หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด คาดตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวน ขณะที่นักลงทุนซื้อขายด้วยความระมัดระวังก่อนที่ปธน.ทรัมป์จะประกาศมาตรการ ภาษีศุลกากรตอบโต้ในวันที่ 2 เม.ย. (ตรงกับ 03.00 น. วันที่ 3 เม.ย. ตามเวลาไทย) ที่ทำเนียบขาว ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าจะนำไปสู่สงครามการค้าทั่วโลก กระทบการเติบโตทางเศรษฐกิจและเร่งเงินเฟ้อ โดยโกลด์แมน แซคส์ปรับเพิ่มความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยจาก 20% เป็น 35% พร้อมคาดว่า Core PCE จะอยู่ที่ 3.5% ภายในสิ้นปี 2568 และอัตราว่างงานจะขยับขึ้นแตะระดับ 4.5%
- ด้านข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้รายงาน :
– ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตปรับตัวลงสู่ระดับ 49.0 ในเดือนมี.ค. ต่ำกว่าที่คาด บ่งชี้ถึงการหด
ตัวของภาคการผลิตสหรัฐฯ อันเนื่องมาจากผลกระทบจากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน รวมทั้ง
ความกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรของปธน.ทรัมป์
– แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดของเฟดแอตแลนต้าคาด GDPA 1Q25F ของสหรัฐฯ จะหดตัว 3.7%
- ปัจจัยในประเทศ :
(-) วอลุ่มตลาดยังเบาบาง
(-) GPSC/BGRIM รับผลลบหลังปรับลดค่าไฟเหลือ 3.99 บาท/หน่วย
ตลาดหุ้นไทยยังไร้ปัจจัยบวกใหม่หนุน โดยยังต้องติดตามยังคงเป็นปัจจัยสงครามการค้าซึ่งเป็นปัจจัยสร้าง
ความผันผวนให้กับตลาด ในเชิงกลยุทธ์เราประเมิน SET Index แกว่งตัว sideway ในกรอบ 1,150-1,170 เน้น
selective buy หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวเช่น VGI ที่เข้าคำนวณดัชนี SET50 ส่วน ROJNA เข้า SET100 ขณะ
ที่ GULF จะเข้าซื้อขายในวันพรุ่งนี้
- Stock pick : MTC แนวโน้ม 1Q คาดดีขึ้น YoY เป้าเชิงกลยุทธ์ที่ 41 บาท
แนวโน้มยอดขายยังเติบโตทั้งจากในและต่างประเทศ
ผู้บริหารตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อเติบโตระหว่าง 10-15% พร้อมคุม NPL ให้ไม่เกิน 2.70% ควบคู่การปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบและเป็นธรรม ส่วน NIM มีแนวโน้มชะลอตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากรับรู้ต้นทุนทางการเงินของหุ้นกู้ชุดใหม่ในระดับสูงเต็มปี แต่ด้านแรงกดดันจากต้นทุนทางการเงินมองว่าจะเริ่มผ่อนคลายลงช่วง2H25F หลังจะมีแผน refinance หุ้นกู้
แนวโน้ม 1Q25F คาดทรงตัว QoQ แต่ดีขึ้น YoY จากแนวโน้มสินเชื่อชะลอตัวลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล รวมถึงสินเชื่อที่ขยายตัวในปีที่แล้วส่วนหนึ่งเป็น top up loan กับลูกค้าเดิม ส่งผลต่อภาระหนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และส่งผลต่อการควบคุมคุณภาพหนี้ เป็นความเสี่ยงต่อการตั้งสำรองที่สูงขึ้นและอาจสูงกว่าเป้าที่ไม่เกิน 3% ส่วน YoY ดีขึ้นตามฐานสินเชื่อ และแนวโน้ม CoF ลดลง
เราประเมินกำไรสุทธิปี 25-26F เท่ากับ 6.59 พันล้านบาท +12%YoY และ 7.76 พันล้านบาท +18%YoY ตามลำดับ แนะนำ “ซื้อ” มีราคาเป้าหมายที่ 50 บาท อิง PBV 2.45 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยย้อนหลังระยะยาว (6.33
เท่า) – 1.5 SD สูงกว่า SET FIN ที่ 1.20 เท่า แต่เรามองว่าเหมาะสมเนื่องจากการเติบโตของธุรกิจโดดเด่นกว่าอุตสาหกรรมโดยเฉพาะสินเชื่อจำนำจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ ทั้งการขยายสาขา (เราคาด +185 สาขา)สินเชื่อ (เราคาด +12%) และฐานลูกค้า รวมถึงสามารถควบคุมคุณภาพลูกหนี้ได้ดี (NPLs ratio > 2.7%) และ Credit cost ที่คาดว่ากำลังผ่านจุดพีคไปแล้ว ขณะที่แนวโน้ม CoF คาดว่าจะผ่อนคลายลงในช่วง 2H25F
สำหรับในเชิง sentiment ปัจจุบันมีอันดับ SET ESG rating ที่ AA จึงเป็นหุ้นที่น่าสนใจจากประเด็นการปรับเงื่อนไขของกองทุน LTF เป็น ThaiESG X รวมถึงผลของนโยบายเศรษฐกิจที่กระตุ้นกำลังซื้อฐานราก และแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงที่เหลือของปีนี้ เป็น sentiment เชิงบวก
แนวรับ 38.00/36.50 ไม่ควรต่ำกว่าลงมา แนวต้าน 39.25/40.75-41.00