หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุ กำไรปี 67 อ่อนตัวลงจากการแข่งขันรุนแรง แต่คาดปี 68 จะฟื้นตัวได้
▪ กำไร 4Q67 -11%QoQ, -3%YoY และทั้งปี 67 -17%YoY จากกำลังซื้อหดตัวเพิ่มความรุนแรงในการแข่งขัน
▪ ตั้งเป้าธุรกิจปี 68 เชิงรุก แม้สถานการณ์ตลาดยังท้าทายต่อเนื่อง
▪ ปรับประมาณการกำไรปี 68 ลง -4% แต่คาดกำไรปีนี้ยังฟื้นตัวได้ +4.4%YoY
▪ ระยะสั้นยังมีปัจจัยบวกจากเงินปันผลปี 67 ที่ 0.60 บาท XD 7 พ.ค. นี้ Div. yield สูงถึง 7%
▪ แนะนำ “ทยอยซื้อสะสม” เพื่อรอรับปันผล
ประเด็นการลงทุน
▪ กำไร 4Q67 -11%QoQ, -3%YoY และทั้งปี 67 -17%YoY จากกำลังซื้อหดตัวเพิ่มความรุนแรงในการแข่งขัน
กำไรสุทธิ 4Q67 อยู่ที่ 1,293 ลบ. -10.8%QoQ, -14.5%YoY จากยอดโอนลดลง -6%QoQ แต่ทรงตัว +0.1%YoY ที่ 9,018 ลบ. เกิดจากยอดโอนคอนโด AP ที่ลดลงมากทั้ง QoQ และ YoY เนื่องจากปี 67 มีคอนโด AP สร้างเสร็จเริ่มโอนใน 2Q67 เพียง 1 โครงการ ทำให้ 4Q67 ยอดโอนมาจากสินค้าพร้อมขายในสต็อกเป็นหลัก บวกกับ GPM4Q67 ของธุรกิจที่อยู่อาศัย +30bpsQoQ, -351bpsYoY อยู่ที่ 31.7% ซึ่งถือว่ายังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติที่ 32-33% จากยังคงได้รับผลกระทบของสงครามด้านราคาขายของผู้เล่นในตลาดที่รุนแรงในช่วง 2H67 จากปัญหากำลังซื้อหดตัวลง โดยเฉพาะแนวราบ ส่งผลให้กำไรสุทธิทั้งปี 67 ลดลง -17%YoY อยู่ที่ 5,020 ลบ. ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ราว 4% ตามยอดโอนที่ลดลง -3%YoY อยู่ที่ 35,688 ลบ. บวกกับแนวโน้ม GPM ที่อ่อนตัวลง -290bps YoY ที่ 32.4% และส่วนแบ่งกำไรจากคอนโด JV ลดลง -8%YoY ที่ 972 ลบ. รวมถึงค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น +172%YoY
▪ ตั้งเป้าธุรกิจปี 68 เชิงรุก แม้สถานการณ์ตลาดยังท้าทายต่อเนื่อง
แม้ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยปีนี้ยังดูท้าทาย แต่ AP ตั้งเป้าแผนธุรกิจปีนี้เชิงรุก โดยมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 42 โครงการ มูลค่า 6.5 หมื่นลบ. +35%YoY โดยรุกแผนเปิดคอนโด 6 โครงการ มูลค่า 2.02 หมื่นลบ. +105%YoY ซึ่งจะเป็นโครงการ JV ทั้งหมด และโครงการแนวราบ 36 โครงการ มูลค่า 4.48 หมื่นลบ. +17%YoY โดยไฮไลท์อยู่ที่การเปิดตัวโครงการระดับบน 3 โครงการ จากแบรนด์ The Palazzo และบ้านกลางกรุง ซึ่งเลื่อนการเปิดตัวมาจาก 4Q67 รวมมูลค่า 1 หมื่นลบ. ขณะตั้งเป้ายอดจอง (Presales) รวมที่ 5.5 หมื่นลบ. +18%YoY แบ่งสัดส่วนเป็นแนวราบ 68% ที่ 3.75 หมื่นลบ. +21%YoY และคอนโด 32% ที่ 1.75 หมื่นลบ. +11%YoY และตั้งเป้ายอดโอน (ไม่รวม JV) ที่ 3.86 หมื่นลบ. +8%YoY หลักๆ มาจากเป้ายอดโอนแนวราบที่เพิ่มขึ้น +15%YoY
จากเป้ายอดจองและยอดโอนจะเห็นได้ว่าปีนี้บริษัทให้ความสำคัญกับการเติบโตของโครงการแนวราบเป็นหลัก จากมีโครงการแนวราบพร้อมขายเพิ่มขึ้นเป็น 165 โครงการ ณ สิ้นปี 67 จาก 149 โครงการ ณ สิ้นปี 66 ร่วมกับแผนเปิดโครงการแนวราบเพิ่มในปีนี้อีก 36 โครงการ ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ายอดโอนจากคอนโด JV ในปีนี้ที่ 1.3 หมื่นลบ. +30%YoY จากการโอน Backlog คอนโด JV ต่อเนื่องมาจากปี 67 และการระบายสินค้าพร้อมขายในสต็อก รวมถึงปีนี้มีคอนโดสร้างเสร็จพร้อมโอน 2 โครงการ ช่วง 2Q68 ได้แก่ Aspire Sukhumvit-Rama 4 และ Aspire Onnut Station (มูลค่ารวม 7.6 พันลบ. มียอดจองพร้อมโอนแล้ว 70%) คาดจะช่วยหนุนส่วนแบ่งกำไรจากคอนโด JV ปีนี้เพิ่มขึ้น YoY โดย ณ 23 ก.พ. 68 บริษัทมี Backlog แนวราบและคอนโด (รวม JV) รองรับยอดโอนในปีนี้แล้ว 62% ที่ 32.2 หมื่นลบ.
▪ ปรับประมาณการกำไรปี 68 -4%YoY สะท้อนภาพการแข่งขันในตลาดที่ยังดูท้าทาย
เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 68 ลงเล็กน้อย -4%YoY จาก 5,455 ลบ. เป็น 5,239 ลบ. เติบโต +4.4%YoY ปัจจัยหลักเกิดจากกำไรปี 67 ที่ต่ำกว่าคาดราว 4% ขณะที่สถานการณ์กำลังซื้อในปีนี้ที่ยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน รวมถึงการแข่งขันด้านราคาในตลาดที่คาดจะยังเกิดขึ้นต่อเนื่องมาในปีนี้ แต่ยังเชื่อมั่นว่ากำไรของบริษัทจะฟื้นตัวได้จากปีก่อนหน้า จากยอดโอนที่คาดจะเพิ่มขึ้นตามโครงการพร้อมขายที่มากขึ้น รวมถึงแผนเปิดโครงการใหม่เชิงรุก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าทาวน์โฮมซึ่งยังคงมีความต้องการซื้อสูง
ทั้งนี้ยังมีความเสี่ยงในการปฏิเสธสินเชื่อสูงเช่นเดียวกัน ส่งผลให้อุปทานสินค้ากลุ่มทาวน์โฮมมีแนวโน้มชะลอตัวลง จากความระมัดระวังในการพัฒนาสินค้ากลุ่มทาวน์โฮมของผู้พัฒนารายอื่นๆ ในตลาด ทำให้ AP ซึ่งมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง และมีความเชี่ยวชาญในตลาดทาวน์โฮม เกิดความได้เปรียบในการแข่งขันและการแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดมากขึ้น นอกจากนี้ ยังคาดส่วนแบ่งกำไรจากยอดโอนคอนโด JV ที่เพิ่มขึ้น YoY โดยรับผลบวกจากคอนโดที่จะสร้างเสร็จพร้อมโอนในปีนี้ 2 โครงการดังกล่าวข้างต้น
คำแนะนำ
▪ ประเมินราคาเป้าหมายปี 68 อิง PER ที่ 6.0 เท่า และ EPS68F 1.67 บ. ได้ราคาเหมาะสมที่ 10.0 บาท มี Upside 14.3% ขณะมีปัจจัยบวกระยะสั้นจากเงินปันผลปี 67 ที่ 0.6 บ./หุ้น จะขึ้น XD วันที่ 7 พ.ค. 68 คิดเป็น Dividend yield ราว 7%
▪ แนะนำ “ทยอยซื้อสะสมเพื่อรอรับปันผล”