต่ถึงแม้ว่าธุรกรรมจะถูกปิดบังอย่างสมบูรณ์แบบ Zcash ยังคงสามารถยืนยันได้ว่าธุรกรรมเหล่านี้ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้าน AML และกฎระเบียบต่างๆ ของสหรัฐฯ ได้ ซึ่งมีตัวอย่างการใช้งานคือ

    • Zcash ถูกนำไปใช้ในการทำธุรกรรมในกลุ่มธุรกิจและสถาบันการเงินที่ต้องการรักษาความลับของลูกค้า แต่ต้องมีหลักฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย AML และ KYC
    • ในกรณีที่หน่วยงานกำกับดูแลต้องการตรวจสอบธุรกรรมใดธุรกรรมหนึ่ง ผู้ใช้งานสามารถมอบรหัสการตรวจสอบให้หน่วยงานกำกับดูแลได้ เพื่อพิสูจน์ว่าธุรกรรมนี้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยที่ไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลธุรกรรมทั้งหมดให้กับสาธารณะ

Zcash สามารถสร้างสมดุลระหว่างการรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานกับการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎหมายการเงินในสหรัฐฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ ทำให้เกิดการยอมรับในวงกว้างมากขึ้น จากทั้งผู้ใช้งานทั่วไปและสถาบันทางการเงินที่สนใจเทคโนโลยีนี้

โดยข้อมูลล่าสุด ที่ทาง Zcash เคยให้ไว้ วันที่ 22 พฤษภาคม 2024 Zcash มีธุรกรรมเฉลี่ยประมาณ 4,902 รายการต่อวัน โดยในจำนวนอาจจะดูเหมือนเยอะ แต่ถ้าเทียบกับจำนวน transaction ของคริปโตเช่น Ethereum ที่มีมากถึง 1.2 ล้านรายการต่อวัน ซึ่งมีความแตกต่างค่อนข้างมาก

2) Polygon ID และ zkSync : การยืนยันตัวตนด้วย ZKP ในโลก DeFi และ Web3

Polygon ID และ zkSync คือสองแพลตฟอร์มจากยุโรปที่ใช้เทคโนโลยี ZKP เพื่อสร้างระบบยืนยันตัวตนที่เชื่อถือได้โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวให้สาธารณะ โดยเป็นการให้บริการ ZKP คือ

    • Polygon จะสร้าง ID ขึ้นมา โดยใช้ ZKP ในการสร้าง Digital Identity ที่ผู้ใช้งานสามารถพิสูจน์ว่าตนเองผ่านการตรวจสอบ KYC โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ โดยตรงกับแพลตฟอร์มหรือบุคคลที่สาม
    • zkSync ใช้ ZKP เพื่อปรับปรุงระบบการชำระเงินบน Ethereum ให้มีความรวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ในขณะเดียวกันยังสามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้ใช้งานได้ทำการยืนยันตัวตนอย่างถูกต้องโดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวโดยตรง

               ซึ่งในโลกของ Web 3.0 หรือ ฝั่งคริปโต จะไม่สามารถระบุตัวตนของผู้ใช้งานได้ ดังนั้นเลยมี DeFi Protocol หลายแห่งนำ Polygon ID ไปใช้ในการตรวจสอบตัวตนของผู้ใช้งานก่อนทำธุรกรรมที่สำคัญ เช่น การลงทุนขนาดใหญ่ การกู้ยืมเงิน หรือการเปิดบัญชีทางการเงิน เพื่อยืนยันว่าผู้ใช้งานมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด แต่ยังสามารถรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานไว้ได้ โดยที่ zkSync ถูกนำไปใช้ในแพลตฟอร์มการซื้อขายที่มีความเร็วสูง เช่น Exchange หรือ Trading Platform ที่ผู้ใช้งานสามารถยืนยันว่าตัวเองผ่าน KYC มาแล้ว โดยที่แพลตฟอร์มสามารถตรวจสอบและยืนยันสถานะนี้ได้ โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องส่งเอกสารหรือข้อมูลส่วนตัวซ้ำๆ ให้แต่ละแพลตฟอร์ม ซึ่งมีผลลัพธ์การใช้งานคือ

