ตลท.ขอให้ผลท.ศึกษาข้อมูลงบ AKS หลังผู้สอบบัญชีตั้งข้อสังเกตุ

หุ้นวิชั่น-ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้บริษัท เอเคเอส คอร์ปอเรชั่นจํากัด (มหาชน) (AKS) ชี้แจงข้อมูลในงบการเงินประจําปี 2567 โดยผู้สอบบัญชีมีข้อสังเกต ดังนี้ (1) การลงทุนเพิ่มในบริษัท กรีนเอิร์ธพาวเวอร์ (ไทยแลนด์) จํากัด (GEPT) โดยเปลี่ยนราคาจ่ายซื้อหุ้นเพิ่มอีก 20% และเปลี่ยนการจ่ายค่าจัดหาหุ้นเป็นค่าคอมมิชชั่น ซึ่งต้องคืนเงินส่วนต่างให้บริษัทแต่ยังไม่ได้ รับเงินคืน 255 ล้านบาท (2) การทยอยจ่ายซื้อคืนหุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอยี่ โฮลดิ้ง จํากัด (WEH) แต่บริษัทไม่สามารถจ่ายเงิน เมื่อครบกําหนดชําระได้ (3) การประกอบธุรกิจในอนาคต ซึ่งได้บันทึกด้อยค่าความนิยมในจํานวนที่มีนัยสําคัญ กรณีข้างต้น อาจกระทบต่อฐานะการเงิน ผลการดําเนินงาน และการขยายธุรกิจของบริษัท โดยขอทราบความเห็นของคณะกรรมการบริษัทผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 24 เมษายน 2568 นอกจากนี้ขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลงบการเงินและติดตามคําชี้แจงของบริษัท

  • สรุปเหตุการณ์และข้อมูลสําคัญในงบการเงินประจําปี 2567

การลงทุนเพิ่มในบริษัท กรีนเอิร์ธพาวเวอร์ (ไทยแลนด์) จํากัด (GEPT) (ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เมียนมาร์) เมื่อเดือนกันยายน 2567 คณะกรรมการบริษัทมีมติให้ซื้อหุ้น GEPTจากบริษัท เมตะ คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) (META) 12% (ปัจจุบันถือ 11.5% เป็นเงินลงทุน 1,382 ล้านบาท) โดยทําสัญญาให้ Planet Energy Holding Pte. (PEH) เป็นผู้เจรจากับ META และได้จ่ายค่าธรรมเนียมจัดหาหุ้นให้กับ PEH 300 ล้านบาท รวมทั้งเดือนพฤศจิกายน 2567 ได้จ่าย เงินมัดจําค่าหุ้นแบบเรียกคืนได้ให้กับ META 250 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เดือนกุมภาพันธ์ 2568 ได้มีมติเปลี่ยนแปลง ซึ่งมีผลให้จะต้องได้รับเงินคืนจาก PEH 255 ล้านบาท แต่ยังไม่ได้รับคืน สรุปได้ดังนี้

  • วงเงินซื้อหุ้น GEPT 12% ประกอบด้วย เดิม 1,050 ล้านบาท ปรับลดลงเหลือ 945 ล้านบาท
  • ค่าหุ้น GEPT (จ่ายให้META) เดิม 750 ล้านบาท ปรับเพิ่มเป็น 900 ล้านบาท ( 20%) จ่ายไปแล้ว 250 ล้านบาท
  • ค่าธรรมเนียมจัดหาหุ้น / ค่าคอมมิชชั่น (จ่ายให้ PEH) เดิมเป็นค่าธรรมเนียมจัดหาหุ้น 300 ล้านบาท จ่ายไปแล้วทั้งจํานวนปรับเป็นค่าคอมมิชชั่น 5% เท่ากับ 45 ล้านบาท

ทั้งนี้ปี 2567 บริษัทบันทึกผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของหุ้น GEPT 798 ล้านบาท (58% ของเงินลงทุน) ทําให้เงินลงทุนลดลงจาก 1,382 ล้านบาท เหลือ 585 ล้านบาท และผู้สอบบัญชีมีข้อสังเกตของการลงทุนเพิ่มเติมตามข้างต้น

  • ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอทราบความเห็นของคณะกรรมการบริษัท ดังนี้

1.1 ความสมเหตุสมผลของราคาซื้อหุ้น GEPT และการปรับราคาซื้อเพิ่มอีก 20% โดยบริษัทได้หุ้นสัดส่วนเท่าเดิมและ มูลค่ายุติธรรมของหุ้น GEPT ลดลง รวมทั้งการจ่ายเงินมัดจํา พร้อมสรุปข้อมูลที่ใช้พิจารณาลงทุนโดยสังเขป (เช่น อัตราผลตอบแทน เงื่อนไขยกเลิกการลงทุน) มาตรการป้องกันความเสี่ยง (เช่น การเรียกหลักประกัน)

