FPI ปี 67 รายได้โต 2.6 พันลบ. ลุยเพิ่มกำลังผลิตรับออเดอร์อินเดีย ดันปี 68 ออลไทม์ไฮ

          บมจ.ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) ฐานแน่น! ปี 67 โชว์รายได้ 2,628.3 ล้านบาท กำไรสุทธิ 276.2 ล้านบาท บอร์ดเคาะจ่ายเงินปันผลรวมปี67 อยู่ที่ 0.08 บาท/หุ้น โดยได้จ่ายระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรกไปแล้ว 0.04 บาท/หุ้น ยังคงเหลือจ่ายอีก 0.04 บาท/หุ้น กำหนดขึ้น XD วันที่ 2 พฤษภาคม และจ่ายเงินปันผลวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ฟากบิ๊กบอส “สมพล ธนาดำรงศักดิ์”ระบุตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 10% แตะระดับ 3,000 ล้านบาท ทำออลไทม์ไฮ เดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตรับออเดอร์ทะลักโดยเฉพาะจากลูกค้าในอินเดียและไทย ตุน Backlog แน่น 1,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ 2 ปี

          นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) (FPI) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2567 (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2567) บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,628.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 115.3 ล้านบาท หรือ 4.6% จากปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราการส่งออกไปยังตะวันออกกลางที่เพิ่มสูงขึ้น ควบคู่กับการเพิ่มขึ้นของปริมาณการขายของบริษัทย่อยในต่างประเทศ และบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 276.2 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 27.28%

          ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึง 31 ธันวาคม 2567 ในอัตรา  0.08 บาทต่อหุ้น ซึ่งบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวดวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึง 30 มิถุนายน 2567 ในอัตรา 0.04 บาทต่อหุ้นดังนั้น จึงเหลืองวดดำเนินงานวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ถึง 31 ธันวาคม 2567 อีก 0.04 บาทต่อหุ้น กำหนดวันขึ้น XD วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ทั้งนี้จะต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งมีกำหนดจัดประชุมในวันที่ 25 เมษายน 2568

          สำหรับปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ที่ระดับ 3,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 10% สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากปี2567 ซึ่งมีการลงทุนติดตั้งเครื่องจักรใหม่ พร้อมกับปรับปรุงระบบการจัดการภายในทั้งหมด รวมถึงระบบ ERP เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจของบริษัทลูกในประเทศอินเดีย 2 แห่ง มีแนวโน้มเติบโตอย่างโดดเด่น ทั้ง บริษัท เอฟพีไอ ออโต้ พาร์ท อินเดีย และ บริษัท อาร์บีเอส พลาสติก อินโนเวชั่น จำกัด ที่มีคำสั่งซื้อ OEM จากลูกค้าเข้ามาจำนวนมาก ขณะที่ลูกค้าในประเทศไทยก็มีแนวโน้มการเติบโตในทิศทางที่ดีเช่นเดียวกัน ส่งผลให้ล่าสุดบริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ใน 2 ปี

          นอกจากนี้ในปี 2568 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) คาดการณ์ปริมาณการผลิตรถยนต์อยู่ที่ประมาณ 1.50 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 2.1% และสำหรับตลาดอะไหล่ทดแทนจะเติบโตขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน เนื่องจากรถยนต์สะสมทั่วโลกในปี 2024 มียอดสูงถึง 2,140 ล้านคัน ทำให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าไปในตลาดต่างประเทศมากยิ่งขึ้น สำหรับชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นและเกาหลี นอกจากนี้ปัญหาสงครามการค้าจากสหรัฐอเมริกา และจีน จะทำให้ยอดลูกค้าอเมริกาหันมาซื้อสินค้าในประเทศอาเซียนมากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลประโยชน์กับบริษัทในอนาคต

[PR News]

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

[ภาพข่าว] KTMS ตั้งเป้ารายได้โต 20-30% ต่อปี วางเป้า 3 ปี สาขาแตะ 60 สาขา

[ภาพข่าว] KTMS ตั้งเป้ารายได้โต 20-30% ต่อปี วางเป้า 3 ปี สาขาแตะ 60 สาขา

FVC เข้าซื้อ “เวิลด์ อินดัสเทรียล เอสเตท” มูลค่า 370 ลบ.

FVC เข้าซื้อ “เวิลด์ อินดัสเทรียล เอสเตท” มูลค่า 370 ลบ.

“NTFG”  แปรสภาพเป็น ‘มหาชน’ เดินหน้าเข้า mai

“NTFG” แปรสภาพเป็น ‘มหาชน’ เดินหน้าเข้า mai

"TACC" ซื้อรับปันผล เล็งจ่าย 21 พ.ค. นี้

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด