หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)คาดว่า SET Index จะยังคงแกว่งตัว Sideways ในกรอบแคบ ทรงตัวบริเวณ 1,160+- จุด เนื่องจากยังขาดปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้น ตลาดยังคงจับตาพัฒนาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศต่างๆ รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญหลายตัวที่กำลังจะประกาศในสัปดาห์นี้ เช่น GDP 1Q25, เงินเฟ้อ PCE และการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเมษายนของสหรัฐฯ ตัวเลข PMI เดือนเมษายนของจีน และการประชุม BoJ เป็นต้น ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ตลาดยังคงรอดูการประชุม กนง. ในวันพรุ่งนี้ว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยจาก 2% ลงสู่ระดับ 1.75% ตามที่ตลาดคาดหรือไม่ จากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่โตช้า รวมถึงความเสี่ยงจากสงครามการค้าและการขึ้นภาษี โดยเฉพาะผลกระทบในครึ่งปีหลัง 2025 ซึ่งจะกดดันให้ GDP ไทยปี 2025 โตต่ำกว่า 2%
นอกจากนี้ยังต้องติดตามการทยอยประกาศกำไร 1Q25 ของกลุ่ม Real Sector ว่าจะต่ำกว่าคาดและนำไปสู่การปรับลดประมาณการ EPS ของตลาดลงเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่อยู่ราว 91.50 บาทมากน้อยเพียงใด เรายังคงเน้นลงทุนในกลุ่ม Consumer Staple ที่คาดว่าจะเคลื่อนไหวได้แข็งแรงกว่าตลาด ส่วนระยะสั้นเน้นเลือกลงทุนในหุ้นที่คาดว่ากำไร 1Q25 แข็งแกร่งและมีแนวโน้มดีต่อเนื่องใน 2Q25
กลยุทธ์: ยังเน้น Selective Buy หุ้นที่มีแนวโน้มกำไร 1Q25–2025 แข็งแกร่ง และได้รับผลกระทบจำกัดจากภาษีการค้าสหรัฐฯ และเศรษฐกิจชะลอตัว
หุ้นเด่นเดือนเมษายน: BA, BBL, CPF, HMPRO, OSP
FSSIA Portfolio: BA, BBL, BTG, CPALL, MTC, NSL, PR9, SEAFCO, SHR
- หุ้นเด่นวันนี้: OSP แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 24 บาท
คาดกำไรปกติ 1Q25 ทำ New High ที่ 1 พันล้านบาท +62% q-q, +20% y-y หนุนจาก Gross Margin ที่ดีกว่าคาดและทำ New High ที่ 40% ขณะที่กำไรสุทธิคาดอยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท หนุนจากกำไรพิเศษการขายโรงแก้ว
แนวโน้ม 2Q25 อาจชะลอลง q-q แต่ยังคงแข็งแกร่งที่ราว 700–800 ล้านบาท โดยต้องติดตาม Market Share และรายได้จากฝาเหลือง 10 บาทเป็นหลัก คาดกำไรปกติทั้งปี 2025 อย่าง conservative ที่ 3 พันล้านบาท ทรงตัว y-y
แนวรับ 15.30//15.00 บาท แนวต้าน 16.00–16.20 บาท
Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนต่างชาติผสมผสาน สุทธิแล้วไหลเข้าภูมิภาคเล็กน้อย US$72 ล้าน เม็ดเงินไหลเข้าไต้หวัน US$211 ล้าน แต่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$100 ล้าน ฝั่งอาเซียนเม็ดเงินค่อนข้างไหลออกบางๆ โดยไหลออกจากไทยสูงสุด US$32 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนยังคงผสมผสานและเบาบาง รอติดตามพัฒนาการเจรจาการค้าและตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญช่วงกลาง–ปลายสัปดาห์
- ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) กลุ่มเรือเทกอง: อุตสาหกรรมเดินเรือทรุดตัวจากความปั่นป่วนด้านภาษีการค้า ดัชนี BSI และ BHSI เฉลี่ยปี 2025 YTD -30% y-y และ -24% y-y ตามลำดับ จากดีมานด์ที่อ่อนแอ เพราะความไม่แน่นอนของการค้าโลก IMF ปรับลดการเติบโตของการค้าโลกปี 2025 เหลือ 1.7% กดดันความต้องการใช้เรือ จึงปรับลดประมาณการกำไรของกลุ่มเรือเทกองลง 53%/42%/34% ในปี 2025–2027 ตามลำดับ ยังคง Underweight และปรับลดราคาเป้าหมายของ PSL เป็น 5.40 บาท และ TTA เป็น 4.40 บาท แนะนำ “ขาย”
(-) ITC: กำไรปกติ 1Q25 ที่ 697 ล้านบาท -13% q-q, -21% y-y ใกล้เคียงคาด แต่ได้แรงหนุนจากภาษีที่ต่ำกว่าคาด ขณะที่การดำเนินงานยังดูไม่ค่อยดี โดยเฉพาะอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง โดยรวมยังไม่มั่นใจต่อการฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี คงประมาณการกำไรและราคาเป้าหมาย 23 บาท แนะนำ “ถือ”
(+) NSL: แนวโน้มกำไร 1Q25 อาจทำได้ราว 158 ล้านบาท +8% q-q, +24% y-y ดีกว่าที่เคยคาดจากรายได้ที่ทำ New High และสูงกว่าเป้าของบริษัทที่ตั้งไว้ 16–17% โดยคาดโตดีทุก Segment อัตรากำไรขั้นต้นยังทรงตัวดีจากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น คงประมาณการกำไรปี 2025 โต +11% y-y ราคาเป้าหมาย 43 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(0) SNNP: คาดกำไรสุทธิ 1Q25 ที่ 167 ล้านบาท -1% q-q, +6% y-y แม้รายได้ในประเทศโตดี แต่ต่างประเทศลดลง คาดอัตรากำไรขั้นต้นทำได้ดีตามปกติ คาดแนวโน้มกำไร 2Q25 จะกลับมาโตทั้ง q-q และ y-y
(0) SAPPE: คาดกำไรสุทธิ 1Q25 ที่ 232 ล้านบาท +23% q-q, -34% y-y ฟื้นตัว q-q หลังค่าใช้จ่ายลดลงตามฤดูกาล แม้รายได้คาดว่าจะยังหดตัว แต่ชดเชยได้จากต้นทุนลดลง คาดแนวโน้ม 2Q25 ฟื้น q-q แต่ยังลด y-y ราคาเป้าหมาย 40 บาท แนะนำ “ถือ”
(0) BA: คาดกำไรปกติ 1Q25 ที่ 1.7 พันล้านบาท ลดลง 5% y-y จากภาษีที่สูงขึ้น หากไม่รวมภาษี กำไรก่อนภาษีโต 3–5% y-y จำนวนผู้โดยสารโต 11% y-y ใน 1Q25 และยังเติบโตต่อ 12–14% ในเดือนเมษายน 2025 คาดว่ากำไร 2Q25 จะมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง คงคาดกำไรปกติปี 2025 โต +3% y-y ราคาเป้าหมาย 28 บาท แนะนำ “ซื้อ”
