“อุตสาหกรรมไทยบรรจุภัณฑ์” ยื่นไฟลิ่ง ขาย IPO 143 ล้านหุ้น

           หุ้นวิชั่น – ‘บมจ.อุตสาหกรรมไทยบรรจุภัณฑ์’ หรือ TIPAK หนึ่งในผู้นำการพัฒนา ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ของประเทศไทย ยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 143,683,270 หุ้น ชูจุดเด่นเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ตอบโจทย์ด้านบรรจุภัณฑ์ด้วยความคิดสร้างสรรค์ ขับเคลื่อนนวัตกรรมที่เพิ่มมูลค่า พร้อมบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความแตกต่าง และมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างความยั่งยืน รวมถึงส่งมอบโซลูชันบริการที่ตรงจุดครบวงจรให้กับภาคอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศ ด้วยมาตรฐานการผลิตระดับสากลของโรงงาน พร้อมประสบการณ์ดำเนินธุรกิจกว่า 50 ปี แต่งตั้ง บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

           นายวีรชัย มั่นสินธร กรรมการผู้จัดการบริษัท อุตสาหกรรมไทยบรรจุภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ” หรือ TIPAK”) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นหนึ่งในผู้นำการพัฒนา ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากกระดาษคราฟท์ (Kraft paper) ในประเทศไทย ที่มีคุณภาพได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากลสูงสุด โดยให้บริการลูกค้าในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมชั้นนำและโรงงานต่างๆ ทั่วประเทศ ภายใต้ตามคำสั่งซื้อของลูกค้า (Made to order) ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์มากว่า 50 ปี วางวิสัยทัศน์ “Solutions Unfold ตอบโจทย์ตรงใจลูกค้า” ก้าวสู่ผู้นำในการให้บริการด้านบรรจุภัณฑ์ครบวงจรของประเทศไทยที่ลูกค้าชั้นนำให้ความเชื่อมั่นมาอย่างยาวนาน ตอบโจทย์เรื่องบรรจุภัณฑ์ด้วยความคิดสร้างสรรค์ มุ่งพัฒนานวัตกรรมให้กับผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมูลค่า (High Value) และสร้างความแตกต่างด้วยเทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ เพื่อส่งมอบโซลูชันบรรจุภัณฑ์ที่ตรงจุดสามารถตอบสนองความต้องการเฉพาะด้านและสนับสนุนความสำเร็จทางธุรกิจให้กับลูกค้าอย่างครบวงจร

           บริษัทฯ เป็นผู้พัฒนา ผลิตแผ่นกระดาษลูกฟูกและกล่องกระดาษลูกฟูกที่ใช้กระดาษคราฟท์หลากหลายเกรดสำหรับทำผิวกล่อง (Kraft Liner Board) และทำลอนลูกฟูก (Corrugating Medium) โดยดำเนินธุรกิจแบบ Business-to-Business (B2B) มีช่องทางจำหน่ายแบบขายตรง (Direct Sales) ผ่านพนักงานฝ่ายขายเพื่อนำเสนอสินค้าและบริการ โดยมีสินค้าหลักแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่

           1) แผ่นกระดาษลูกฟูก (Corrugated Sheet Board) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นด้วยกระดาษคราฟท์ แล้วนำมาประกบกันด้วยกาวลักษณะพิเศษ โดยแผ่นลูกฟูกที่บริษัทฯ ผลิตมีดังนี้ 1.1) ชนิดแผ่นกระดาษลูกฟูก เป็นกระดาษลูกฟูก 3 ชั้นที่มีความแข็งแรงเหมาะกับการใช้บรรจุพัสดุทั่วไป หรือกระดาษลูกฟูก 5 ชั้นเป็นชนิดที่มีความแข็งแรงสูงสามารถรับน้ำหนักบรรจุสินค้าขนาดใหญ่ได้ 1.2) ชนิดของลอนลูกฟูก มีหลากหลายขนาด อาทิ ลอน E ความสูง 1.0-1.8 มิลลิเมตร จำนวนลอน 290-320 เมตร เป็นขนาดลอนเล็กที่สุดและเป็นที่นิยมใช้ในการพิมพ์มากที่สุด, ลอน C ความสูงของลอน 3.2 – 3.9 มิลลิเมตร จำนวนลอน 120 – 145 เมตร เป็นขนาดลอนกลางมีความแข็งแรงทนทานเป็นลอนที่ได้รับการนิยมมาก ฯลฯ

