CIVIL กำไรปี 67 โต 22% คุมต้นทุน-รับรู้ค่า K เพิ่ม

           หุ้นวิชั่น-ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) (CIVIL) เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2567 บริษัทฯ มีกําไรสุทธิ ในปี 2567 จำนวน 115 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 22% เมือเทียบกับปีก่อน มีสาเหตุหลักมาจากต้นทุนที่ประหยัดได้จากงานโครงการขนาดเล็ก และค่า K ที่รับรู้เพิ่มขึ้นในระหว่างงวด และจากการจําหน่ายวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการโอนกลับประมาณการหนี้สินจากคดีความที่สิ้นสุดแล้ว (One-time)

           บริษัทฯ มีรายได้ ปี 2567 เท่ากับ 4,968 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับปีก่อน ถึงแม้ว่าธุรกิจก่อสร้างมี รายได้ลดลงซึ่งสาเหตุหลักมาจากช่วงครึ่งปีแรกงาน ก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่มีมาตรการความปลอดภัย ของภาครัฐที่เข้มงวด แต่อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมีราย ได้จากการจําหน่ายวัสดุก่อสร้างมาชดเชยทําให้ภาพรวมรายได้เพิ่มขึ้น 1%

ปัจจัยที่อาจมีผลต่อการดําเนินงานหรือการเติบโตในอนาคตดังนี้

1. ราคาต้นทุนวัสดุก่อสร้าง แม้ราคาวัสดุก่อสร้างที่สําคัญ เช่น เหล็ก ปูนซีเมนต์มีแนวโน้มลดลงในปี 2567 แต่ราคายังอยู่ ระดับสูงเมื่อเทียบกับในอดีต นอกจากนี้ ยังมีความผันผวนจากราคาพลังงาน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในต้นทุนการก่อสร้างที่สําคัญ บริษัทมีการติดตามความเคลื่อนไหวของราคาวัสดุก่อสร้างที่สําคัญ มีการจัดทําประมาณการการสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างที่ สําคัญเมื่อได้รับงานใหม่ นอกจากนี้งานโครงการก่อสร้างของภาครัฐ มีค่างานก่อสร้างผันแปรตามค่า K (Escalator factor) ที่ช่วยลดผลกระทบจากการปรับขึ้นของราคาวัสดุก่อสร้าง
2. แนวโน้มการปรับขึ้นค่าแรงขั้นตํ่า ยังคงมีความท้าทายจากผลกระทบทางด้านต้นทุนแรงงาน หากมีการประกาศปรับขึ้น ค่าแรงขั้นตํ่า อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นตํ่าดังกล่าวยังไม่มีข้อสรุป โดยการพิจารณาปรับขึ้น ค่าแรงขั้นตํ่าต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการค่าจ้างชุดใหญ่ (ไตรภาคี) บริษัทฯคาดว่าผลกระทบดังกล่าวอาจจะ ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้
3. ESG Trend แรงกดดันที่ทําให้ผู้ประกอบการในภาคธุรกิจก่อสร้างต้องเร่งปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับแนวทางของ ESG โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ การใช้วัสดุที่มีการปล่อย Greenhouse Gas (GHG) การใช้พลังงานในพื้นที่ก่อสร้าง การ บริหารจัดการทางด้านฝุ่น เสียง นํ้าเสีย ของเสียและขยะจากงานก่อสร้าง นอกจากนี้ ยังต้องติดตามข้อกําหนดด้าน สิ่งแวดล้อมที่จะเป็นเงื่อนไขในการเข้าประมูลงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่อาจเข้มงวดมากขึ้น
4. สภาพเศรษฐกิจยังคงมีความไม่แน่นอน เนื่องจากภาวะสงคราม สภาพเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว รวมถึงผลกระทบจากสงครามทางการค้า อาจส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวมในประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้