พาย คัด 13 หุ้นเด่น ราคาไม่แพง คาด SET อยู่ในกรอบ 1145 – 1165 จุด

               หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า หุ้นไทยถูกแล้วแต่อาจจะยังถูกต่อไป ท่ามกลางปัจจัยกดดันต่างประเทศ ล่าสุด Trump เริ่มมองถึงโอกาส Tariff กับ EU ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 537 จุด (-1.3%) ขณะที่ S&P500 เข้าสู่ช่วงปรับฐานแล้วเพราะนักลงทุนกังวลว่าสงครามการค้าจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 1.5% นักลงทุนกังวลกับอุปสงค์ที่อาจจะหายไปจากภาวะสงครามการค้า

               เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯรายงานเงินเฟ้อภาคผู้ผลิต (PPI) ขยายตัวเพียง 3.2%YoY ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 3.3%YoY และ PPI ที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานขยายตัว 3.4%YoY ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 3.5%YoY พร้อมกับผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ 2.2 แสนราย ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ 2.25 แสนที่ แต่อย่างไรก็ตามด้วยตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกสะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางดอกเบี้ยที่มีโอกาสผ่อนคลาย แต่ตลาดหุ้นสหรัฐฯกลับไม่สนใจประเด็นข้างต้นและกังวลกับภาษีของ Trump

               ล่าสุดได้เผยถึงแนวทางในการเรียกเก็บภาษีสุราและแอลกอฮอล์จาก EU มากถึง 200% เพื่อตอบโต้ที่ EU เรียกเก็บภาษี 50% ต่อวิสกี้จากสหรัฐฯ โดยรวมทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจต่อสถานการณ์ลงทุนและเงินไหลเข้าไปยังทองคำจนเมื่อคืนที่ผ่านมาทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เรามองปรากฎการณ์ดังกล่าวเข้าสู่ภาวะ TENA (There is no alternative) เมื่อพิจารณาตลาดหุ้นทั่วโลกถูกปกคลุมไปด้วยความเสี่ยงจากสงครามการค้า

               และตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ดีต่อเนื่องมายาวนานก็เริ่มมีระดับ Valuation ที่แพง โดยที่สงครามการค้าจะสร้างแรงปั่นป่วนต่อเศรษฐกิจโลกให้เกิด Downside ประกอบกับ Technology ในสหรัฐฯอาจมีคำถามเกิดขึ้นว่าภายใต้การมา AI ของจีนที่ผลิตด้วยต้นทุนที่ต่ำ Big Company ในสหรัฐฯจะยังต้องจ่ายในราคาที่แพงต่อไปหรือไม่ และที่สำคัญการเติบโตของ Tech สหรัฐฯจะดำเนินต่อไปได้อย่างไรท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง ทำให้ไม่มีทางเลือกใดดีไปกว่าการถือทองคำและภาวะเช่นนี้จะยังดำเนินต่อไปจนกว่าจะมีจุดเปลี่ยน

               ด้านตลาดหุ้นไทยยังคงไร้ความหวังด้วยการเติบโตไม่ชัดเจนทั้ง Sector , เศรษฐกิจ ทำให้นักลงทุนต่างชาติเดินหน้าขายต่อเนื่องสะสม YTD แล้วกว่า 3.06 หมื่นล้านบาท แม้จะถูกแล้วก็ตาม เมื่อประกอบกับเศรษฐกิจโลกที่ยังผันผวนก็เชื่อว่าหุ้นไทยยังยากจะปรับขึ้นและอาจปรับลงตาม Sentiment เชิงลบจากต่างประเทศ

               ปัจจัยติดตามคืนนี้ได้แก่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมิชิแกน Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 63.1 หากต่ำกว่าคาดการณ์จะยิ่งซ้ำเติมตลาดหุ้นสหรัฐฯ

               วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1145 – 1165 จุด ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนไม่เน้นพิจารณาดัชนีเพราะยังเต็มไปด้วยความผันผวน แต่นักลงทุนควรพิจารณาบริษัทที่มีความสามารถแข่งขัน ราคาหุ้นไม่แพง หรือมีปันผลที่น่าสนใจ ประกอบไปด้วย ศูนย์การค้า (CPN) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) การเงิน (MTC TIDLOR) โรงพยาบาล (BDMS) ค้าปลีก (BJC CPALL HMPRO) อาหาร (CPF TU)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

CPALL ลุยความยั่งยืน

CPALL ลุยความยั่งยืน

SUSCO บอร์ดไฟเขียว รุกสถานีแบตเตอรี่รถ EV

SUSCO บอร์ดไฟเขียว รุกสถานีแบตเตอรี่รถ EV

DELTA ทุ่ม 506 ลบ. ซื้อเครื่องจักร เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

DELTA ทุ่ม 506 ลบ. ซื้อเครื่องจักร เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

DELTA กำไรโค้งแรก 5.4 พันล. - โตแรง 154%

DELTA กำไรโค้งแรก 5.4 พันล. - โตแรง 154%

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด