หุ้นวิชั่น – DELTA เผยแผนธุรกิจปี 2568 มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI และขยาย Data Center รองรับการเติบโตตลาดโลก เตรียมเปิดตัวชิปรุ่นใหม่และขยายทีม R&D อีกกว่า 100 คนในอินเดีย พร้อมขยายสำนักงานในอาเซียน ตั้งเป้าสู่ RE100 ภายในปี 2573 เร่งพัฒนานวัตกรรม เสริมศักยภาพการแข่งขัน สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนระยะยาว
นายวิกเตอร์ เฉิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตในปี 2568 ด้วยการขับเคลื่อนธุรกิจผ่านผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการขยายธุรกิจ Data Center โดยมีแผนเปิดตัวชิปรุ่นใหม่ รองรับการเติบโตของตลาด AI และขยายกำลังการผลิต รวมถึงส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
กลยุทธ์หลักของ DELTA ในปีนี้มุ่งเน้นการสร้างการเติบโตผ่านเทคโนโลยี AI (Leverage AI-driven Growth) โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ให้เป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโต พร้อมขยายการผลิตและการวิจัย (Manufacturing & R&D Expansion) เพื่อตอบโจทย์ตลาดโลก นอกจากนี้ ยังเน้นการลงทุนในทรัพยากรบุคคลเพื่อขยายองค์ความรู้ และขยายธุรกิจโซลูชันระดับภูมิภาค
ในส่วนของการขยายตลาดระดับภูมิภาค (Regional Expansion) บริษัทฯ ได้เปิดสำนักงานใหม่ในกรุงฮานอย (เวียดนาม) เขตโจฮอร์ (มาเลเซีย) และกัวลาลัมเปอร์ เพื่อสนับสนุนการเติบโตในตลาดอาเซียน ขณะเดียวกันยังมุ่งสู่เป้าหมายการใช้พลังงานหมุนเวียน 100% (RE100) ภายในปี 2573 โดยการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับสถาบันการศึกษาและองค์กรต่างๆ
อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญ คือ การผลักดันโครงการ “Design in India, Design for the World” ด้วยการเปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งใหม่ในเมืองบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย ตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 โดยเพิ่มทีมงาน R&D อีกกว่า 100 คน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับการพัฒนานวัตกรรมระดับโลก (Strengthen Global Innovation)
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงต้องติดตามประเด็นข้อพิพาทกับสำนักงานใหญ่ที่ไต้หวัน ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล โดยเตรียมแผนรองรับความเสี่ยงในด้านต่างๆ และพร้อมปรับตัวให้สอดรับกับนโยบายภาษีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งคาดว่าผลกระทบจะไม่มาก แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังและปรับกลยุทธ์อย่างเหมาะสม
ด้านโครงการ Data Center ในประเทศไทย DELTA มีบทบาทสำคัญในการออกแบบและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งขณะนี้กำลังติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้คำแนะนำแก่นักลงทุนในการพิจารณาการลงทุนระยะยาว เนื่องจากบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาว
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการรวม 4.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโต 12% จากปีก่อนหน้า โดยอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 25% แม้ว่ากำไรจากการดำเนินงานจะได้รับผลกระทบในไตรมาสสุดท้ายของปี แต่กำไรสุทธิทั้งปีอยู่ที่ 529 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับรางวัลด้านการพัฒนาและความยั่งยืน สะท้อนถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งและความสำเร็จในหลายด้าน ซึ่งคาดว่าจะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในปี 2568