หุ้นวิชั่น – BH ผลงานQ1/2568ตามคาด กำไร 1,734 ล้านบาท (-13%y-y -9%q-q) ตามรายได้กลุ่มผู้ป่วยต่างชาติที่ลดลง 9.7% ขณะที่แนวโน้มโรงพยาบาลอื่นๆ ยังเติบโตดี ชู BDMS นักวิเคราะห์คาดว่ากำไรจะเติบโตเด่นได้ทั้ง y-y และ q-q เหตุมีสัดส่วนรายได้ลูกค้าชาวตะวันออกกลางน้อย เช่นเดียวกันกับ BCH ขณะที่ CHG ยังโตสวย ส่วน PR9 แกร่งจากรายได้ผู้ป่วยต่างชาติยังขาขึ้น
นางสาวมินทรา รัตยาภาส นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บริษัท หลักทรัพย์กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับหุ้นวิชั่นว่า หลังจากที่บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) (BH) ได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2568 ออกมา ถือว่าใกล้เคียงกับที่ฝ่ายวิเคราะห์ฯ และตลาดได้คาดการณ์อาไว้ โดยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 ของ BH มีกำไรสุทธิ 1,734 ล้านบาท (-13%y-y -9%q-q) ใกล้เคียง Consensus คาด และดีกว่าเราคาด +3% จากต้นทุนต่ำกว่าคาด ทำให้มี Gross margin 50.3%
ขณะที่ภาพรวมกำไรสุทธิไตรมาส 1/2568 ลดลง เนื่องจาก 1.รายได้ (-6%y-y -5%q-q) ลดลงจากรายได้ต่างชาติ (-10%y-y -6%q-q) ตามการใช้บริการและ Intensity ค่ารักษา ส่วนรายได้ชาวไทย (+1%y-y -4% q-q) เติบโตเล็กน้อย และ 2. ค่าใช้จ่าย SG&A (+6%y-y -5%q-q) เพิ่มขึ้น y-y จากค่าใช้จ่าย พนักงาน
กำไรสุทธิไตรมาส 1/2568 คิดเป็น 23% ของปี 2568 ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2/2568 คาดว่า กำไรสุทธิยังลดลง y-y (ไตรมาส 2/2567 กำไรสุทธิ 1,932 ล้านบาท) แต่จะฟื้นตัว q-q เนื่องจากคาดรายได้เริ่มเห็นการฟื้นตัว q-q จากรายได้ ต่างชาติโดยเฉพาะกลุ่มตะวันออกกลางไม่มีผลกระทบรอมฎอนเหมือนไตรมาส 1/2568 และคาด Gross margin ดีขึ้นต่อเนื่อง q-q จาก Intensity ค่ารักษาฟื้นตัวจากต่างชาติ
คงประมาณการปี 2568 คาดกำไรสุทธิ 7,692 ล้านบาท (-1%y-y) ลดลงเล็กน้อย เนื่องจากคาดรายได้ (+1%y-y) เติบโตเล็กน้อย และค่าใช้จ่าย SG&A (+2%y-y) เพิ่มขึ้นกว่าการเติบโตของรายได้
BDMSเด่นสุดในกลุ่ม
แนวโน้มผลการดำเนินงานของ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) (BDMS) คาดการณ์ว่าจะทำ All time high ทั้งรายได้และกำไรสุทธิ โดยชอบ BDMS มากสุดในกลุ่มโรงพยาบาลที่ศึกษา เนื่องจากความพร้อมให้บริการ และศักยภาพการรักษาครบวงจร ประกอบกับตลาดมีความยืดหยุ่นทั้งชาวไทย และต่างชาติ ทำให้คาดสามารถรักษาอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิสม่ำเสมอ ต่อปี 10% CAGR ปี 2568-2570\
ทั้งนี้คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 จะมีกำไรสุทธิ 4,370 ล้านบาท (+7%y-y +1%q-q) เติบโต y-yเนื่องจาก
- คาดรายได้ (+7%y-y +3%q-q) เติบโตตามการใช้บริการทั้ง OPD และ IPD จาก อานิสงส์บวกโรคระบาดไข้หวัดใหญ่/ทางเดินหายใจช่วงต้นไตรมาส ประกอบกับการกระจายตัวของ ลูกค้าต่างชาติ ช่วยลดผลกระทบเทศกาลรอมฎอน
- คาดบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดี ทำให้มี EBITDA margin 21% ทรงตัว y-y q-q