1.2 ความสมเหตุสมผลและประโยชน์สูงสุดที่บริษัทจะได้รับจากการให้ PEH เป็นผู้เจรจาซื้อหุ้นแทนเจรจากับ META โดยตรง ทั้งที่บริษัทมีความสัมพันธ์เป็นผู้ถือหุ้นของ GEPT 11.5% พร้อมสรุปข้อมูลสําคัญของ PEH และสัญญา (เช่น การประกอบธุรกิจ ชื้อผู้ถือหุ้นและกรรมการ รวมถึงความสัมพันธ์กับบริษัททั้งผู้ถือหุ้น กรรมการ และผู้บริหาร ณ วันที่เข้าทําสัญญาและปัจจุบัน กรอบเวลาของสัญญา เงื่อนไขสําคัญตามสัญญา)

1.3 ความคืบหน้าและการดําเนินการเพื่อให้ได้หุ้น GEPT และรับเงินคืนจาก PEH รวมทั้งมาตรการป้องกันความเสี่ยง (เช่น การเรียกหลักประกัน) กรอบเวลาที่จะได้รับหุ้น GEPT และได้รับเงินคืนครบจํานวน ทั้งนี้ขอให้รายงานความคืบหน้าพร้อมกับการนําส่งงบการเงินทุกไตรมาสหรือเมื่อมีความคืบหน้าในการดําเนินการใดๆ ที่สําคัญจนกว่าจะได้หุ้น GEPT หรือได้รับเงินคืนจาก PEH ครบถ้วน

  1. การทยอยจ่ายซื้อคืนหุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอยี่ โฮลดิ้ง จํากัด (WEH)

ตามที่ไตรมาสที่ 2 ปี 2567 ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้บริษัทชี้แจงข้อมูลกรณีทําสัญญาขายหุ้น WEH 1.25 ล้านหุ้น และซื้อคืนในราคาที่สูงกว่า บริษัทชี้แจงว่าเป็นการทําสัญญากู้ยืมเงินโดยใช้หุ้น WEH เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งผู้ให้กู้ ต้องโอนหุ้น WEH คืนเมื่อได้รับชําระเงินครบถ้วนตามสัญญากู้ยืม

ทั้งนี้ ปี 2567 กลุ่มบริษัทไม่สามารถชําระเงินได้ตามกําหนด 5.2 ล้านบาท และมียอดที่ต้องชําระภายในปี 2568 อีก 86.2 ล้านบาท รวมทั้งบริษัทบันทึกผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรม 431 ล้านบาท (33% ของเงินลงทุน) ทําให้เงินลงทุนลดลง จาก 1,290 ล้านบาท เหลือ 859 ล้านบาท ซึ่งผู้สอบบัญชีมีข้อสังเกตตามข้างต้นและการทําสัญญาขายหุ้น WEH และซื้อคืนใน ราคาที่สูงกว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอทราบความเห็นของคณะกรรมการบริษัทดังนี้

2.1 มาตรการป้องกันความเสี่ยงจากการถูกยึด WEH ซึ่งเป็นหลักประกันเงินกู้ยืม

2.2 ความคืบหน้าการชําระหนี้ที่ครบกําหนดแล้วและแนวทางดําเนินการเพื่อชําระหนี้ที่จะครบในปี 2568 ได้ตามกําหนด

  1. การประกอบธุรกิจในอนาคต ปี 2567 บริษัทบันทึกด้อยค่าความนิยมของบริษัท อีโกรนิกส์จํากัด (ประกอบธุรกิจผลิตและจําหน่ายกัญชงกัญชา: บริษัทย่อย 100%) 1,034 ล้านบาท จากมูลค่าเงินลงทุน 1,200 ล้านบาท ทําให้มีค่าความนิยมเหลือ 101 ล้านบาท รวมทั้งบริษัท บันทึกผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของ GEPT และ WEH ตามที่ระบุในข้อ 1 และ 2 รวม 1,229 ล้านบาท ซึ่งผู้สอบบัญชี มีข้อสังเกตตามข้างต้น
  • ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอทราบความเห็นของคณะกรรมการบริษัทดังนี้

3.1 นโยบายการประกอบธุรกิจกัญชงกัญชาในอนาคต รวมทั้งมาตรการป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนต่างๆ ในอนาคต เพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อฐานะการเงิน ผลการดําเนินงาน และสภาพคล่องของบริษัท

3.2 ความครบถ้วนเพียงพอของบันทึกค่าความนิยมหรือมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

[Vision Exclusive] PTTEP เล็ง Q2 โตต่อ ชูธุรกิจดักจับคาร์บอน

[Vision Exclusive] PTTEP เล็ง Q2 โตต่อ ชูธุรกิจดักจับคาร์บอน

[Vision Exclusive] COM7 บุญเก่าอุ้ม Q1 หวั่นแท็กซี่ EV ยังไม่ชัด

[Vision Exclusive] COM7 บุญเก่าอุ้ม Q1 หวั่นแท็กซี่ EV ยังไม่ชัด

[Vision Exclusive] COCOCO โค้งแรกสุดพีค! ส่งออกน้ำมะพร้าวแรง 49%

[Vision Exclusive] COCOCO โค้งแรกสุดพีค! ส่งออกน้ำมะพร้าวแรง 49%

[Vision Exclusive] TOP จ่อขายสินทรัพย์-ลดก่อหนี้

[Vision Exclusive] TOP จ่อขายสินทรัพย์-ลดก่อหนี้

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด