หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) มองแนวโน้มตลาดวันนี้ คาด SET Index จะแกว่งตัวผันผวน โดยระยะสั้นมีโอกาสฟื้นตัวหลังปรับตัวลงแรง 2 วันก่อนหน้า โดยมีแนวต้านบริเวณ 1,187+- จุด หนุนจากบรรยากาศการลงทุนต่างประเทศที่ผ่อนคลายลงบ้าง หลังรัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯระบุว่าทรัมป์อาจประนีประนอมการเก็บภาษีสินค้านำเข้าต่อแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งมีผลไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนในคืนนี้ ส่วนภาพรวมตลาดยังคงกังวลกับทิศทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อจากผลของมาตรการภาษี โดย Bond Yield สหรัฐฯพลิกกลับมาปรับขึ้น ขณะที่ Dollar Index ปรับตัวร่วงแรงหนุนค่าเงินบาทแข็งค่ากลับมาสู่ระดับ 33.68 บาท/ดอลลาร์ หลังอ่อนค่าสูงสุดที่ 34.31 บาท/ดอลลาร์ในช่วงต้นสัปดาห์ ขณะที่ทองคำยังตรึงระดับและน้ำมันดิบยังย่อตัว
เรามองว่าความเสี่ยงจากปัจจัยต่างประเทศจะยังกดดันและสร้างความผันผวนต่อหุ้นในกลุ่ม Global-Related Play ขณะที่กลุ่ม Domestic และ Tourism-Related Play จะยังปรับตัวได้แข็งแกร่งกว่าตลาด เช่น โรงแรม สายการบิน การแพทย์ ค้าปลีก อาหาร ไฟแนนซ์เป็นต้น ส่วนภาพระยะกลาง-ยาว เรายังมองการปรับฐานแรงของ SET Index ยังเป็นโอกาสในการทยอยเข้าลงทุนจาก Valuation ที่ไม่แพง โดยปัจจุบันเทรด PER ราว 12.5 เท่าและ Earnings Yield Gap 5.8% สูงสุดนับตั้งแต่ช่วงโควิด
กลยุทธ์: ยังเน้น Selective Buy หุ้นที่มีแนวโน้ม 2025 แข็งแกร่งและ Valuation ต่ำกว่าช่วงก่อนโควิดอย่างมีนัยยะ
หุ้นเด่นเดือนมี.ค.: BA, BTG, CPALL, MTC, PR9
FSSIA Portfolio: BA, BBL, BTG, CPALL, MTC, NSL, PR9, SEAFCO, SHR
หุ้นเด่นวันนี้: ICHI
– แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 16 บาท
– เบื้องต้นเราคาดผลการดำเนินงาน 1Q25 มีโอกาสเร่งตัวขึ้นตามการผลิตเพื่อเตรียมขายในไตรมาส 2 (ช่วงฤดูร้อน) รวมถึงคาดลูกค้าเดิมกลับมา และอาจได้ลูกค้าใหม่เพิ่ม 1 ราย ช่วยหนุนอัตราการใช้กำลังการผลิต
– แม้ภาพรวมการเติบโตในปี 2025 จะไม่สูงมาก คาดกำไร +3% YoY แต่ด้วยราคาหุ้นปรับตัวลงแรง 23% ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันเทรด PE ไม่แพงเพียง 12 เท่า ขณะที่ปันผลงวด 2H24 อยู่ที่ 0.5 บาท คิดเป็น Yield 4% และปี 2025 คาด Yield 8-9%
– แนวรับ 12 บาท แนวต้าน 13/14 บาท
Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนต่างชาติไหลออกจากภูมิภาคสุทธิหนาแน่นต่อเนื่องอีก US$1,442 ล้าน โดยยังกระจุกที่ไต้หวัน US$1,336 ล้าน รองลงมาคือเกาหลีใต้ US$99 ล้าน ส่วนฝั่งอาเซียนมีเงินผสมผสาน ไหลออกสูงสุดที่ไทย US$26 ล้าน แต่ไหลเข้าอินโดนีเซีย US$36 ล้าน
ประเด็นสำคัญวันนี้:
(+) TFG ตั้งเป้ารายได้รวมปี 2025 +10-15% มาจากธุรกิจ retail shop +50% ธุรกิจหมูปริมาณ +25%, ธุรกิจไก่ปริมาณ +5% ขณะที่ฝั่งราคาเนื้อสัตว์ยังสดใส เราอาจปรับเพิ่มสมมุติฐานราคาเนื้อสัตว์เบื้องต้น เรามอง upside ต่อประมาณการกำไรปีนี้จากแนวโน้มราคาเนื้อสัตว์ที่แข็งแกร่ง และต้นทุนที่ถูกลง เราค่อนข้างชอบ story และการเติบโตในปีนี้ของ TFG ราคาเป้าหมายปัจจุบันที่ 4.1 บาท บน target PE 8.5 เท่า ผู้บริหารอยู่ระหว่างพิจารณาลดสัดส่วนการนำหนุ้เป็นหลักประกันบัญชีมาร์จิ้น เราอาจพิจารณาปรับ target PE เพิ่มขึ้นต่อไป แนะนำ “ซื้อ”
