หุ้นวิชั่น – DHOUSE อสังหาฯอีสานแรงไม่หยุด! รับเต็มมติรัฐหั่นค่าโอน-จำนอง เหลือ 0.01% หนุนกำลังซื้อผู้บริโภคไหลกลับ จับกระแสคนแห่กลับบ้าน หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว ด้านบอสใหญ่ “พงศ์พจน์ เลิศรุ้งพร” ใส่เกียร์เปิดโครงการใหม่ 3 โครงการ มูลค่ารวม 259.92 ล้านบาท
นายพงศ์พจน์ เลิศรุ้งพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีเฮ้าส์พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ DHOUSE ผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยกับทีมข่าวหุ้นวิชั่นว่า มติคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบให้ลดค่าจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์จาก 2% เหลือ 0.01% และค่าจดทะเบียนจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% ถือเป็นมาตรการสำคัญที่ช่วยกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ให้กลับมาฟื้นตัว
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวช่วยเพิ่มกำลังซื้อและความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของ DHOUSE โดยคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวของยอดจองและยอดโอนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
นอกจากนี้ พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวในพื้นที่ภาคเหนือ ทำให้คนในพื้นที่หลายรายเริ่มพิจารณาย้ายกลับมาอยู่ภูมิลำเนาเดิมในภาคอีสานมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อความต้องการที่อยู่อาศัยในภูมิภาค
“ภาคอีสานเริ่มกลับมาเนื้อหอมอีกครั้ง จากกระแสการย้ายถิ่นฐานของประชาชนที่ต้องการกลับภูมิลำเนาหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวในหลายพื้นที่ ทำให้เกิดความตื่นตัวในเรื่องที่อยู่อาศัยที่มีโครงสร้างรองรับแรงสั่นสะเทือนได้ ซึ่งแนวโน้มนี้ยังส่งผลให้แรงงานก่อสร้างและผู้รับเหมากลับเข้าสู่ภูมิภาคมากขึ้น สะท้อนถึงการฟื้นตัวของซัพพลายเชนในภาคอสังหาฯ ที่ชัดเจนขึ้น”นายพงศ์พจน์ กล่าว
DHOUSE ยังคงเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง โดยเน้นพัฒนาที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์หลากหลายรูปแบบ อาทิ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ และอาคารพาณิชย์ เพื่อตอบโจทย์ทุกกลุ่มความต้องการในพื้นที่จังหวัดมหาสารคามและใกล้เคียง นอกจากนี้ ราคาที่อยู่อาศัยของ DHOUSE ยังอยู่ในระดับที่เข้าถึงได้ เมื่อเทียบกับโครงการอื่นในพื้นที่ ส่งผลให้ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ซื้ออย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีจุดแข็งด้านต้นทุนการพัฒนาโครงการที่ต่ำกว่าผู้ประกอบการรายอื่นในอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญที่ช่วยผลักดันผลประกอบการให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในระยะยาว
บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวม 259.92 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อจำหน่าย 1 โครงการ ได้แก่ โครงการ UPark Home มูลค่า 179.43 ล้านบาท และโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่า 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ UPark Market มูลค่า 32.49 ล้านบาท และโครงการ UPark Residence มูลค่า 48 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดมีกำหนดเริ่มดำเนินการก่อสร้างในช่วงไตรมาส 4/2568
ทั้งนี้ บริษัทมุ่งเน้นกลยุทธ์การตลาดที่ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย อาทิ กลุ่มระดับกลางที่ยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยและเพื่อลงทุนในจังหวัดมหาสารคาม รวมถึงกลุ่มนักศึกษาที่มีความต้องการที่พักอาศัยใกล้มหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นปี 2567 บริษัทมีรายได้ที่รอการรับรู้จากยอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 18.65 ล้านบาท
รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision