หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล.กรุงศรี มีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มโรงแรม จาก i) คาดผลประกอบการ 4Q67F-1Q68F ของกลุ่มโรงแรมยังเติบโตได้เด่น YoY, QoQ จากแรงผลักดันทั้งอัตราการเข้าพัก และการปรับขึ้นค่าห้องพัก
ii) มูลค่าหุ้นที่น่าดึงดูด ด้วยราคาหุ้นในปัจจุบันปรับตัวลดลง -9% YTD ต่ำกว่า SET ส่งผลให้หุ้นซื้อขายที่ระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตเพียง -1 ถึง -2 SD ซึ่งเชื่อว่าได้สะท้อนถึงความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของผลประกอบการของกลุ่ม และ ราคาปัจจุบันมีนัยยะว่ากลุ่มโรงแรมจะไม่สามารถปรับขึ้นค่าห้องพักได้ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป
ในขณะที่จากข้อมูลปัจจุบัน รายได้จากห้องพักยังเติบโตได้ระดับเลขตัวเดียวถึงสองหลัก โดยมองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาเป็นโอกาสในการลงทุน โดย MINT และ SHR ยังคงเป็นหุ้นแนะนำของฝ่ายวิจัย
- คาดกำไรปกติรวมของกลุ่ม 4Q67F เติบโต YoY, QoQ
คาดผลประกอบการรวมกลุ่มโรงแรมภายใต้การวิเคราะห์อยู่ที่ X พันล้านบาท ใน 4Q67F (+17% YoY, +28% QoQ) ซึ่งจะคละกันปัจจัยด้านฤดูกาลในแต่ละพื้นที่ ด้วยช่วง High Season ไทยและมัลดีฟส์ คาดว่าจะส่งผลให้โรงแรมที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวเติบโตได้เด่น YoY, QoQ ได้แก่ ERW, AWC และ SHR
สำหรับ MINT ซึ่งเริ่มเข้าสู่ช่วง Low Season ในยุโรป แต่ผลจากไทย และมัลดีฟส์เข้ามาช่วยเสริม และดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงตามภาระหนี้ ทำให้คาดกำไรยังเติบโต YoY, QoQ ในขณะที่ CENTEL คาดว่าจะลดลง YoY แต่เติบโต QoQ เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการเตรียมเปิด/เปิดโรงแรมแห่งใหม่ในมัลดีฟส์ ดังนั้น หากกำไร 4Q67F เป็นไปตามที่คาดกำไรปกติของกลุ่มโรงแรมในปี 2567F จะอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท (+24% YoY) สูงกว่าระดับก่อนโควิดเท่าตัว เป็นผลมาจากความสามารถในการปรับขึ้นค่าห้องพัก และการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- ราคาหุ้นสะท้อนมุมมองเชิงลบต่อแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการไปแล้ว
– ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน หุ้นกลุ่มโรงแรมมีการปรับตัวลดลงมากกว่าดัชนี SET โดยปัจจุบันซื้อขายที่ -1.5 ถึง -2 SD ของค่าเฉลี่ยในอดีตสำหรับ EV/EBITDA และ PBV เชื่อว่าการปรับตัวลดลงของราคาหุ้นสะท้อนมุมมองตลาดที่กังวลต่อการเติบโตของกลุ่มโรงแรมที่คาดเข้าสู่ช่วงการเติบโตระดับปกติ คาดกำไรปกติ FY68F +14% YoY มาอยู่ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท หลังจากช่วงฟื้นตัวอย่างมากในปี FY67 รวมถึงความกังวลต่อการปรับขึ้นค่าห้องพัก เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดเติบโตชะลอตัวมาอยู่ที่ 39.5-40 ล้านคน (+13% YoY) การแข่งขันในกลุ่มโรงแรมจากอุปทานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งโดยปกติเพิ่มขึ้น 3% ต่อปี
-ได้ทำการศึกษาพบว่าระดับราคาหุ้นในปัจจุบันนั้นมีนัยยะเท่ากับว่า กลุ่มโรงแรมจะไม่สามารถเพิ่มหรือปรับเพิ่มอัตราค่าห้องพักได้น้อยที่ 0-3% ตั้งแต่ปี 2568F เป็นต้นไป ซึ่งมองว่าเป็นมุมมองเชิงลบมากเกินไป เนื่องจากรายได้จากยอดจองในปัจจุบันยังเติบโตระดับ Mid-High Single Digit และคาดว่าจะต่อเนื่องไปถึงอย่างน้อยกลางปีนี้ เนื่องจากยังมีความต้องการในการท่องเที่ยว ทั้งนี้ได้ทำ Sensitivity Analysis ว่าการเปลี่ยนแปลงของอัตราค่าห้องพักทุกๆ1% ส่งผลต่อประมาณการกำไรและราคาเป้าหมาย 2-6%
- MINT และ SHR ยังคงเป็นหุ้นแนะนำ
เนื่องจากคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการที่ยังคงเติบโตและค่อนข้างชัดเจน ไม่มีปัจจัยที่เป็นประเด็นที่ตลาดกังวล รวมทั้งมูลค่าหุ้นที่อยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดย MINT ซื้อขายที่ Xx EV/EBITDA และ X.x PBV และ SHR ซื้อขายที่ Xx EV/EBITDA และ X.x PBV ซึ่งอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบในกลุ่ม