SCGP เป้า EBITDA ที่ 1.8หมื่นล. แย้มงบไตรมาส 1/68 เติบโตดี

          หุ้นวิชั่น – SCGP ตั้งเป้า EBITDA ปีนี้ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท มุ่งพัฒนาทรัพยากรบุคคล ลดต้นทุน 600 ล้านบาท พร้อมวางงบลงทุนที่ 13,000 ล้านบาท ตลาดอินโดนีเซียโอกาสเติบโต ราคาเศษกระดาษซึ่งเป็นวัตถุดิบหลัก ยังอยู่ในระดับทรงตัว ช่วยเพิ่มมาร์จิ้นครึ่งปีแรก คาดแนวโน้มยอดขายไตรมาส 1/68 เติบโตต่อ ดีมานด์ใช้กระดาษบรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น

          นายวิชาญ จิตร์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในปี 2568 ไว้ที่ 18,000 ล้านบาท โดยมุ่งเน้นการพัฒนาทรัพยากรบุคคลเพื่อลดต้นทุน 600 ล้านบาท ควบคู่กับการเพิ่มการลงทุนด้านนวัตกรรม และเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน ด้วยการใช้พลังงานทางเลือกเพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน

          นายวิชาญ ระบุว่า ในปี 2568 บริษัทจะให้ความสำคัญกับการเติบโตของธุรกิจ FAJAR ในประเทศอินโดนีเซีย โดยคาดว่าในไตรมาส 1 แนวโน้มการเติบโตยังคงดีขึ้นต่อเนื่อง โดยผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์สามารถปรับราคาขายได้ และมีทิศทางขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ทั้งนี้ SCGP ยังคงครองความเป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์กระดาษบรรจุภัณฑ์อันดับ 1 ของประเทศไทย แม้การแข่งขันในตลาดอาเซียนจะยังคงรุนแรง

          สำหรับงบลงทุนในปี 2568 บริษัทได้วางงบประมาณไว้ที่ 13,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงบลงทุนปกติและการขยายกำลังการผลิต (Organic Growth) ประมาณ 8,000-10,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะใช้ในงานซ่อมบำรุงและโครงการประหยัดต้นทุน

          ในส่วนของแนวโน้มยอดขายไตรมาส 1/2568 คาดว่าจะเติบโตได้ทั้งจากไตรมาสก่อนหน้าและจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากความต้องการใช้กระดาษบรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นตามการอุปโภคบริโภคในกลุ่มประเทศอาเซียน นอกจากนี้ ราคากระดาษบรรจุภัณฑ์ในอินโดนีเซียยังมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในไตรมาส 1/2568 หลังจากที่ปรับตัวลดลงในไตรมาส 4/2567

          สำหรับวัตถุดิบหลักอย่างเศษกระดาษ ราคายังคงทรงตัว ซึ่งอาจช่วยให้ต้นทุนการผลิตลดลงในไตรมาส 1/2568 และสนับสนุนให้มาร์จิ้นของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงครึ่งปีแรก

          ในส่วนของรายได้รวมในปี 2567 เมื่อเทียบกับปี 2566 ยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตาม รายได้จากการส่งออกปรับตัวลดลงจาก 19% เหลือ 17% เนื่องจากยอดส่งออกไปประเทศจีนลดลง ขณะที่บริษัทสามารถเพิ่มยอดขายในประเทศได้ถึง 42% รวมถึงขยายการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนจาก 79% เป็น 84% โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ที่ยังคงมีความต้องการผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ในระดับสูง

          SCGP ยังได้รับรางวัลด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม พร้อมเดินหน้าแผนการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ท่ามกลางความท้าทายในตลาดอาเซียนที่ยังคงมีการแข่งขันสูง

แชร์:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

THAI จับมือ BA พัฒนาธุรกิจศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน

THAI จับมือ BA พัฒนาธุรกิจศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน

MEDEZE โชว์ศักยภาพธุรกิจ ในงาน Opp Day Year End 2024

MEDEZE โชว์ศักยภาพธุรกิจ ในงาน Opp Day Year End 2024

เปิด 8 หุ้นรอด รับมือ SET เสี่ยงร่วง หลังจบศึกซักฟอก “แพทองธาร”

เปิด 8 หุ้นรอด รับมือ SET เสี่ยงร่วง หลังจบศึกซักฟอก “แพทองธาร”

PRM เปิดแผนลงทุนใหม่ พร้อมรับรู้รายได้ Q1/68

PRM เปิดแผนลงทุนใหม่ พร้อมรับรู้รายได้ Q1/68

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด