หุ้นวิชั่น – บล.เอเซียพลัส จับประเด็นกระแสข่าวว่าจะมีกองทุน ThaiESG ใหม่เปิดมารองรับกองทุน LTF วงเงินล่าสุด 1.88 แสนล้านบาท คาดแล้วเสร็จช่วง เดือน มี.ค. 68
ฝ่ายวิจัย ASPS ประเมิน กองทุน LTF เดิมจะต้องมีการทยอยปรับพอร์ตเข้าสู่สมดุลในช่วงสั้นๆ โดย การเปลี่ยนดัชนีอ้างอิงจาก SET Index เป็น SETESG แทน ซึ่งมีความแตกต่างกันสำคัญอยู่ 2 ส่วน คือ
1.) หุ้นในดัชนี SETESG จะมีน้ำหนักต่อตัวไม่เกิน 5% ทำให้หุ้นใหญ่มีน้ำหนักเกิน 5% ของตลาดฯ มีโอกาสถูกลดน้ำหนัก อย่าง DELTA มีน้ำหนัก 6.0%, PTT5.9%, GULF+INTUCH 5.8%, ADVANC 5.5% เป็นต้น
2.) หุ้นในดัชนี SETESG จะต้องมี ESG Rating ทำให้หุ้นใหญ่สภาพคล่องสูงที่ไม่มี ESG Rating มีโอกาสถูกลดน้ำหนักลง อาทิ TRUE, BH, CCET, TIDLOR, ITC, BCP, AEONTS, AAV, CHG, DOHOME, SPRC, RCL, SISB,EA, IRPC, PRM, BSRC, QH, M, ERW, JAS, SKY, COCOCO
นอกจากนี้ฝ่ายวิจัย ASPS ยังคำนวณหา หุ้นที่มีโอกาสได้Fund Flow ไหลเข้าเพิ่ม จากการโยกกองทุน LTF วงเงิน คงเหลือล่าสุด 1.88 แสนล้านบาท เป็นกองทุน ThaiESG คือ หุ้นที่มี ESG Rating และมีขนาดไม่เกิน 5% ของดัชนี ThaiESG ได้ผลลัพธ์ 12 หุ้นมีโอกาส FUND FLOW ไหลเข้าเพิ่มมากสุด หากโยก LTF เป็น THAIESG ดังนี้
PTTEP มีโอกาสได้เงินไหลเข้าเพิ่ม 3.3 พันล้านบาท ตามมาด้วย CPALL 3.2 พันล้านบาท, SCB 2.9 พันล้านบาท, KBANK 2.5พันล้านบาท, BDMS 2.5 พันล้านบาท, KTB 2.3 พันล้านบาท, BBL 2.0 พันล้านบาท, CPN 1.6 พันล้านบาท, CRC 1.4 พันล้านบาท, TTB 1.3 พันล้านบาท, CPF 1.3 พันล้านบาท, SCC 1.1 พันล้านบาท เป็นต้น