หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รานงาน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง Thai Coconut (COCOCO): ระยะสั้นไม่เด่น แต่คาดกำไรจะกลับมาทำ New High ใน 2Q-3Q25 บริษัทหลักทรัพย์ Yuanta รายงานว่า จากการเข้าร่วมงาน Yuanta Corporate และได้พูดคุยกับผู้บริหารของ COCOCO มองว่าแนวโน้มผลประกอบการในระยะกลางถึงยาวยังคงเป็นบวก แม้ว่ากำไรในระยะสั้น (1Q25) ยังไม่โดดเด่น โดยคาดว่ากำไรปกติใน 1Q25 จะอยู่ที่ 79 ล้านบาท (+11.0% QoQ, -58.8% YoY) โดยมีรายละเอียดสำคัญดังนี้:
รายได้คาดอยู่ที่ 1,640 ล้านบาท (-5.0% QoQ, +19.5% YoY) ลดลง QoQ เนื่องจากเป็นช่วง Low Season แต่เพิ่มขึ้น YoY จากการขยายฐานลูกค้าทั้งรายเดิมและรายใหม่
อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) คาดว่าจะอยู่ที่ 18.0% ฟื้นตัว QoQ จากผลของการปรับขึ้นราคาขาย แต่ลดลง 870 bps YoY เนื่องจากราคามะพร้าวที่สูงขึ้น
ค่าใช้จ่าย SG&A/Sales คาดว่าจะลดลง QoQ เนื่องจากไม่มีการบันทึกโบนัสพนักงานเหมือนใน 4Q24 และทรงตัว YoY เนื่องจากบริษัทยังคงบริหารค่าใช้จ่ายในการนำสินค้าไปจัดแสดงในต่างประเทศให้อยู่ในระดับใกล้เคียงปีก่อน
คาดกำไรจะกลับมาทำ New High ได้อีกครั้งใน 2Q25-3Q25 จากการพ้นช่วง Low Season และคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายเดิม โดยเฉพาะน้ำมะพร้าวจากจีนที่ยังเติบโตต่อเนื่อง รวมถึงเริ่มรับรู้รายได้จากลูกค้าใหม่ในจีนและสหรัฐฯ ทั้งในธุรกิจน้ำมะพร้าวและอาหารสัตว์เลี้ยง ขณะที่ GPM คาดว่าจะกลับมาอยู่เหนือระดับ 20% ได้อีกครั้งจากผลของการขึ้นราคาขายเต็มไตรมาส
บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปี 2025 ที่ 10,000 ล้านบาท (+51.8% YoY) โดยผู้บริหารยังคงมองว่าเป็นไปได้ แม้จะเป็นเป้าหมายที่ค่อนข้าง Aggressive โดยมีแรงหนุนจาก 1) ธุรกิจน้ำมะพร้าวและน้ำกะทิที่คาดว่าเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% YoY 2) ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่คาดว่าจะเติบโต 40% YoY จากการได้ลูกค้ารายใหญ่ในสหรัฐฯ และ 3) ธุรกิจสินค้าอื่น เช่น ไอศกรีมผลไม้ ที่คาดว่าจะเติบโตเท่าตัวจากการจำหน่ายในจีน สหรัฐฯ และยุโรป อย่างไรก็ตาม ยังมี Downside Risk หากรัฐบาลสหรัฐฯ เดินหน้าเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยสูงถึง 37% ซึ่งอาจทำให้ลูกค้าสหรัฐฯ ชะลอคำสั่งซื้อ
โรงงานในฟิลิปปินส์จะเป็นปัจจัยหลักในการเติบโตตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป โดยจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ใน 1Q26 ซึ่งจะช่วยให้บริษัทได้เปรียบในการแข่งขันจาก 1) ราคามะพร้าวในฟิลิปปินส์ที่ต่ำกว่าประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญ และ 2) อัตราภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ของฟิลิปปินส์เพียง 17% ต่ำกว่าของไทย (37%) และเวียดนาม (46%) ซึ่งทำให้ COCOCO มีความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้น และตั้งเป้ารายได้ 15,000 ล้านบาทในอีก 3 ปีข้างหน้า อีกทั้งยังมีแผนจะนำบริษัทในเครือ Thai Awesome เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในปี 2027