(+) NEO ตั้งเป้ารายได้รวมปี 2025 +10% ตลาดเวียดนามฟื้นตัวแรง ล่าสุด 2 MTD รายได้เวียดนามสามารถฟื้นกลับมาใกล้เคียงช่วงก่อนที่มีปัญหากับ distributor แล้ว ปัจจุบันเราคาดกำไรปี 2025 -3.8% YoY แม้ 1Q25 เผชิญต้นทุนวัตถุดิบและค่าเสื่อมราคาสูงขึ้น แต่ราคาหนุนได้สะท้อนไปแล้วและมอง 1Q อาจเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ คงราคาเป้าหมาย 49.50 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”
(+) MOSHI ผู้บริหารยังคงเป้าการเติบโตของรายได้ปี 2025 ที่ 15-20% YoY หนุนจากการเปิดสาขาเพิ่ม 40 สาขา รวมเป็น 208 สาขา และคาด SSSG +3.5% YoY รวมถึงการออกสินค้าใหม่ แนวโน้ม SSSG ช่วง 2 เดือนแรกของปี 2024 เป็นบวก 7-8% YoY ถือว่าอยู่ในระดับที่สูง และดีกว่าที่เราคาดเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 3.5% คาดกำไรสุทธิ 1Q24 น่าจะเติบโต YoY แต่ QoQ ลดลงตามฤดูกาล คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2025 +12% YoY ราคาเป้าหมาย 50 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”
(0) CKP แนวโน้มกำไรปี 2025 จะผันผวนตาม FX จากหนี้สกุลเงินต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นและจะได้ผลบวกจากต้นทุนดอกเบี้ยที่ปรับลงจะทำให้ทั้งปีมีกำไรเพิ่มขึ้น ขณะที่ปีนี้ยังไม่มีกำลังผลิตใหม่เพิ่ม คงคาดกำไรสุทธิปี 2025 +12% YoY ราคาเป้าหมาย 3.40 บาท เชื่อราคาหุ้นปรับลงในช่วงเดือนที่ผ่านมาได้สะท้อนการเข้าสู่ช่วง Low season ใน 1H25 มากแล้ว แต่เทรนด์ค่า Ft ที่มีแนวโน้มปรับลงอาจยังกดดันราคาหุ้นระยะสั้นอยู่ ราคาหุ้นยังต่ำกว่า NAV ยังแนะนำ “ซื้อ”
(0) TVO บริษัทตั้งเป้าปริมาณขายปี 2025 ไม่น้อยกว่าปี 2024 และคาดราคาถั่วเหลืองทรงตัวถึงปรับลง YoY และมีแผนเริ่ม Operate สายการผลิตใหม่ใน 3Q25 ทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 27% ประเด็นที่ต้องติดตามคือ US Tariff หากจีนมีการปรับขึ้นภาษีนำเข้าถั่วเหลืองจาก US อาจส่งผลให้ราคาถั่วเหลือง CBOT ปรับลดลง และหากจีนหันไปซื้อลูกถั่วเหลืองจากบราซิลแทนมากขึ้นจะทำให้ premium ของบราซิลสูงขึ้นกระทบต่อต้นทุน TVO เพราะปกติซื้อจากบราซิลราว 95% ของถั่วที่ใช้ทั้งหมด
(0) GLOBAL ตั้งเป้าในการขยายสาขาในไทยที่ 9 สาขา จบปี 2025 บริษัทคาดว่าจะจบที่ 99 สาขา เราคาด 97 สาขา และ CAPEX ที่ 2.5 พันลบ. โดยคาดว่ายอดขายรวมโต 3-5%, GPM ที่ระดับ 26% และ SG&A ใกล้เคียงกับปี 2024 ที่ 19% แนวโน้ม SSSG QTD ยังติดลบระดับ 7-8% เรายังแนะนำ ถือจากแนวโน้ม SSSG ที่ฟื้นช้า โดยคาดว่าแนวโน้มกำไรสุทธิจะกลับมาฟื้นในช่วง 2H25
(-) SJWD เราปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2025-26 ลง 18% และ 22% เป็น 923 ลบ. ในปี 2025 และ 1.1 พันลบ. ในปี 2026 จากการปรับคาดการณ์รายได้และอัตรากำไรขั้นต้นลงจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาด และปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 14 บาท อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะเห็นการฟื้นตัวของธุรกิจหลักของบริษัทตั้งแต่ 2H24 ต่อเนื่องไปในปี 2025 โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2025 เติบโต 10-15% YoY เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ”