หุ้นวิชั่น – บล.หยวนต้า ส่องหุ้น BEM โดยคาดกำไรปกติ 1Q25 ที่ 860 ลบ. (+1% QoQ, +2% YoY) เติบโตเล็กน้อย YoY จากธุรกิจระบบรางที่ได้ประโยชน์จากทั้งอัตราค่าโดยสารที่สูงขึ้นและจำนวนนผู้โดยสารที่เติบโตต่อเนื่อง คาดรายได้หลักที่4.4 พันลบ. (-1% QoQ, +2% YoY) แบ่งเป็น 1) ธุรกิจทางด่วนคาดที่ 2.2 พันลบ. (-2% QoQ, -4%YoY) ลดลงทั้ง QoQ และ YoY ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์คานทางด่วนพระราม 2 ถล่ม และ แผ่นดินไหว
2) ธุรกิจระบบรางคาดที่ 1.8 พันลบ. (+3% QoQ, +8% YoY) ตามยอดผู้ใช้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเฉลี่ย 1Q25 ที่ทำ All Time High ต่อเนื่องอยู่ที่ 4.5 แสนเที่ยว/วัน (+1% QoQ, +5% YoY) อีกทั้งได้ประโยชน์จากการปรับอัตราค่าโดยสารขึ้นเป็น 17-45 บาท จากเดิมที่ 17-43 บาท ตั้งแต่เดือน ก.ค.
2024 และ
3) ธุรกิจพัฒนาเชิงพาณิชย์คาดที่ 290 ลบ. (-18% QoQ, +10% YoY) GPM คาดที่ 45.2%(+8bps QoQ, +71bps YoY) ดีขึ้นทั้ง QoQ และ YoY จากการบริหารต้นทุนในธุรกิจหลักที่ดีขึ้นแนวโน้มธุรกิจรางชะลอตัว QoQ แต่มีเงินปันผลรับใน 2Q25
แนวโน้มกำไร 2Q25 คาดเติบโต YoY จากธุรกิจระบบรางยังแข็งแกร่ง ทั้งในด้านจำนวนนผู้โดยสารที่ เติบโต YoY ต่อเนื่อง และอัตราค่าโดยสารที่สูงกว่าเทียบ 2Q24 อย่างไรก็ดี คาดเหตุแผ่นดินไหวเป็น Sentiment ลบระยะสั้นต่อทั้งจำนวนนผู้ใช้ทางด่วนและรถไฟฟ้าในเดือน เม.ย. เบื้องต้นคาดตัวเลขจะ เห็นการฟื้นตัว MoM ในช่วงเดือน พ.ค. เป็นต้นไป อย่างไรก็ดี เนื่องจากใน 2Q25 มีเงินปันผลรับจากTTW และ CKP รวม 337 ลบ. หนุนให้คาดผลประกอบการเติบโต QoQ
- ปรับคาดการณ์จำนวนนผู้ใช้ทางด่วนปี 2025-2026
เราปรับประมาณการกำไรปกติปี 2025-2026 ลง 3-6% เป็น 4.1 พันลบ. (+9% YoY) และ 4.3 พันลบ.(+5% YoY) ตามลำดับ จากการปรับลดสมมติฐานจำนวนนผู้ใช้ทางด่วนเฉลี่ยลง 2-3% เป็น 1.12-1.13ล้านเที่ยว/วัน หรือทำได้เพียงทรงตัว YoY จากเดิมที่คาดเติบโตในระดับ 1-2% YoY เพื่อสะท้อนแนวโน้มการเติบโตที่ชะลอตัวลงด้วยปัจจัยกดดันจาก
1) โครงการก่อสร้างตามแนวทางด่วนที่ทำให้จราจรติดขัด
2) การทำงานแบบ Work from Home ที่มากขึ้น และ
3) การเดินทางที่อาจชะลอตัวลง ในช่วงสั้นจากเหตุการณ์ใน 1Q25 ส่งผลให้คาดการณ์รายได้ลดลง 3-4% เป็น 1.75 หมื่นลบ. (+4%YoY) และ 1.80 หมื่นลบ. (+3% YoY) ตามลำดับ เราคงคาดการณ์จำนวนนผู้ใช้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่4.5 แสนเที่ยว/วัน (+5% YoY) และ 4.7 แสนเที่ยว/วัน (+4% YoY) ตามลำดับ
ประเมินแนวโน้มการเติบโตยังแข็งแกร่งโดยยังไม่ได้รวม Upside หากโครงการ Mixed-Use ตามแนวรถไฟฟ้าได้แก่ One Bangkok และ Dusit Central Park เปิดอาคารส่วนอื่นเพิ่มเติม
- คงแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2025 ใหม่ที่ 9.50 บาท/หุ้น
เราปรับเพิ่ม WACC เป็น 6.4% (จากเดิมที่ 5.6%) เพื่อสะท้อนสภาวะตลาดที่มีความเสี่ยงมากขึ้น เมื่อรวมกับการปรับประมาณการของเราทำให้ได้ราคาเหมาะสมใหม่ที่ 9.50 บาท เราคงมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ BEM ที่อิงการบริโภคในประเทศเป็นหลัก ทำให้คาดผลกระทบจาก Trade War จำกัด อีกทั้งยังมี Upside ให้ติดตามจาก 1) โครงการทางด่วน Double Deck 2) โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ และ 3) ความชัดเจนของนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายที่คาดจะช่วยหนุนการเติบโต ของจำนวนนผู้ใช้รถไฟฟ้า คงคำแนะนำ “ซื้อ”