               Polygon ID และ zkSync ช่วยลดความเสี่ยงในการฟอกเงินและการเปิดบัญชีม้า โดยผู้ใช้ไม่สามารถหลบเลี่ยงการตรวจสอบ KYC ได้ เนื่องจากระบบจะอนุญาตให้ทำธุรกรรมเฉพาะผู้ที่ผ่านการยืนยันตัวตนจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้เท่านั้น ในเวลาเดียวกันยังช่วยให้แพลตฟอร์มต่างๆ สามารถปฏิบัติตามกฎหมายด้าน PDPA (GDPR ในยุโรป) ได้ดีขึ้นด้วย เพราะไม่จำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าไว้ในปริมาณมาก จึงลดความเสี่ยงจากการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล โดย Polygon ID ได้รับการยอมรับจากโครงการต่าง ๆ เช่น Kaleido, Fractal และ Collab.Land ซึ่งรวมกันมีฐานผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคน

ซึ่งในปัจจุบันมีการใช้งานที่เริ่มแพร่หลายมากขึ้น เช่น

  • รัฐบาลภูฏานได้ประกาศใช้ Polygon Blockchain และเทคโนโลยี Zero-Knowledge เพื่อพัฒนาระบบ Self-Sovereign Identity (SSI) สำหรับประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในระดับประเทศเพื่อเพิ่มความสามารถในการปรับขนาดของระบบและการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างปลอดภัย ​Paypers
  • Kaleido: บริษัท Kaleido ได้เปิดตัวบริการ Polygon ID-as-a-Service (IDaaS) เพื่อให้บริการยืนยันตัวตนแบบกระจายศูนย์แก่ลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ธนาคาร รัฐบาล สาธารณสุข ค้าปลีก การศึกษา และอื่น

โอกาส และ ความท้าทายของการนำเทคโนโลยีมาใช้

               เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่มาก การได้รับการยอมรับจากหน่วยงานรัฐในการใช้งานต่างๆ อาจจะต้องใช้เวลา เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีใหม่ ที่อาจจะขัดจากการทำงานแบบเดิมคือมีการตรวจสอบข้อมูลของผู้ใช้งานอย่างถี่ถ้วน Regulatory Sandbox ร่วมกับเอกชนและแพลตฟอร์มต่างชาติ เพื่อทดลองใช้เทคโนโลยี ZKP

               การนำ ZKP มาประยุกต์ใช้จะเป็นการปกป้องผู้บริโภค ลดปัญหาการฟอกเงิน และช่วยให้ไทยก้าวสู่ยุคสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างปลอดภัยและมั่นคงมากยิ่งขึ้น

Source :

  • io
  • Polygon
  • ZCash Community
  • Dapp Radar

ผู้เขียน สุทธิรัตน์ หาญพานิชย์ Head of Business Development, Token X

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เช็ก! มี 20หุ้นXDสัปดาห์นี้-เล็ง KBANKพร้อมจ่าย

เช็ก! มี 20หุ้นXDสัปดาห์นี้-เล็ง KBANKพร้อมจ่าย

ฟันธง! 3 หุ้นทหารเสือ - ควบ 8 หุ้นงบเด่น

ฟันธง! 3 หุ้นทหารเสือ - ควบ 8 หุ้นงบเด่น

CGSI คว้าโบรกยอดเยี่ยม จาก FinanceAsia 2ปีซ้อน

CGSI คว้าโบรกยอดเยี่ยม จาก FinanceAsia 2ปีซ้อน

TISCO เสิร์ฟบัญชีฝากประจำออนไลน์  ชูดอกเบี้ยสูง 1.9% ต่อปี 

TISCO เสิร์ฟบัญชีฝากประจำออนไลน์ ชูดอกเบี้ยสูง 1.9% ต่อปี 

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด