บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SE-ED รายงานผลประกอบการปี 2567 ภาพรวมธุรกิจสำหรับปี 2567 เศรษฐกิจไทยโดยรวมยังอยู่ในทิศทางที่ชะลอตัวลงจากปีก่อน ในด้านตลาดแรงงาน ภาคการผลิตและบริการยังคงทรงตัว แม้ว่าจะมีการฟื้นตัวในบางพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก แต่ ภาระหนี้สินครัวเรือนที่ยังสูงและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทำให้การจ้างงานยังไม่ขยายตัวอย่างที่คาดหวัง อีกทั้ง ธุรกิจค้าปลีกยังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ ที่เกิดขึ้นทั้งในภาคเหนือและภาคใต้ในช่วงครึ่งปีหลัง โดยส่งผลต่ออำนาจการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่ลดลง และมีความกังวลต่อค่าครองชีพที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ปรับตัวให้สอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบันมากขึ้น โดย การผลักดันสัดส่วนสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง โดยเฉพาะ กลุ่มสินค้าผลิตเองและกลุ่มสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังควบคุมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับสาขา ทั้ง ค่าเช่าและค่าตอบแทนพนักงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึง การปิดสาขาที่ไม่ทำกำไร
📌 การปรับโครงสร้างสาขา
🔻 การปิดสาขา
บริษัทฯ ปิดสาขาที่ไม่สามารถทำกำไรได้ในปี 2567 จำนวน 27 สาขา ส่งผลให้บริษัทฯ ควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 บริษัทฯ มีสาขาที่เปิดดำเนินการอยู่ทั้งหมด 200 สาขา
✅ การเปิดสาขาใหม่บริษัทฯ เปิดสาขาใหม่ ในปี 2567 จำนวน 7 สาขา ได้แก่พัทลุง (ถนนราเมศวร์) เดอะมอลล์บางแค (สาขา Relocate) เซ็นทรัลนครปฐม ตราด (ถนนตัดใหม่) บิ๊กซี ยะลา บิ๊กซี ปัตตานี ทวีกิจ บุรีรัมย์
📊 การเติบโตของธุรกิจค้าส่ง
รายได้จาก กลุ่มธุรกิจค้าส่งเติบโต 6.5% จากปีก่อน
บริษัทฯ ขยายฐานลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มโรงเรียนเอกชน
จัดฝึกอบรม พัฒนาหลักสูตรทักษะภาษาอังกฤษ เพื่อผลักดันการศึกษาไทยสู่มาตรฐานสากล
กลุ่มสินค้าหนังสือ (Book) และ Digital Product เติบโตตามเป้าหมาย
📲 การพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ & Digital Transformation
📌 บริษัทฯ กำลังพัฒนาช่องทางออนไลน์ให้สะดวกและรวดเร็วขึ้น
📌 เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาซื้อสินค้าและบริการทางออนไลน์มากขึ้น
📌 ปรับปรุงโครงสร้างธุรกิจ เพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างรายได้จากธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Digital
📌 บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับ การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการร่วมกับพันธมิตรด้านการศึกษา, ผู้ให้บริการ Content และเทคโนโลยีระดับโลก
📚 ก้าวสู่ยุคใหม่ของธุรกิจหนังสือ & ศูนย์กลางการเรียนรู้
📌 รักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจหนังสือ
📌 เดินหน้าสู่ยุคใหม่ในการเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ บนแพลตฟอร์มทั้ง ออนไลน์และออฟไลน์
📌 ต่อยอดธุรกิจให้ตอบโจทย์ยุคดิจิทัลและการศึกษาสมัยใหม่
สำหรับปี 2567 บริษัทฯ ขาดทุนสุทธิตามงบการเงินรวมเท่ากับ 25.31 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 61.37 ล้านบาท คิดเป็น 170.20% เกิดจาก ขาดทุนสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการเท่ากับ 27.53 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 52.31 ล้านบาท คิดเป็น 211.11% เนื่องจาก รายได้ธุรกิจค้าปลีกลดลง 17% ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนมาจับจ่ายใช้สอยช่องทางออนไลน์มากขึ้น
โดยผู้บริโภคได้รับส่วนลดจากแต่ละแพลตฟอร์มที่ใช้กลยุทธ์การทำราคาเพื่อการแข่งขันอย่างดุเดือด และยังได้รับผลกระทบจาก เหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ในภาคเหนือและภาคใต้ อีกทั้ง ต้นทุนสินค้านำเข้าเพิ่มขึ้น จากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่มีการผันผวนเมื่อเทียบกับปีก่อนประมาณ 6.8% รวมถึง การรับรู้ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง 2.64 ล้านบาท
นอกจากนี้ ปีก่อนยังมีกำไรจาก การวัดมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน 22.50 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังสามารถ เพิ่มยอดขายจากช่องทางค้าส่งได้ 6.5% จากปีก่อน