- คาดได้สิทธิประโยชน์ภาษี BOI ช่วยให้ค่าใช้จ่าย ภาษีลดลง y-y
หากไตรมาส 1/2568 เป็นไปตามเราคาด จะทำให้กำให้กำไรสุทธิคิดเป็น 25% ของทั้งปี 2568
คงคำแนะนำ Buy สำหรับ BDMS (TP 37.50) เลือกเป็นหุ้นเด่นกลุ่มฯ ร่วมกับ BCH (TP 19) เนื่องจากมีมุมมองบวกต่อการเติบโตในระยะยาวของ BDMS จากความพร้อมให้บริการและมี ศักยภาพการรักษาครบวงจร คาดกำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ย 10%CAGR ปี 2568-2570, ตลาดที่มีความยืดหยุ่นทั้งชาวไทยและต่างชาติครอบคลุมตั้งแต่ระดับกลางขึ้นไป ช่วยลดความเสี่ยงฐานลูกค้า กระจุกตัว และไม่เห็นความเสี่ยง downside ต่อประมาณการกำไรสุทธิ
*CHG คาดกำไรโตสูง
คาดว่าในไตรมาส 1/2568 บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) (CHG) จะมีกำไรสุทธิ 220 ล้านบาท (-17%y-y +140%q-q) ลดลง y-y เนื่องจากคาดรายได้รักษาพยาบาล (+1%y-y, +7%q-q) เติบโตเล็กน้อย y-y ตามทิศทางรายได้กลุ่มเงิน สด และรายได้ประกันสังคมลดลงจากไม่มีหัตถการผ่าตัดกระเพาะ, การขยายเครือข่ายโรงพยาบาลและ ศักยภาพให้บริการ ทำให้คาดค่าใช้จ่าย SG&A (+13%y-y -28%q-q) เพิ่มขึ้น y-y และไม่มีรายได้บริหารโรงพยาบาลเมืองพัทยา
ส่วนกำไรสุทธิคาดเติบโตสูง q-q เนื่องจากรายได้ประกันสังคมไม่มีผลกระทบปรับลดอัตราจ่ายเหมือนไตรมาส 4/2567 และค่าใช้จ่าย SG&A ลดลงจากไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษ
หากกำไรสุทธิไตรมาส 1/2568 เป็นไปตามคาด จะคิดเป็น 22% ของกำไรสุทธิปี 2568
แนวโน้มไตรมาส 2/2568 คาดกำไรสุทธิเติบโต y-y (2Q67 กำไรสุทธิ 192 ล้านบาท) เนื่องจากคาดรายได้เติบโตดีขึ้น y-y จากรายได้กลุ่มเงินสด ประกอบกับคาดรายได้ประกันสังคมไม่มีผลกระทบปรับอัตราจ่ายค่ารักษาพยาบาลโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง (RW>2) จำนวน -53 ล้านบาท เหมือนในไตรมาส 2/2567 และคาดว่าช่วยชดเชยการไม่มีรายได้หัตถการผ่าตัด กระเพาะได้
ส่วนกำไรสุทธิคาดลดลง q-q เป็นไปตามทิศทางรายได้ลดลงตามปัจจัยฤดูการของ การใช้บริการ โดยคงกำไรสุทธิปีนี้ที่ 1,020 ล้านบาท (+6%y-y) กลับมาเติบโต เนื่องจากคาดรายได้ (+9%y-y) เติบโตจากรายได้กลุ่มเงินสด (+10%y-y) และรายได้ประกันสังคม (+9%y-y) เติบโตดีขึ้น ประกอบกับคาดมี Intensity ค่ารักษาโรคซับซ้อนสูงขึ้น และการการันตีค่ารักษา ประกันสังคม RW>2 อัตรา 12,000 บาท/RW
แนะนำ Buy สำหรับ CHG ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 2.52 บาท ประเมินด้วยวิธี DCF WACC 7.0% L-T growth 3% เนื่องจากทิศทางกำไรสุทธิไตรมาส 1/2568 ยังสอดคล้องกับที่คาดไว้ และคาดครึ่งปีหลังจะเติบโตทั้ง y-y และ h-h, ศักยภาพการรักษาโรคที่ครบวงจรมากขึ้น (โรคมะเร็ง, หลอดเลือดสมอง) ช่วยเพิ่ม Intensity ค่ารักษา ลดต้นทุนการส่งต่อคนไข้ประกันสังคม และคาดกำไรสุทธิปี 2568-2570 เติบโตต่อปี +11%CAGR ส่วนราคาหุ้นซื้อขาย PE ปี 2568 เทียบเท่า Forward PE ต่ำกว่า -1.0SD
BCH คาดยังแกร่ง
แนวโน้มไตรมาส 1/2568 บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) (BCH) เบื้องต้นคาดกำไรสุทธิ ราว 330 ล้านบาท (+3%y-y, +41%q-q) เนื่องจากคาดรายได้จะเติบโต 4%y-y และ 7%q-q เติบโตจากกลุ่มเงินสดชาวไทยเพิ่มขึ้น รับอานิสงส์การระบาดโรคไข้หวัดใหญ่ ประกอบกับรายได้ประกันสังคมเติบโตดีขึ้นและไม่มีผลกระทบเหมือนไตรมาส 4/2567 พร้อมคาด Gross margin อยู่ที่ 27.5% (vs 28.1% ใน 1Q67, 22.8% ใน 4Q67)
คงประมาณการปี 25678 คาดกำไรสุทธิ 1,592 ล้านบาท (+24%y-y) กลับมาเติบโตเนื่องจาก คาดรายได้รักษาพยาบาล (+10%y-y) เติบโตจากรายได้กลุ่มเงินสด OPD+IPD (+7%y-y) ตามการใช้บริการเพิ่มขึ้น และรายได้ประกันสังคม (+10%y-y) เติบโตดีขึ้น ประกอบกับคาด มี Intensity ค่ารักษาโรคซับซ้อนสูงขึ้น และการการันตีค่ารักษาประกันสังคม RW>2 อัตรา 12,000 บาท/RW
แนะนำ Buy สำหรับ BCH (TP 19.00) วิธี DCF WACC 7.2% L-T growth 3% เนื่องจากปัจจุบันลูกค้ากลุ่มตะวันออกกลางของ BCH ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Self-pay ทำให้แตกต่างกับ BH, ศักยภาพการรักษาโรคที่ครบวงจรมากขึ้น โดยเฉพาะโรคมะเร็ง จะช่วยเพิ่ม Intensity ค่ารักษาโรคทั้งกลุ่มเงินสดและประกันสังคม รวมทั้งลดต้นทุนการส่งต่อคนไข้ประกันสังคม ทำให้คาดจะเป็นบวกต่ออัตรากำไรมีแนวโน้มดีขึ้น และคาดปี 2568 กำไรสุทธิกลับมาเติบโตดีขึ้น โดยจะเห็นการเติบโต y-y ในไตรมาส 1/2568 เป็นต้นไป
PR9 รายได้ต่างชาติขาขึ้น
บล.กสิกรไทย ระบุ คาดกำไรไตรมาส 1/2568 บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) (PR9) จะลดลง QoQ แต่เพิ่มขึ้นมาก YoY โดยคาดว่ากำไรปกติไตรมาส 1/2568 จะอยู่ที่ 190 ล้านบาท ลดลง 8% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 20% YoY
กำไรที่ลดลง QoQ น่าจะมาจากปัจจัยตามฤดูกาล ขณะที่การเติบโตอย่างแข็งแกร่ง YoY น่าจะหนุนจากรายได้และอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น คาดว่ารายได้รวมจะเติบโต 12% YoY ในไตรมาส 1/2568 สอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโตของรายได้ทั้งปีในอัตราเลข 2 หลัก ของ PR9 กำไรปกติไตรมาส 1/2568 น่าจะคิดเป็น 23.5% ของประมาณการทั้งปี
รายได้ผู้ป่วยต่างชาติยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้น จากผู้บริหาร PR9 ระบุว่ารายได้ผู้ป่วยต่างชาติยังคงมีแนวโน้มที่ดี โดยรายได้ผู้ป่วยทุกภูมิภาคเติบโต YoY โดยรายได้จากผู้ตะวันออกกลางยังคงเติบโต MoM แม้จะอยู่ในช่วงรอมฎอน และมีสัดส่วนผู้ป่วยที่รัฐบาลอุดหนุนค่ารักษามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น คาดรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติจะคิดเป็น 22% ของรายได้รวมในไตรมาส 1/2568 เพิ่มขึ้นจาก 20% ในไตรมาส 4/2567
แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 26.80 บาท จากการปรับเพิ่มประมาณการกำไรเล็กน้อย โดย PR9 ซื้อขายด้วย PER ปี 68 ที่ 22 เท่า ต่ำกว่า -1SD (24.7 เท่า)
รายงานโดย : พชรธร ภูมิคำ รองบรรณาธิการข่าว Hoonvision