           2) กล่องกระดาษลูกฟูก (Corrugated Box) มีคุณสมบัติโครงสร้างที่แข็งแกร่งและกันกระแทก จากการพัฒนา ผลิตขนาดและรูปลักษณ์ที่เหมาะกับการขนส่งแทบทุกประเภท และได้พัฒนาให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ของลูกค้า ซึ่งช่วยให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เข้าถึงผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งมีการพิมพ์โลโก้ รายละเอียดของสินค้าลงบนตัวกล่องด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ขั้นสูงที่มีความสวยงาม ช่วยส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ เสริมสร้างภาพลักษณ์แบรนด์และสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า ซึ่งเป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีบทบาทสำคัญต่อการทำธุรกิจของอุตสาหกรรมทุกประเภท เช่น อุตสาหกรรมอาหาร อี-คอมเมิร์ซ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น จึงเป็นที่นิยมใช้มากที่สุด โดยบริษัทฯ มีกล่องกระดาษลูกฟูกหลากหลาย อาทิ กล่องฝาชน (Regular Slotted Container – RSC), กล่องฝาเกย (Overlap Slotted Container – OSC), กล่องฝาครอบ (Full Telescope), กล่องไดคัท (Die – cut Box), ไส้กั้น (Partition) เป็นต้น

           นายทิฆัมพร มั่นสินธร ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อุตสาหกรรมไทยบรรจุภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ” หรือ TIPAK”)  กล่าวว่า บริษัทฯ กำหนดพันธกิจเป็นผู้ให้บริการบรรจุภัณฑ์กระดาษแบบครบวงจร (Paper-Packaging Service Solutions) โดยให้ความสำคัญกับ 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ราคา คุณภาพ และบริการ ควบคู่ไปกับการพัฒนาโซลูชันบรรจุภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยบริษัทฯ มีทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพิ่มศักยภาพให้ครอบคลุมลูกค้าได้อย่างกว้างขวางและทั่วถึง เช่น การเพิ่มคุณสมบัติป้องกันความชื้น เพิ่มความแข็งแรง เป็นต้น และตอบสนองต่อแนวโน้มตลาดและเทคโนโลยีใหม่ รวมทั้งการเลือกใช้วัตถุดิบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดรับกับเทรนด์การใช้บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนของผู้บริโภคและผู้ประกอบการที่มีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร ตลอดจนให้ความสำคัญกับบริการหลังการขายเพื่อเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า

           บริษัทฯ มีโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษ 2 แห่ง ได้แก่ โรงงาน จ.สมุทรสาคร และโรงงานจ.ปราจีนบุรี มีกำลังการผลิตแผ่นกระดาษลูกฟูก 146,227 ตัน/ปี และกำลังการผลิตกล่องกระดาษลูกฟูก 154.15 ล้านกล่อง/ปี ซึ่งเป็นฐานการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มีความแม่นยำและคุณภาพการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล ทั้งยังมีการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ส่งผลให้บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตแผ่นและกล่องกระดาษลูกฟูกที่มียอดขายเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย โดยในปี 2567 มียอดขายจากการผลิตและจำหน่ายสินค้าทั้ง 2 ประเภทรวม 2,728.20 ล้านบาท ซึ่งมาจากลูกค้าภายในประเทศ 100% และมีคำสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง (Active Customers) มากกว่า 690 ราย อยู่ในอุตสาหกรรมที่หลากหลายและมีอัตราการเติบโตสูง อาทิ อุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์, อาหารและเครื่องดื่ม, อุตสาหกรรมยาและเครื่องมือแพทย์, อุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น ฯลฯ

           นางสาวนลิน วิริยะเสถียร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า บมจ.อุตสาหกรรมไทยบรรจุภัณฑ์ หรือ TIPAK ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) โดยปัจจุบัน บมจ.อุตสาหกรรมไทยบรรจุภัณฑ์ มีทุนจดทะเบียน 552,000,000 บาท แบ่งเป็น หุ้นสามัญจำนวน 408,316,730 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1.0 บาท โดยเป็นทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 408.32 ล้านบาท และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 143,683,270 หุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 26.03 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์นำเงินที่ได้จากการระดมทุนไป ลงทุนปรับปรุงและพัฒนาเครื่องจักรอุปกรณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตในอนาคต ส่วนที่เหลือใช้ชำระคืนเงินกู้ที่มีกับสถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัทฯ

แชร์:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

SISB คาดกําไรQ1 โต 11.8% จับตานิวไฮครึ่งปีหลัง

SISB คาดกําไรQ1 โต 11.8% จับตานิวไฮครึ่งปีหลัง

GFPT กำไร Q1/68 โต 37.03% ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ลดลง-รายได้เพิ่มขึ้น

GFPT กำไร Q1/68 โต 37.03% ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ลดลง-รายได้เพิ่มขึ้น

MINT Q1/68 กำไร 417 ลบ. ไตรมาส 2 ธุรกิจโรงแรม-อาหารยังสดใส

MINT Q1/68 กำไร 417 ลบ. ไตรมาส 2 ธุรกิจโรงแรม-อาหารยังสดใส

NSL ทุ่ม 870 ลบ. ตั้งโรงงานใหม่ ขยายสายการผลิต-ขายเบเกอรี่

NSL ทุ่ม 870 ลบ. ตั้งโรงงานใหม่ ขยายสายการผลิต-ขายเบเกอรี่

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด