บล.พาย ชู 10 หุ้นเด่น ราคาไม่แพง – เช็คเลย!

          หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า สงครามการค้ายังกดดัน สหรัฐฯ แคนาดา เม็กซิโก จีน ต่างก็ใช้กำแพงภาษีซึ่งกัน ด้านหุ้นไทยพบว่าหุ้นขนาดใหญ่เต็มไปด้วยแรงกดดัน แม้ถูกแล้วแต่ยังไม่สามารถปรับขึ้นได้ เน้นกลยุทธ์เลือกเป็นรายตัวในตัวที่กำไรยังดี

          ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 670 จุด (-1.5%) ขณะที่ Nasdaq ปรับฐานเช่นกันเพราะนักลงทุนกังวลกับผลกระทบสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับนานาประเทศ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 1.6% หลังมีรายงานว่า OPEC+ จะเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน

          ทรัมป์ยังคงยืนยันที่จะปรับขึ้นภาษีนำเข้าจากแคนาดา เม็กซิโก และจีน ขณะเดียวกันจีนก็ได้ประกาศขึ้นภาษีสินค้าประเภทอาหารและเกษตรจากสหรัฐฯ สอดคล้องกับแคนาดาที่จะปรับขึ้นภาษี 25% ต่อสินค้าของสหรัฐฯมูลค่ารวมกันกว่า 1.55 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯทำให้ความกังวลสงครามการค้ายังคงรุนแรงต่อเนื่อง เมื่อคืนที่ผ่านมาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯกลับมาปรับขึ้น Dollar Index พลิกลงมาอ่อนค่า พร้อมกับราคาทองคำปรับขึ้น สะท้อนถึงนักลงทุนอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยงและเลือกจะถือเพียงสินทรัพย์ปลอดภัย มองเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นทั่วโลกหรือจำกัด Upside ในท้ายที่สุดแล้วการทำสงครามการค้าข้อมูลในอดีตชี้ว่ามักไม่เป็นผลบวกกับใคร หรืออย่างใน 18 – 19 (ช่วงที่เกิดสงครามการค้า) ท้ายที่สุดแล้วธนาคารกลางสหรัฐฯก็จำเป็นต้องออกมาลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมามิได้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเพราะส่วนใหญ่แล้วจะรอประกาศในคืนนี้ประกอบไปด้วย (1) การจ้างงานภาคเอกชนจากสถาบัน ADP Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.41 แสนราย (2) ดัชนี ISM PMI ภาคบริการ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 52.5 ด้านปัจจัยในประเทศวานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับลงต่อเนื่อง (-0.9%) รับแรงกดดันจากหุ้น AOT หลังจากในช่วงบ่ายได้ออกมาแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ว่าจากการชี้แจงในวันที่ 17 ก.พ. ให้ทาง KING Power เลื่อนการจ่ายค่าตอบแทนขั้นต่ำ ก.ย. 24 – ก.พ. 25 ล่าสุดออกมาให้ข้อมูลใหม่เป็นว่าจากสิ้นสุดเดือน ก.พ. 25 เป็นสิ้นสุด เม.ย. 25 การเลื่อนดังกล่าวสะท้อนถึงปัญหาของ King Power แต่มุมมองระยะกลางอาจเป็นความเสี่ยงที่ King Power จะยังสามารถจ่ายผลตอบแทนให้กับ AOT ได้ตามที่เสนอหรือไม่ (Downside กับผลประกอบการ) ทำให้ตลาดหุ้นไทยยังเคลื่อนไหวได้อย่างจำกัดเพราะหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวเต็มไปด้วยแรงกดดัน

          วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1170 – 1185 เชิงกลยุทธ์การลงทุนเน้นมองเป็นรายตัวในหุ้นที่กำไรยังเติบโตได้พร้อมกับราคาหุ้นไม่แพง แม้ Valuation หุ้นไทยจะไม่แพงแต่ยังไม่แนะนักลงทุนเพิ่มพอร์ตการลงทุนเพราะความเสี่ยงยังค่อนข้างสูงไม่ว่าจะ Trump , เศรษฐกิจไทย , กระแสเงินทุน หุ้นแนะนำได้แก่ โรงพยาบาล (BDMS) โรงแรม (CENTEL MINT) ศูนย์การค้า (CPN) การเงิน (MTC SAWAD TIDLOR) ค้าปลีก (BJC CPALL HMPRO)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หุ้นไทยไร้ทิศ-รออะไร

หุ้นไทยไร้ทิศ-รออะไร

[Vision Exclusive] SINGER มือถือขายดี คาดรายได้ Q1 โต 30%

[Vision Exclusive] SINGER มือถือขายดี คาดรายได้ Q1 โต 30%

TFM  ชู 4 กลยุทธ์หนุนเป้ารายได้แตะ 1 หมื่นลบ.ปี 73

TFM ชู 4 กลยุทธ์หนุนเป้ารายได้แตะ 1 หมื่นลบ.ปี 73

ตลท. ประกาศเกณฑ์ SET Awards ปี 68  พร้อมรายชื่อ บจ. ผ่านคัดกรองเบื้องต้น

ตลท. ประกาศเกณฑ์ SET Awards ปี 68 พร้อมรายชื่อ บจ. ผ่านคัดกรองเบื้องต้น

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด