JMARTผลงานเด่นสุด โบรกให้เป้าเชิงกลยุทธ์ 12.90 บ.

            หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด ระบุถึง JMART จะเติบโตเด่นสุดใน 4Q ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 25F เติบโต 30% จากการผนึกกำลัง Ecosystem ของทุกกลุ่มธุรกิจดังนี้ ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ไอที ตามการพัฒนาสินค้า IT และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ของค่ายโทรศัพท์ต่าง ๆ ส่วนสำหรับธุรกิจ สุกี้ตี๋น้อย ที่อยู่ในเครือ มีโอกาสขยายตัวเพิ่มเติม บริษัทจึงมีแผนเปิดร้านอาหาร ตี๋น้อย บาร์บีคิว เพิ่มเติม

            JMT ยังมีโมเมนตัมการเติบโตต่อเนื่องจาก 2H24 จนถึงตลอดปี 25F ตามการเก็บเงินสดที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่บริษัทเริ่มดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างจริงจังตั้งแต่ 2Q24 ส่วนภาพรวมหนี้ภาคครัวเรือนก็ยังอยู่ในระดับสูง โดยตั้งเป้าปี 68 งบลงทุนซื้อหนี้ไว้เบื้องต้น 2,000 ล้านบาท มูลค่าหนี้ราว 1 หมื่นล้านบาท

            SINGER-SGC ที่ได้ดำเนินธุรกิจการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อโทรศัพท์มือถือ Lock Phone ที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่

            ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินแนวโน้มผลประกอบการของ JMART จะเติบโตเด่นสุดใน 4Q จาก JMT ที่ผ่านจุดต่ำสุดของปีมาแล้ว ตามแนวโน้ม cash collection ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงแผนปรับปรุงการติดตามหนี้โดยการใช้กระบวนการทางกฎหมายที่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองอย่างยั่งยืน และจะเข้าสู่ช่วง high season ในงวด 4Q24F

            ผลประกอบการของ SINGER และ SGC มีทิศทางที่ดีขึ้นจากการขยายสินเชื่อ Locked Phone ผ่าน SG Finance+ ที่ตั้งเป้าแตะ 100,000 สัญญาภายในปีนี้ และทำการตลาดขยายพาร์ทเนอร์ให้มากขึ้น พร้อมกับการจัดการค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

            คาดหวังรายงานกำไรสุทธิใน 2H24F ส่วนของ KBJ ผลประกอบการขยายตัวผ่าน Samsung Finance+ ธุรกิจ Mobile ดีขึ้นจากการขยายแบรนด์ใหม่ พร้อมกับรับอานิสงส์จากการเปิดตัว iPhone 16 และประเมิน SSSG อยู่ในกรอบ 7-10% ของ Retail shop ผลประกอบการของ JAS Asset ดีขึ้นต่อเนื่อง ตามการเปิดศูนย์การค้าใหม่ที่รามคำแหง หนุนผลประกอบการให้ก้าวกระโดด โดยปัจจุบันมี occ rate เฉลี่ยราว 90%

            ร้านสุกี้ตี๋น้อย มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ตามรายได้ที่ขยายตัวจากการขยายสาขา พร้อมกับเข้าสู่ช่วง high season ของธุรกิจ คาดการณ์กำไรสุทธิในปี 24-26F เท่ากับ 1.3 พันล้านบาท (พลิกจากขาดทุนสุทธิในปีก่อนที่ 447 ล้านบาท), 1.54 พันล้านบาท +16%YoY และ 1.88 พันล้านบาท +22%YoY ตามลำดับ คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ยแบบ CAGR ที่ 12% ต่อปี ตามการรับรู้ผลประกอบการของบริษัทย่อยของกลุ่มที่ดีขึ้น และผลของการสร้าง Ecosystem ภายในกลุ่มแนวรับ 11.80/11.50 ไม่ควรต่ำกว่าลงมา แนวต้าน 12.30/12.90

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

[Vision Exclusive] SUSCO เติมน้ำมันยอดดี ไฮซีซั่นหนุนการเดินทาง

[Vision Exclusive] SUSCO เติมน้ำมันยอดดี ไฮซีซั่นหนุนการเดินทาง

SYNEX ผนึก AWS รุกให้บริการคลาวด์ พร้อมขยายสู่ภูมิภาค

SYNEX ผนึก AWS รุกให้บริการคลาวด์ พร้อมขยายสู่ภูมิภาค

THAI จับมือ BA พัฒนาธุรกิจศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน

THAI จับมือ BA พัฒนาธุรกิจศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน

MEDEZE โชว์ศักยภาพธุรกิจ ในงาน Opp Day Year End 2024

MEDEZE โชว์ศักยภาพธุรกิจ ในงาน Opp Day Year End 2024

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด