ทรีนีตี้ คัด 10 หุ้นเด่น หุ้นไหนน่าสน เช็กเลย!

            หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด คาด SET Index แกว่งตัว Sideways ในสัปดาห์นี้ โดยมองกรอบแนวรับที่ระดับ 1177 จุด ส่วนแนวต้านประเมินที่ 1230 จุด สำหรับปัจจัยที่น่าติดตามในช่วงต้นสัปดาห์ได้แก่ Reaction ของตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงต่อรายงงานตัวเลขเงินเฟ้อจีนที่ออกมาหดตัว มากกว่าคาดในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่านักลงทุนจะเลือกให้น้ำหนักกับสัญญาณตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังคงอ่อนแอ หรือความคาดหวังทางด้านการผ่อนคลายนโยบายมากกว่า

            ในเชิงกลยุทธ์ ยังคงแนะนำให้ผู้ที่ได้เข้าเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยไปแล้วที่บริเวณดัชนี 1177 จุดสามารถถือครองหุ้นไว้ก่อน โดยกลุ่มหุ้นที่เราแนะนำให้ถือครองต่อไป ยังคงได้แก่ กลุ่ม Domestic
play อาทิ CPALL, CPAXT, HMPRO, AP, SPALI, TIDLOR, VGI
และกลุ่ม Defensive อาทิ BDMS, LHHOTEL, 3BBIF เป็นสำคัญ

– TISA: สำหรับประเด็นโครงการ “ออมหุ้นระยะยาว” (Thailand ISA) ที่ทางประธานตลท.กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้นมองว่าหากเกิดขึ้นได้จริงก็คงเป็นประโยชน์ต่อหุ้นไทยในแง่ของสภาพคล่องได้บ้างแต่ประเมินจะเป็นปัจจัยหล่อเลี้ยงแบบค่อยเป็นค่อยไปในระยะยาวมากกว่า  เมื่อมาเปรียบเทียบกับการให้สิทธิ์ลดหย่อนจูงใจก้อนใหญ่แบบครั้งเดียว ปีต่อปี ซึ่งจะเป็นบวกต่อภาพของสภาพคล่องในระยะสั้นมากกว่า

– U.S. Jobs: สหรัฐฯรายงานตัวเลขตลาดแรงงานประจำเดือนก.พ.ออกมาแย่กว่าที่ตลาด คาดการณ์ไว้ โดยการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) เพิ่มขึ้น 1.51แสนตำแหน่ง น้อยกว่าที่ตลาดคาดที่ 1.60 แสนตำแหน่งในขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 4.0% เป็น 4.1%ซึ่งไม่ถือเป็นเรื่องที่ดีนัก ในสภาวะที่อัตราการมีส่วนร่วมของแรงงาน(Labor force participation rate)ลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนด้วยเช่นกัน

– Our take: ถือเป็นสัญญาณเตือนต่อเนื่องหลังจากที่โมเมนตัมเศรษฐกิจส่วนใหญ่ของสหรัฐฯออกมาแย่กว่าตลาดคาดก่อนหน้านี้โดยตลอด อย่างไรก็ดีตลาดหุ้นสหรัฐฯสามารถทรงตัวได้ในวันศุกร์หลังจากที่ประธาน Fedออกมากล่าวเมื่อคืนวันศุกร์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงอยู่ในสถานะที่ดีโดยตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง และเงินเฟ้อยังคงปรับตัวสู่เป้าหมาย แม้จะยังบอกใบ้ว่าการเคลื่อนไหวทางนโยบายของ Fed ในระยะถัดไปอาจจำเป็นต้องรอดูผลกระทบของมาตรการต่างๆของทำเนียบขาวที่จะทยอยออกมาด้วยเช่นกัน

– Factors: สำหรับปัจจัยที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่

1) การบังคับใช้ภาษีนำเข้า 15%ของจีนต่อสินค้าเกษตรของสหรัฐฯที่จะเริ่มต้นในวันนี้
2)การพบปะพูดคุยกันระหว่างตัวแทนของยูเครนกับสหรัฐฯที่ประเทศซาอุดิอาระเบียในวันที่ 11 มี.ค.
3) เส้นตายการเตรียมเก็บภาษี 25%ของสหรัฐฯต่อการนำเข้าสินค้ากลุ่มเหล็กและอลูมิเนียมจากยุโรปในวันที่12 มี.ค.
4) รายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯประจำเดือนก.พ.ในวันที่ 12 มี.ค.

            ล่าสุดตลาดคาดการณ์ขยายตัว 2.9% YoY และ 0.3% MoM สำหรับHeadline CPI และ 3.2% YoY และ 0.3% MoM สำหรับ Core CPIหากตัวเลขออกมาแตกต่างจากตลาดคาดมองจะส่งผลต่อไปยังคาดการณ์ Fed Funds futuresในช่วงที่เหลือของปีนี้ แม้ว่าการประชุมที่รออยู่ในสัปดาห์หน้า Fed คงจะมีมติคงดอกเบี้ยแน่นอนแล้วก็ตาม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

THAI จับมือ BA พัฒนาธุรกิจศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน

THAI จับมือ BA พัฒนาธุรกิจศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน

MEDEZE โชว์ศักยภาพธุรกิจ ในงาน Opp Day Year End 2024

MEDEZE โชว์ศักยภาพธุรกิจ ในงาน Opp Day Year End 2024

เปิด 8 หุ้นรอด รับมือ SET เสี่ยงร่วง หลังจบศึกซักฟอก “แพทองธาร”

เปิด 8 หุ้นรอด รับมือ SET เสี่ยงร่วง หลังจบศึกซักฟอก “แพทองธาร”

PRM เปิดแผนลงทุนใหม่ พร้อมรับรู้รายได้ Q1/68

PRM เปิดแผนลงทุนใหม่ พร้อมรับรู้รายได้ Q1/68

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด