หุ้นวิชั่น-ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (MALEE) เปิดเผยว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่เท่ากับ 308 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปี 2566 ที่มีผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ 80 ล้านบาท ผลประกอบการดีขึ้น 285% YoY เป็นผลมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น 7% และมีประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากต้นทุนสินค้าหลักที่มีการปรับราคาสูงขึ้น
บริษัทฯ และบริษัทย่อยมียอดขายรวม 8,456 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% YoY โดยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนการขายต่างประเทศเติบโต 33% YoY จากธุรกิจพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามสัญญาและรับจ้างผลิต (Contract Manufacturing Business: CMG) และธุรกิจสินค้ายี่ห้อของบริษัท ขณะที่สัดส่วนการขายในประเทศลดลง 4% YoY
ทั้งนี้ตลาดน้ำผักและผลไม้พร้อมดื่มภายในประเทศมีมูลค่า 11,373 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12% YoY โดยมีสัดส่วนมูลค่าตลาดและอัตราการเติบโต โดยที่กลุ่มตลาดน้ำผลไม้พรีเมียมพร้อมดื่ม (Premium Ready-to-Drink: RTD Fruit Juice) ในช่วงเวลาเดียวกันเติบโตขึ้น 14% YoY มีมูลค่า 3,574 ล้านบาท Malee เป็นผู้นำในตลาดน้ำผลไม้พรีเมียมจากส่วนแบ่งทางการตลาดที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทิศทางการดำเนินธุรกิจ
บริษัทฯ ยังคงมุ่งหน้าสร้างผลกำไรให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสร้างผลประกอบการที่ขี้นทั้งในส่วนยอดขายและผลกำไร โดยยอดขายรวม 3 ปีย้อนหลังเติบโต 14% CAGR และผลกำไรในปีนี้มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดเทียบกับปีที่ผ่านมา
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในปี 2568 บริษัทฯ จะขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ที่เคยทำอย่างต่อเนื่อง ด้วย One Malee คือ 1 บริษัท 1 ทีม 1 เป้าหมาย ทำให้องค์กรมีเป้าหมายเดียวกัน มุ่งเชื่อมประโยชน์ในฟังก์ชันโอเปอเรชั่นการทำงานต่างๆ พร้อมทั้งกำหนดปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญเพื่อเพิ่มยอดขายอย่างมีกำไร ด้วยการเติบโตของยอดขายสินค้ายี่ห้อ Malee & Chokchai Farm ให้มากขึ้น โดยบริษัทมิได้จำกัดการเติบโตของยอดขายธุรกิจรับจ้างผลิต และพยายามลดต้นทุนการผลิตและการบริหารจากการใช้กำลังการผลิตที่มีอยู่ใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น การจัดหาวัตถุดิบจากหลากหลายแหล่งให้ได้เงื่อนไขทางการค้าที่ดี พร้อมทั้งรักษาระดับอัตราการทำกำไร และมีแผนเปิดตัวสินค้าผลิตภัณฑ์ใหม่ (NPD: New Product Development) 1-2 รายการในปีนี้และปีหน้า ที่อยู่นอกกลุ่มน้ำผักผลไม้ โดยทิศทางการดำเนินธุรกิจประกอบด้วย
ด้านสินค้าภายใต้แบรนด์ Malee & Chokchai Farm : มุ่งเน้นเพิ่มปริมาณการขายสินค้าในตลาดเป้าหมาย โดยใช้กลยุทธ์การตลาดและการขายใน 4 เสาหลักทางการค้า คือ
- Mental Availability ในการเป็นเครื่องดื่มที่มอบสุขภาพที่ดีและความสุขให้ผู้บริโภคในแต่ละวัน
- Physical Availability กระจายสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพทั่วถึงทุกช่องทางการจัดจำหน่ายเพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้สะดวก
- Relevant Portfolio ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ใหม่พร้อมโปรเจกต์นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่
- Improved Customer Preference ด้วยการร่วมวางแผนกับคู่ค้าในการขับเคลื่อนมูลค่าตลาดในกลุ่มน้ำผลไม้และผลิตภัณฑ์นม
▪ สร้างการเติบโตของสินค้าชื่อแบรนด์ในต่างประเทศให้มากขึ้นผ่านกลยุทธ์ 4 เสาหลักทางการค้าข้างต้น และพัฒนาช่องทางการขายให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยมีเป้าหมายในประเทศที่มีการเติบโตสูง เช่น จีน กัมพูชา เกาหลี สหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ ที่มีศักยภาพ
▪ ขยายการเติบโตของสินค้าชื่อแบรนด์ในประเทศด้วยการสร้างการรับรู้แบรนด์ การเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดน้ำผลไม้พรีเมียมพร้อมดื่มผ่าน 4 เสาหลักทางการค้า และขยายการเติบโตในช่องทางต่างๆ พร้อมสินค้าใหม่ๆ นอกกลุ่มน้ำผักผลไม้
▪ ด้านการรับจ้างผลิต : รักษาและสร้างการเติบโตของลูกค้าปัจจุบัน ขณะเดียวกันก็รักษาอัตราผลกำไรขั้นต้นและพยายามเพิ่มลูกค้ารายใหญ่ให้มากขึ้น รวมถึงลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพเพื่อเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น ซึ่งมีโอกาสอย่างมากสำหรับลูกค้าธุรกิจรับจ้างผลิต
▪ ออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค/ลูกค้า มี functional benefit ที่มีประโยชน์สำคัญในกลุ่มน้ำผลไม้และสินค้าที่อยู่ในกลุ่มอื่นๆ
▪ ธุรกิจเวียดนาม : มุ่งสู่การเติบโตในสินค้าชื่อแบรนด์และเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น บริหารจัดการค่าใช้จ่ายและต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มลูกค้ารายใหม่